ไม่มีคำพูดไหนจะบรรยายความตื่นเต้นของเว่ยชางเฟิงที่ได้พบเว่ยหรูเหยียนกับจางเซวียนอีกครั้ง ตอนที่เขารู้แน่แล้วว่าไม่มีทางได้กลับสู่ทวีปแห่งปรมาจารย์ ก็รู้สึกสิ้นหวังอยู่นาน เพราะคิดว่าคงต้องแยกจากลูกสาวของเขาไปจนชั่วชีวิต
หลังจากสวมกอดเว่ยหรูเหยียนไว้แน่นด้วยความตื่นเต้น เว่ยชางเฟิงก็ตั้งต้นอธิบาย “จากที่จอมราชันย์ปีศาจเฉียนคุ่นพูด ดูเหมือนผมจะมีสภาวะพิเศษ ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้หรูเหยียนเกิดมาพร้อมกับสภาวะกายพิษแต่กำเนิด”
“สภาวะพิเศษ?” จางเซวียนขมวดคิ้ว
เขาใช้หอสมุดเทียบฟ้าตรวจสอบร่างกายของเว่ยชางเฟิงตั้งแต่แรกพบอีกฝ่ายในทวีปแห่งปรมาจารย์ ซึ่งก็ไม่มีอะไรพิเศษ เขาคือผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง
เป็นไปได้หรือที่หอสมุดเทียบฟ้าจะวินิจฉัยผิดพลาด?
“แล้วจอมราชันย์ปีศาจเฉียนคุ่นบอกหรือเปล่าว่าสภาวะพิเศษนั้นคืออะไร?” จางเซวียนถาม
“บอก เขาบอกว่าผมถือกำเนิดมาพร้อมกับตัวอ่อนของจิตวิญญาณ ผมมีตัวอ่อนของจิตวิญญาณที่ทำให้ผมเรียกคืนรากฐานของจิตวิญญาณกลับมาได้แม้เมื่อมันสูญสลายไปแล้ว ทำให้ผมไม่สูญเสียตัวตนของผมไปหลังจากที่ฟื้นคืนชีพจากสระบาดาล” เว่ยชางเฟิงตอบ
“ถือกำเนิดพร้อมกับตัวอ่อนของจิตวิญญาณ?” จางเซวียนขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม
เขาไม่เคยได้ยินชื่อสภาวะพิเศษแบบนี้มาก่อน แต่มันคือความสามารถที่เหนือชั้นมาก เพราะแม้แต่จอมราชันย์อมตะก็ยังไม่อาจคงความเป็นตัวตนแบบเดิมไว้ได้หลังจากที่ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
สิ่งนี้น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้เว่ยหรูเหยียนเก่งกาจปราดเปรื่องมาก
ส่วนเหตุผลว่าทำไมหอสมุดเทียบฟ้าถึงมองไม่เห็นสภาวะพิเศษของเว่ยชางเฟิง จางเซวียนคิดว่าตอนนั้นพลังของมันคงยังอ่อนด้อยเกินไป หรือไม่ สภาวะพิเศษนี้ก็ฝังตัวนิ่งอยู่ในจิตวิญญาณของเว่ยชางเฟิง และเพิ่งถูกกระตุ้นให้แสดงอานุภาพอีกครั้งหลังจากที่เขาเสียชีวิต
แต่ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไร จางเซวียนก็แสนจะโล่งใจที่เว่ยชางเฟิงยังมีชีวิตอยู่
เขาดูออกว่าเว่ยหรูเหยียนรู้สึกผิดตลอดมาที่ท่านพ่อต้องสังเวยชีวิตเพื่อให้เธออยู่รอด ซึ่งนั่นคือปราการที่เธอไม่อาจก้าวข้ามไปได้ เมื่อไรก็ตามที่คิดถึงท่านพ่อ ทั้งความสำนึกในบุญคุณและความรู้สึกผิดก็จะท่วมท้นในหัวใจ
บางที เหตุการณ์ที่พลิกผันครั้งนี้อาจปลดเปลื้องเว่ยหรูเหยียนให้หลุดพ้นจากพันธนาการเรื่องความตายของท่านพ่อของเธอได้
“นายน้อย นี่คือทรัพย์สมบัติล้ำค่าทั้งหมดที่ผมได้มาจากทะเลท่วมท้น” เว่ยชางเฟิงพูดขณะมอบแหวนเก็บสมบัติวงหนึ่งให้จางเซวียน
จางเซวียนรีบกวาดตาดูข้าวของในนั้นและพบดอกไม้เที่ยงคืนกับเหล็กโดดเดี่ยว ทำให้ถอนหายใจอย่างโล่งอกได้
ลงท้าย ก็กลายเป็นเว่ยชางเฟิงนี่เองที่คว้าทรัพย์สมบัติต่างๆตัดหน้าพวกเขาไป
“ผมอยากให้คุณช่วยอารักขาผมหน่อย ผมจะปลีกวิเวกเดี๋ยวนี้ เพื่อฝ่าด่านวรยุทธไปเป็นจอมราชันย์ให้ได้!”
