ตอนที่ 2,356 : ถูกไล่ออกจากลัทธิบูชาไฟ!
“วันนี้ข้า ต้วนหลิงเทียนขอประกาศไว้ ณ ที่นี้อย่างเป็นทางการ ว่าตัวข้าได้ออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป!!”
ตำพูดของต้วนหลิงเทียนยังคงดังก้องอยู่ในหูเหล่าผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟทั้ง 4 ซ้ำไปซ้ำมา พาลให้พวกมันอื้ออึงยากจะดึงสติได้อยู่นาน
โดยเฉพาะผู้พิทักษ์เหลิ่งอิง!
มันไม่เคยคิด…
ว่าพอมันพูดจบคำ ต้วนหลิงเทียนจะประกาศออกมาแบบนั้นตรงๆเสียงดังฟังชัด ว่าจะออกจากลัทธิบูชาไฟ และไม่เป็นผู้พิทักษ์อีกต่อไป!
จังหวะนี้เหลิ่งอิงที่กำลังอื้ออึงยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมดแรง
เพื่อ?
มิใช่ข้าเพียงบอกว่าจะลงโทษเท่านั้นหรือไร? แค่นี้เจ้าถึงกับต้องประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟด้วย?
เจ้าเป็นอันธพาลรึไง?
‘สารเลวน้อย น่าตายนัก!’
เหลิ่งอิงโมโหจนแทบกระอักเลือด อดด่าในใจไม่ได้
มันคิดไปว่าที่ต้วนหลิงเทียนออกจากลัทธิบูชาไฟ ล้วนเป็นเพราะคำพูดของมัน!
แต่มันไม่ได้รู้เลย
ถึงมันจะไม่พูดอะไร ต้วนหลิงเทียนก็จะประกาศถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟอยู่แล้ว นั่นเพราะเขาได้รู้ถึงอีกฐานะของตัว และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในฐานะผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟได้อีกต่อไป
ตอนนี้เขาคือทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 แห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้! ผู้สืบทอด ‘หมอกพิรุณ’ ผู้นำแห่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้!
และ 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็เป็นศัตรูกับ 3 ลัทธิ!
ยังเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกเดียวกันได้ เช่นนั้นฐานะผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ เขาย่อมไม่อาจเป็นผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาได้ตามธรรมชาติ หาไม่แล้วหากวิญญาณบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ล่วงรู้เข้า ได้ตามมาหลอกหลอนเขาแน่
ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้รุ่นนี้ เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟ?
เกรงว่าต่อให้ตายไปแล้วก็ต้องฟื้นขึ้นมากระอักเลือด 3 ถัง!
“ผู้พิทักษ์หลิงเทียน เรื่องใหญ่เช่นนี้ท่านมิอาจล้อเล่นได้!”
ไม่นานผู้พิทักษ์สื่อเฟิงก็รู้สึกตัว มันหันมามองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนก่อนใดอื่น สีหน้ายังจริงจังนัก
หลังหงอวิ๋นกับชิงหั่วดึงสติกลับมาได้เช่นกัน ทั้งคู่ก็พยักหน้าราวกับพวกมันทั้งคู่เห็นด้วยกับคำพูดของสื่อเฟิง
สำหรับผู้พิทักษ์เหลิ่งอิงนั้นด้วยคิดว่าเป็นเพราะมัน…ทำให้ต้วนหลิงเทียนเลือกจะประชดโดยการถอนตัวจากลัทธิบูชาไฟ ถึงแม้มันจะมีโมโหไม่นอย แต่ก็คงกล้ำกลืนเอาไว้ไม่พูดไม่จา
เพราะมันไม่ได้อยากให้ต้วนหลิงเทียนออกจากลัทธิบูชาไฟไปจริงๆ!
ด้วยพลังความแข็งแกร่งของต้วนหลิงเทียนหากออกจากลัทธิบูชาไฟไปจริงๆ ย่อมเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของลัทธิบูชาไฟอย่างแท้จริง!
และคราวนี้มันได้กลายเป็นคนบาปของลัทธิบูชาไฟแน่ ที่บีบคั้นต้วนหลิงเทียนให้ออกไป!
มันไม่อยากแบกรับความผิดดังกล่าว ไม่เต็มใจที่จะแบกรับ!
“ล้อเล่น?”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมาหลังได้ยินคำของสื่อเฟิง จากนั้นค่อยกล่าวออกมาเสียงเบา “ผู้พิทักษ์สื่อเฟิง ข้าไม่ได้ล้อเล่น!”
