ตอนที่ 1585

Alchemy Emperor of the Divine Dao

“ในเมื่อเจ้าลงมือสังหารผู้อื่นไปแล้วก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก นำตัวเขาไป!” จ้าวอสูรระดับดำที่ไม่คุ้นหน้ากล่าว เขาคือคนของตระกูลโก้วที่อยู่ฝ่ายไม่เปิดรับคนนอก

“ช้าก่อน!” ทันใดนั้นเอง ร่างของกู่เฟิงก็ทะยานเข้ามาอย่างไม่คาดฝันและหยุดยืนด้านหน้าหลิงฮันต่อต้านเหล่าจ้าวอสูรระดับดำ “ผู้ฝึกสอนทั้งหลาย เรื่องนี้จำเป็นต้องมีการไต่สวนกันก่อน ถึงแม้หลิงฮันจะทำเกินไปแต่เป็นสามคนนั้นเองที่ทำตัวยั่วยุไร้ยางอาย”

ทุกคนตกตะลึง ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนยื่นมือช่วยเหลือหลิงฮันในสถานการณ์แบบนี้จริงๆ

จ้าวอสูรสวรรค์เบื้องบนกำลังขัดแย้งกันอยู่ในเรื่องนี้ การที่เจ้าเข้ามาแทรกแซงเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?

“ฮึ่ม คนที่บังคับใช้กฎคือข้า เจ้าถอยออกไป!” จ้าวอสูรตระกูลโก้วกล่าวพร้อมกับสะบัดแขนเสื้อคลุมด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

แต่อีกฝ่ายก็เป็นจ้าวอสูรเหมือนกัน ต่อให้จะอ่อนแอกว่าเขาแต่ก็ต้องไว้หน้าอีกฝ่ายบ้าง

กู่เฟิงยังคงยึดมั่น เขากล่าว “หลิงฮันต้องได้รับโทษอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ถึงอย่างนั้นโทษที่เขาได้รับก็ไม่สมควรเป็นความตาย ขอให้ผู้ฝึกสอนทั้งหลายโปรดเมตตา!”

ทุกคนรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก นี่เจ้ามีความสัมพันธ์กับหลิงฮันแบบใดกันแน่ เหตุใดในสถานการณ์เช่นนี้ถึงต้องปกป้องเขาขนาดนั้น?

แม้แต่หลิงฮันก็ยังไม่เข้าใจ หากกู่เฟิงเป็นจักรพรรดิพิรุณ เฟิงโปหยุน จักรพรรดินีหรือฮูหนิวเขาก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะคนเหล่านั้นล้วนแต่เป็นพี่น้องและคนรักของเขา

แต่กู่เฟิงล่ะเป็นใคร? สิ่งที่เขารู้คือชื่อของอีกฝ่ายเท่านั้นเอง

“ไสหัวไป ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกลงโทษด้วย!” จ้าวอสูรตระกูลโก้วกล่าวอย่างเย็นชา แต่เดิมเขาคือคนของฝ่ายไม่เปิดรับคนนอกอยู่แล้ว เขาไม่ยอมรับทุกคนที่ไม่ใช่คนของดินแดนต้องห้าม ในเมื่อเขายอมไว้หน้ากู่เฟิงแล้วครั้งหนึ่งเมื่อครู่ หากอีกฝ่ายยังดื้อรั้นอยู่ก็คงต้องใช้กำลัง

คิดรึว่าเขาจะไม่กล้าลงมือ?

กู่เฟิงแสดงท่าทีไม่ยินยอมและกำหมัดแน่น ในขณะที่ทุกคนคิดว่าเขากำลังยอมตัดใจแล้วจู่ๆกู่เฟิงก็ส่ายหน้าหนักแน่นและกล่าว “ข้าไม่ไป!”

ช่างใจกล้านัก!