ครืนนนน!
เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง จางเซวียนกำลังจะปลีกวิเวกเพื่อฝ่าด่านวรยุทธ ก็พอดีกับที่พื้นดินเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมากะทันหัน รังสีอันน่าสะพรึงกลืนกินพื้นที่โดยรอบอย่างรวดเร็ว
จางเซวียนมองตามอย่างหวาดระแวง เห็นรอยแยกแห่งมิติสีดำขนาดมหึมาที่แบ่งท้องฟ้าเป็น 2 ซีก
พลังจิตวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ทั่วสรวงสวรรค์ถูกรอยแยกแห่งมิตินั้นกลืนกินอย่างรวดเร็ว ทำให้ทะเลท่วมท้นเกิดความไม่เสถียรอย่างรุนแรง
ทั่วทั้งบริเวณนั้นใกล้จะพังทลาย
ราชันย์เทพเจ้าผู้ทรงเกียรติหลิวเหยียนกับคนอื่นๆตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว พวกเขาตั้งคำถามด้วยใบหน้าซีดเผือด “มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านอาจารย์…”
จ้าวหย่ากับคนอื่นๆมองจางเซวียนอย่างร้อนใจ
“ดูเหมือนมีใครนำหญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์ทั้ง 3 ต้นไปแล้ว…” จางเซวียนหรี่ตา
ก่อนหน้านี้ เขาพบว่าหญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์ทั้ง 3 ต้นถูกใช้รักษาความเสถียรให้กับรอยแยกแห่งมิติที่ไม่มั่นคงและเต็มไปด้วยอันตราย แต่ดูเหมือนใครสักคนจะเด็ดมันออกไป ส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างกะทันหัน
รอยแยกแห่งมิติขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ช้าก็ครอบคลุมทั่วทั้งท้องฟ้า พื้นที่ที่จางเซวียนเคยพบน้ำทิพย์ปฐพีเข้มข้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน และยังมีอีกหลายดินแดนที่ถูกรอยแยกแห่งมิติกลืนกินไปทั้งหมด
ปราการของทะเลสาบดาวหางก็ถูกฉีกกระชากอย่างรวดเร็วด้วยคลื่นความสั่นสะเทือนของมิติที่พุ่งออกมาจากรอยแยกสีดำนั้น
เท่าที่เห็น ไม่ช้าไม่นานทะเลท่วมท้นก็คงพังทลายจนไม่เหลือซาก
“ท่านอาจารย์ เราจะทำอย่างไรดี?” จ้าวหย่าถามอย่างร้อนใจ
หากยังเป็นแบบนี้ อีกเพียงครู่เดียวรอยแยกแห่งมิติก็คงขยายจนครอบคลุมทั่วทั้งสรวงสวรรค์
“เราต้องหาทางสกัดกั้นรอยแยกแห่งมิติให้ได้ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ทำให้มันหยุดนิ่ง” จางเซวียนตอบอย่างเคร่งเครียด
หากจะพูดอย่างเจาะจง ทะเลสาบท่วมท้นไม่ได้อยู่ในสรวงสวรรค์ แต่ก็มีความเชื่อมโยงกัน หากทะเลสาบท่วมท้นถูกทำลาย สรวงสวรรค์ก็จะต้องเผชิญกับความเสียหายครั้งใหญ่ ชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนจะต้องสาบสูญไป
เพราะจางเซวียนรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ก่อนหน้านี้จึงไม่ได้พยายามนำหญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์ออกมา
แต่คราวนี้…
จางเซวียนมองดอกบัวทองคำดึกดำบรรพ์แห่ง 9 น่านฟ้าที่กำลังเปล่งประกาย ดูเหมือนอีกไม่นาน ตัวโคลนของเขาก็คงหลอมรวมพละกำลังทั้ง 2 รูปแบบเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์
เมื่อเห็นว่าไม่มีทางอื่น จางเซวียนกัดฟันกรอดและตะโกน “ตามผมมา!”