“วันนี้ที่ข้าต้วนหลิงเทียนกลับมายังลัทธิบูชาไฟเพราะข้ามี 2 เรื่องที่ต้องกระทำ…หนึ่งคือออกจากลัทธิบูชาไฟอย่างเป็นทางการ สองคือฆ่า…”
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้พูดจบคำ พลันถูกขัดไว้ด้วยเสียงหนึ่ง
“งั้นเหรอ? ผู้พิทักษ์หลิงเทียนยืนยันจะออกจากลัทธิบูชาไฟแน่แล้ว?”
พร้อมกันกับเสียงที่ขัดขึ้น ก็ปรากฏร่างหนึ่งวูบมาหยุดเบื้องหน้าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ประหนึ่งภูตผี!
เป็นชายวัยกลางคนร่างสูงแลดูกำยำ มาในชุดคลุมสีขาวลายปักเพลิงแดง มองไปก็คล้ายชุดของชนชั้นอาวุโสและศิษย์ทั่วไป
เป็นธรรมดาว่าแค่คล้ายเท่านั้น เพราะลายปักเปลวเพลิงบนชุดคลุมขาวของมันนั้น ไม่เหมือนผู้ใด!
หากมองให้ดีจะพบว่า
ลายปักเปลวเพลิงบนชุดคลุมของชายผู้นี้ ตั้งแต่บนลงล่างมองแล้วเสมือนมังกรตัวเขื่องที่ม้วนพันรอบกายของมันเอาไว้ ราวกับมังกรพิทักษ์!
และถึงแม้ชายวัยกลางคนผู้นี้จะร่างสูงใหญ่และดูกำยำ หากแต่ใบหน้าของมันกลับแลดูตรงไปตรงมา ไม่ได้หยาบกระด้างอะไร
เรียกว่าท่วงท่าลักษณะช่างสง่าไร้ที่ติ
หว่างคิ้วยั่งแผ่พุ่งบารมีอันน่าเกรงขาม ราวกับจะทำให้ทุกผู้คนต้องยอมสยบ
“ถังซวน!”
เห็นชายวัยกลางคนที่พึ่งมาถึง สองตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงทันใด ยังเผยประกายเยียบเย็นแล่นวาบ
ลึกลงไปในใจยังบังเกิดโทสะอันร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงปานจะแผดเผาได้ทุกสิ่ง!
“ท่านจ้าวลัทธิ!”
ขณะเดียวกันเมื่อเห็นว่าชายวัยกลางคนที่ปรากฏตัวขึ้นมาเป็นใคร เหล่าผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟทั้ง 4 ก็เร่งประสานมือโค้งคารวะออกมาด้วยเคารพทันที
เพราะชายวัยกลางคนผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟ!
“ธิดาเทพ!!”
แรกเห็นเค่อเอ๋อที่ลอยอยู่ข้างกายต้วนหลิงเทียนสองตาถังซวนก็ลุกวาวขึ้นมาทันที!
เพราะสำหรับมันแล้ว….
ขอเพียงสตรีคนนี้กลับมา ก็ไม่มีสิ่งใดสำคัญอีกต่อไป…
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ!
หลังจากเห็นเค่อเอ๋อแล้ว ถังซวน ก็หันไปมองจ้องยังร่างต้วนหลิงเทียนพลางกล่าวออกเสียงเบา “ผู้พิทักษ์หลิงเทียน…ข้าไม่คิดเลยว่าไม่พบกันไม่กี่ปี แต่สิ่งแรกที่เจ้ากระทำหลังจากกลับมายังลัทธิบูชาไฟ ไม่เพียงแต่จะเรียกหาข้าอย่างห้วนๆ ยังโอหังถึงขั้นสั่งให้ข้าไสหัวออกมา!!”
กล่าวถึงจุดนี้เสียงของถังซวนก็แข็งขึ้นไม่น้อย
เพราะในสายตาของมัน
ต้วนหลิงเทียนก็เป็นดั่งผู้พิทักษ์ตัวเล็กๆของลัทธิบูชาไฟเท่านั้น ถึงพลังฝีมือจะดี แต่ก็ยังไม่มีคุณสมบัติมาตะโกนด้วยน้ำเสียงก้าวร้าวแบบนั้น!
ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่กล้าเรียกชื่อห้วนๆ และสั่งให้มันไสหัวออกมาเลย…
นี่ประหนึ่งลูบคมหยามหมิ่นศักดิ์ศรีจ้าวลัทธิบูชาไฟของมันอย่างแรง!