เจ้ากำลังพยายามทำอะไรกันแน่? ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับหลิงฮันเจ้าก็ไม่มีแต่ก็ยังดันทุรังเอาชีวิตตัวเองเข้ามาเสี่ยง

“ฮึ่ม งั้นข้าจะจัดการเจ้าไปพร้อมกัน!” จ้าวอสูรตระกูลโก้วกล่าวเย็นชา

“กู่เฟิง!” หลิงฮันส่งเสียงกล่าวกับอีกฝ่ายผ่านสัมผัสสวรรค์ “เดี๋ยวข้าจะใช้สัมผัสสวรรค์โอบล้อมตัวเจ้าเอาไว้ เจ้าอย่าได้ต่อต้าน”

แววตาของกู่เฟิงส่องประกายประหลาด เขาลังเลเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้า

หลิงฮันก้าวขึ้นหน้าและหัวเราะ “วันนี้พอกันแค่นี้แล้วกัน ช่วยนำข้อความของข้าไปบอกเฒ่าตระกูลถังด้วยว่าหากอยากพบข้าก็ให้เขามาหาด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นในชีวิตนี้อย่าได้หวังว่าจะหาข้าเจอ!”

“คิดจะหลบหนี?” จ้าวอสูรตระกูลโก้วลงมือ เขาเอื้อมมือออกไปคว้าจับหลิงฮัน แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่ามือที่เอื้อมออกไปนั้นสัมผัสโดนเพียงความว่างเปล่าโดยที่หลิงฮันหายตัวไปแล้ว

ร่างของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับเป็นอากาศ

ไม่ใช่แค่หลิงฮัน กู่เฟิงเองก็หายไปด้วย!

จ้าวอสูรทุกคนชะงักแข็งค้าง มนุษย์เราจะหายไปได้อย่างไร?

“ไม่มีร่องรอยมิติถูกฉีกขาด เขาไม่ได้ใช้ยันต์อาคมเคลื่อนย้ายมิติ”

“อุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์!”

เหล่าจ้าวอสูรได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว พวกเขาจำนวนหนึ่งแสยะยิ้ม คิดรึว่าจะซ่อนตัวจากพวกเขาด้วยอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ได้?

เหล่าจ้าวอสูรปลดปล่อยสัมผัสสวรรค์ตามหาอุปกรณ์มิติ แต่ทว่ายิ่งค้นหาใบหน้าของพวกเขาก็ยิ่งกลายเป็นบูดบึ้ง

ไม่พบ… ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่มี

เป็นไปได้อย่างไร!

จ้าวอสูรหลายคนมองหน้ากันและพบเห็นความตกตะลึงในสายตาของแต่ละคน

“ที่เขาหายตัวไปเป็นเพราะอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ไม่ผิดแน่!”

“แต่ต้องเป็นสมบัติแบบใดกันถึงจะสามารถลบตัวตนได้โดยไม่เหลือร่องลอย?”

“หรือว่า!”

พวกจ้าวอสูรสูดหายใจลึก “อุปกรณ์นิรันดร์!”

อุปกรณ์นิรันดร์… สิ่งที่แม้แต่ราชานิรันดร์ทั่วไปก็ยังไม่สามารถครอบครอง

“ในอดีตที่เกิดมหาโศกนาฏกรรม มีราชานิรันดร์จำนวนหนึ่งตกตาย แม้กระทั่งราชานิรันดร์ระดับเจ็ดหรือแปดก็เช่นกัน มีความเป็นไปได้ว่าเจ้าหนูนั่นจะได้รับอุปกรณ์นิรันดร์เนื่องมาจากเหตุการณ์นั้น”

“ใช่แล้ว ที่เขาสามารถผสานอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ได้ก็ต้องเป็นเพราะทักษะบ่มเพาะของราชานิรันดร์เป็นแน่!”

“ต้องหาเขาให้เจอ!”

จ้าวอสูรหลายคนดวงตาแดงฉาน ต่อหน้าทักษะระดับราชานิรันดร์และอุปกรณ์นิรันดร์ พวกเขาไม่สามารถควบคุมความโลภได้อีกต่อไป

เพียงแต่ว่ามีรึที่พวกเขาจะหาหอคอยทมิฬพบ?