จากนั้นก็บินเข้าหารอยแยกแห่งมิติ
จ้าวหย่ากับคนอื่นๆตามไปโดยไม่ลังเล
“ฮ่าฮ่าฮ่า…” เสียงหัวเราะลั่นดังกึกก้องในความว่างเปล่า “เมื่อครู่นี้คุณพยายามจะฆ่าผมไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ก็มาดูกันว่าใครจะฆ่าใคร!”
จางเซวียนเงยหน้า เห็นยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศที่เขาเพิ่งไล่ล่าในทะเลสาบดาวหางลอยตัวอยู่กลางอากาศพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
อีกฝ่ายกลืนกินหญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์ทั้ง 3 ต้นเข้าไป ทำให้วรยุทธเพิ่มสูงขึ้นจนเทียบเท่ากับจอมราชันย์
หลังจากที่หมอนั่นออกไป มันก็ตรงเข้าหาจุดที่หญ้าจิตวิญญาณจอมราชันย์ขึ้นอยู่และกินเข้าไปโดยไม่ลังเล*!*
ด้วยเหตุนี้ พละกำลังที่เคยเหนี่ยวรั้งรอยแยกแห่งมิติเอาไว้ตลอดมาก็ถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดหายนะอย่างที่เป็นอยู่
เมื่อเห็นว่าความล้มเหลวในการสังหารยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศของเขานำมาซึ่งความเสียหายครั้งใหญ่ จางเซวียนกัดฟันกรอดด้วยความแค้น
“แกรนหาที่ตายแล้ว!”
เขาคำรามกร้าว จากนั้นก็ชักดาบสวรรค์สีเลือดออกมาและพุ่งเข้าใส่ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศ
ถ้าทะเลท่วมท้นพังทลายจริงๆ ชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนในสรวงสวรรค์จะต้องหายสาบสูญ…และทั้งหมดก็เป็นเพราะไอ้สารเลวนี่!
จะไม่ให้จางเซวียนโมโหได้อย่างไร?
เขากวัดแกว่งดาบอย่างดุเดือดเพื่อสำแดงศิลปะเพลงดาบเวทนาสวรรค์ขั้น 4 มาเล่นงานยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศ
“คุณคิดว่าลูกไม้เดิมๆจะใช้กับผมได้งั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสาจนน่าสมเพช!” ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศเย้ยขณะปล่อยพลังจากฝ่ามือ
ฟึ่บ!
มิติดูจะหยุดนิ่งทันที จางเซวียนพบว่าตัวเขาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้
กระบวนท่าเดียวนี้ทำให้ศิลปะเพลงดาบของจางเซวียนถูกสกัดกั้น เห็นได้ชัดว่าเขาเทียบชั้นกับยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศไม่ได้แล้ว!
“ท่านอาจารย์…”
เห็นภาพนั้น จ้าวหย่ากับพรรคพวกรีบเข้ามา แต่แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนลั่น “ไม่ต้องห่วงผม รีบไปพยุงรอยแยกแห่งมิติไว้!”
“ได้, ท่านอาจารย์!”
จ้าวหย่ากับคนอื่นๆกำหมัดแน่น ทุกคนเป็นห่วงท่านอาจารย์ แต่ก็รู้ดีว่ารอยแยกแห่งมิติมีแต่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนเกิดอันตรายหากไม่ได้รับการดูแล จึงรีบทำตามคำสั่งของท่านอาจารย์โดยหันกลับไปสนใจรอยแยกแห่งมิติ
ฟิ้วววว!