แน่นอนว่าตอนนี้ในใจมันมากล้นไปด้วยโทสะจนทำให้บังเกิดจิตคิดฆ่าฟันอำมหิต แต่มันก็รู้ดีว่าตอนนี้ยังฆ่าต้วนหลิงเทียนไม่ได้!
ต้วนหลิงเทียนผู้นี้ได้ล่อลวงถึงขั้นพรากบริสุทธิ์ธิดาเทพไปแล้ว นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายได้ล่วงเกินชายที่ประหนึ่งเทพเจ้าผู้นั้น!
มันทำได้แค่ควบคุมตัวต้วนหลิงเทียนเอาไว้ และรอให้ชายที่ประหนึ่งเทพเจ้าผู้นั้นหวนกลับมายังระนาบโลกียะแห่งนี้อีกครั้ง…ถึงตอนนั้นมันจะส่งตัวต้วนหลิงเทียนไปให้อีกฝ่าย เพื่อที่อีกฝ่ายจะตัดสินชะตาชีวิตของต้วนหลิงเทียนด้วยมือตัวเอง!
เพราะมีเพียงมันกระทำแบบนั้น โทสะในใจของอีกฝ่ายจึงจะพอทุเลาลงได้…
หากมันฆ่าต้วนหลิงเทียนไปโดยไม่ได้รับอนุญาตล่ะก็ เกรงว่าอีกฝ่ายคงเอาโทสะทั้งหมดมาลงที่มันแทน!
“แล้วยังไง?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบคำถังซวนด้วยสีหน้าแยเมย
ในวาจาหาได้มีน้ำเสียงกังวลหรือความกลัวใดๆเจือไว้เพราะการปรากฏตัวของถังซวนแม้แต่น้อย
ไม่กี่ปีก่อนเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังซวน กระทั่งทำได้แค่แหงนมองอีกฝ่ายอย่างอับจนทดท้อเพราะไร้ซึ่งพลังต่อกรใดๆ…
หากทว่าไม่กี่ปีผ่านไป ถังซวนเบื้องหน้าไม่ได้ต่างอะไรไปจากมดตัวกระจ้อย!
เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน?
นับเป็นตัวอะไรได้?
ต้องทราบด้วยว่าก่อนหน้านี้เขาได้ฆ่า เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ ที่มีพลังเหนือล้ำครึ่งก้าวเซียนอมตะมากับมือ! อาศัยเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนที่ยังไม่บรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะย่อมไม่อาจนับเป็นตัวอะไร! กระทั่งไม่อาจอยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ!!
“แล้วยังไง?”
การตอบกลับด้วยน้ำเสียงไร้เรื่องราวของต้วนหลิงเทียน ไม่เพียงทำให้ถังซวนตกใจเท่านั้น ยังทำให้ผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟทั้ง 4 อดตะลึงไปไม่ได้!
ก่อนหน้านี้พวกมันพากันคิดไปว่า เพราะจ้าวลัทธิไม่อยู่ ต้วนหลิงเทียนถึงได้กล้าโอหัง
แต่พวกมันไม่คิดเลยว่ากระทั่งจ้าวลัทธิก็มาแล้ว แต่ต้วนหลิงเทียนยังคงเหมือนเดิม!
ไม่ได้สนใจจ้าวลัทธิของพวกมันแม้แต่น้อย!!
‘มันคิดจะออกจากลัทธิบูชาไฟจริงๆ?’
ครู่ต่อมาทั้ง 4 ก็อดไม่ได้ที่จะคิดไปในทำนองนี้
“ดี ดี….ดีมาก!!”
ทีทาสบายๆของต้วนหลิงเทียน ย่อมทำให้ถังซวนมีน้ำโหอย่างไม่ต้องสงสัย สีหน้ายังเริ่มมืดดำคล้ำลง!
“เพียงไม่พบกันไม่กี่ปี ดูเหมือนความ ‘เชื่อมั่น’ ของผู้พิทักษ์หลิงเทียนดูเหมือนจะยิ่งใหญ่คับฟ้า…”
“อย่างไรก็ตามข้ายังคงต้องขอยืนยันให้แน่ชัด…ผู้พิทักษ์หลิงเทียนเจ้าคิดถอนตัวออกจากลัทธิบูชาไฟไม่เป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟอีกต่อไป?”
วาจาต่อมา ขณะพูดแววตาที่ถังซวนใช้มองต้วนหลิงเทียนยิ่งมาก็ยิ่งดุดัน ยังคมกล้าประหนึ่งดาบ ราวกับถึงขั้นนี้แล้วหากต้วนหลิงเทียนกล้าพูดว่า ‘ไม่’ ดาบเล่มนี้จะฆ่าต้วนหลิงเทียนทันที!