ช่างเพ้อฝัน!

หลังจากตามหาอยู่หลายวันพวกเขาก็ต้องยอมแพ้และรายงานเบื้องบนให้ส่งจ้าวอสูรที่แข็งแกร่งมา เพียงแต่ว่าต่อให้จ้าวอสูรปฐพีหรือจ้าวอสูรสวรรค์มาที่นี่พวกเขาจะทำอะไรได้? พวกเขาเพียงแค่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนใต้พิภพ ไม่มีทางเลยที่จะตรวจพบอำนาจของนิรันดร์

Anchor

โอวหยางไท่ซานเองก็มาด้วย ดวงตาของเขาเย็นชาเป็นอย่างมาก รอบกายเขาปลดปล่อยออร่าอันทรงพลังออกมา “ที่แท้เหตุผลที่พวกเจ้านำข้าไปยังดาวเยว่หลางนั้นไม่ใช่เพราะมีคนติดอยู่ในเขตแดนลี้ลับของดาวดวงนั้น แต่เพื่อล่อข้าออกไปและหาโอกาสลงมือกับหลิงฮัน!”

จ้าวอสูรสวรรค์หลายคนมองหน้ากันก่อนที่จ้าวอสูรสวรรค์คนหนึ่งจะก้าวเดินออกมาและกล่าว “เหอๆ เรื่องที่เกิดไปแล้วจะพูดออกมาให้ได้อะไร? เรื่องสำคัญตอนนี้คือพวกเราต้องล่อเจ้าหนูนั่นออกมาให้ได้ พวกเราจะสามารถกลับเข้าสู่ดินแดนแห่งเซียนได้หรือไม่นั้นทุกอย่างล้วนอยู่ที่เขา”

โอวหยางไท่ซานเกี้ยวกราดแต่ก็เถียงไม่ออก เป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูด เขายังต้องการให้หลิงฮันช่วยผสานดินแดนทั้งสองให้เป็นหนึ่งเดียว

“พูดกันตามตรง ข้าว่าเจ้าหนูนั่นไม่เหมาะสมที่จะครอบครองมรดกของราชานิรันดร์ซึ่งมาจากดินแดนแห่งเซียนของพวกเรา! เพียงแต่ในเมื่อสมบัติของราชานิรันดร์ตกไปอยู่ในมือของเขาก่อน พวกเราจะยอมให้เขาบ่มเพาะทักษะระดับราชานิรันดร์ต่อไป แต่สำหรับอุปกรณ์นิรันดร์นั้นเขาต้องมอบให้พวกเรา!” จ้าวอสูรสวรรค์อีกคนกล่าว

ช่างไร้สาระอะไรเยี่ยงนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการแย่งชิงของจากหลิงฮันแต่ก็ยังแสร้งทำเหมือนกับว่าตนเองใจกว้าง

โอวหยางไท่ซานคร้านจะต่อล้อต่อเถียง เขาตัดสินใจว่าทันทีที่หลิงฮันปรากฏตัวเขาจะพาอีกฝ่ายหลบหนีไปทันที เขาเป็นคนพาหลิงฮันมาที่นี่แน่นอนว่าเขาย่อมต้องเป็นคนรับผิดชอบ

จ้าวอสูรสวรรค์หลายคนมองหน้ากันและพยักหน้า พวกเขาคนหนึ่งขยับตัวไปคุมโอวหยางไท่ซานเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายแทรกแซง

พวกเขาเป็นจ้าวอสูรสวรรค์เหมือนกันและบ่มเพาะพลังบรรลุขั้นสูงสุดเท่ากันจึงมีความสามารถพอที่จะรั้งโอวหยางไท่ซานเอาไว้

“ไปเรียกเฒ่ากุ่ยผู้นำตระกูลถังมา ถึงแม้เจ้าหนูนั่นอาจจะแค่พูดลอยๆ แต่พวกเราก็ต้องลองดู!”