ระหว่างนั้น จางเซวียนปล่อยกระแสเจตจำนงเพลงดาบออกมาและฉีกกระชากมิติที่แข็งทื่ออยู่รอบตัวเขาอย่างสุดกำลัง จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่ยาเม็ดจอมราชันย์ชั้นเลิศอีกครั้ง
“เราต้องหาทางสมานรอยแยกแห่งมิติให้ได้ ไม่อย่างนั้น หายนะครั้งใหญ่จะเกิดกับสรวงสวรรค์แน่…” จ้าวหย่ากับพรรคพวกหรี่ตามองรอยแยกแห่งมิติ
ตั้งแต่แรก ก็มีรอยร้าวปรากฏเหนือทะเลท่วมท้นซึ่งดูดพลังจิตวิญญาณออกไปจากสรวงสวรรค์อยู่แล้ว และทั้ง 9 จอมราชันย์ก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ ดังนั้น หากรอยแยกแห่งมิติเหนือทะเลท่วมท้นมีมากขึ้นอีก พวกเขาก็นึกภาพไม่ออกว่าจะเกิดหายนะแบบไหนกับสรวงสวรรค์ที่ตอนนี้อยู่ในสภาพร่อแร่
“ฉันจัดการเอง!”
หลัวฉีฉีพุ่งเข้าหารอยแยกแห่งมิติและกลายร่างเป็นเครื่องเก็บงำมิติ จากนั้นก็จัดการให้มิติที่อยู่โดยรอบรอยแยกแห่งมิติหยุดนิ่ง ป้องกันไม่ให้มันลุกลามและขยายใหญ่กว่าเดิม
ด้วยความพยายามของเธอ ในที่สุดการขยายตัวของรอยแยกแห่งมิติก็สงบลง
แต่การกระทำนั้นก็ทำให้หลัวฉีฉีเสียพลังไปมาก รูปทรงกลมที่เกิดจากการกลายร่างของเธอสั่นสะท้านไม่หยุด ดูเหมือนเธอน่าจะต้องเผชิญกับแรงตีกลับทันทีที่มิติที่เคยหยุดนิ่งหลุดพ้นจากการ ควบคุมของเธอ
“เร็วเข้า เราต้องช่วยฉีฉี!”
จ้าวหย่ากับคนอื่นๆรีบเข้าไปถ่ายทอดพลังปราณให้หลัวฉีฉีเพื่อช่วยเสริมพลังงานที่เธอต้องใช้ในการเหนี่ยวรั้งมิติ
รอยแยกแห่งมิตินั้นหยุดลุกลามครู่หนึ่งภายใต้ความพยายามของพวกเขา แต่ไม่ช้าก็เริ่มสั่นสะท้านอีกครั้ง ทุกสรรพสิ่งเริ่มลอยเข้าหารอยแยกแห่งมิติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นก้อนหิน พลังจิตวิญญาณ หรือทรัพย์สมบัติล้ำค่าต่างๆ พวกมันหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากที่เข้าสู่รอยแยกแห่งมิติ
พลั่ก!
หลัวฉีฉีกระอักเลือดกองใหญ่ออกมาขณะที่จำใจคืนสภาพกลับสู่ร่างมนุษย์ แรงตีกลับอย่างหนักที่ได้รับทำให้เลือดไหลนองลงมาที่คาง
ในเวลาเดียวกัน จ้าวหย่ากับคนอื่นๆก็หน้าซีด
เมื่อปราศจากเครื่องเก็บงำมิติคอยเหนี่ยวรั้ง รอยแยกแห่งมิติก็ขยายตัวอย่างเกรี้ยวกราด เพียงครู่เดียวก็กลืนกินพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลของทะเลท่วมท้นไปหมด ราวกับตั้งใจจะทำลายดินแดนนี้ไม่ให้เหลือซาก
“ฉันหยุดมันไม่ได้!” หลัวฉีฉีร่ำร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง
ทะเลท่วมท้นและการไหลบ่าของพลังจิตวิญญาณคือมาตรการชั่วคราวที่โลกนำมาใช้เพื่อยับยั้งการเสื่อมถอยของพลังจิตวิญญาณให้ช้าลง ซึ่งมันก็ไม่เสถียรตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว การขยายตัวอย่างปุบปับของรอยแยกแห่งมิติเหมือนโดมิโน่ตัวแรกที่ล้ม ซึ่งเมื่อกระบวนการนั้นเริ่มต้น ก็ไม่มีทางยับยั้งมันได้
ต่อให้หลัวฉีฉี จ้าวหย่า และคนอื่นๆจะมีพละกำลังเหนือชั้นแค่ไหน ก็ย่อมอับจนหนทางในสถานการณ์แบบนี้
“ท่านอาจารย์! มีแต่ท่านอาจารย์ของเราเท่านั้นที่สมานรอยแยกแห่งมิติได้!” จ้าวหย่าอุทานออกมาขณะรีบหันไปมองจางเซวียน