และเมื่อถังซวนกล่าวถามจบคำ เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ก็หันไปจับจ้องมองต้วนหลิงเทียนเป็นสายตาเดียวกัน ด้วยสงสัยว่าต้วนหลิงเทียนจะตอจ้าวลัทธิของพวกมันอย่างไร
“อะไรที่ข้าเคยพูดไปแล้วข้าไม่ชอบพูดซ้ำ”
เผชิญกับคำถามซักไซ้ของถังซวน ต้วนหลิงเทียนกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมยไร้เรื่องราว!
คำตอบนี้ทั้งน้ำเสียงและท่าทางของต้วนหลิงเทียน นับว่าทำให้หนังศีรษะของผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ด้านชาแล้วจริงๆ!
‘เจ้าหนูต้วนหลิงเทียนเป็นบ้าไปแล้วรึไร?’
‘มันถือดีอันใดถึงได้กล้าทำแบบนี้ หรือไม่คิดว่าจ้าวลัทธิจะมีโมโหลงมือฆ่ามันอย่างอำมหิต?’
‘หากมันยังเป็นผู้พิทักษ์ของลัทธิบูชาไฟต่อให้ละเมิดพิดาเทพ ทั้งล่วงเกินจ้าวลัทธิก็ยังพอมีหนทางประนีประนอม…แต่หากมันไม่ได้เป็นผู้พิทักษ์ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องล่วงเกินจ้าวลัทธิ เอาแค่เรื่องพรากบริสุทธิ์ธิดาเทพก็มากพอให้มันตาย!’
‘คราวนี้มันตายแน่ แค่ล่วงเกินธิดาเทพก็แย่แล้วยังกล้ายั่วโทสะท่านจ้าว!’
…
จังหวะนี้เหล่าผู้พิทักษ์ทั้ง 4 ของลัทธิบูชาไฟรู้สึกว่าต้วนหลิงเทียนบ้าไปแล้วจริงๆ หาไม่แล้วไฉนถึงได้ทำตัวก้าวร้าวราวอันธพาลต่อหน้าจ้าวลัทธิของพวกมันแบบนี้?
เป็นธรรมดาว่าพวกมันยังคิดไปอยู่บ้าง…ว่าต้วนหลิงเทียนอาจมีความ ‘มั่นใจ’ ในการกระทำแบบนี้…
หากแต่พวกมันก็ปัดตกความคิดดังกล่าวแทบจะทันทีที่ผุดขึ้น
เพราะพวกมันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ และเกินจริงเกินไป…
ต้องทราบด้วยว่าต้วนหลิงเทียนพึ่งจะออกจากลัทธิบูชาไฟไปไม่กี่ปีเท่านั้น
อาศัยเวลาเพียงไม่กี่ปีแต่ต้วนหลิงเทียนคิดจะมีพลังฝีมือเหนือกว่าถังซวน? นั่นมันเรื่องเหลวไหล!
“ดี! ดี! ดีมาก!”
ถังซวนระเบิดคำ ดี ออกมาถึง 3 ครั้ง เสียงกล่าวมันยิ่งมายิ่งต่ำลงเรื่อยเผยให้รู้ว่าตอนนี้มันมีโมโหมากเพียงใด!
ครูต่อมาแววตาถังซวนก็กลายเป็นเยียบเย็น กล่าวคำผสานพลังเซียนต้นกำเนิดว่า
“ข้า ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟขอประกาศ…ต้วนหลิงเทียนเนื่องเพราะมีความผิดฐานล่วงละเมิดธิดาเทพ เช่นนั้นมันจักถูกขับออกจากลัทธิบูชาไฟตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป!!”
คำพูดที่ดังออกจากปากถังซวนคราวนี้ ประหนึ่งฟ้าร้องก็ไม่ปาน มันกึกก้องสนั่นไปทั่วทั้งลัทธิบูชาไฟ
วูบ! วูบ! วูบ!
…
แทบจะทันทีที่ถังซวนประกาศคำออกมา สีหน้าผู้พิทักษ์ลัทธิบูชาไฟทั้ง 4 ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
พวกมันรู้ดีแก่ใจ
ทันทีที่วาจาดังกล่าวล่วงล้ำออกจากลำคอของถังซวน ต้วนหลิงเทียน ก็ถูกกำหนดให้ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับลัทธิบูชาไฟ และไม่อาจรับใช้ลัทธิบูชาไฟได้อีกต่อไป…