ตอนที่ 2,363 : ตื่นตระหนกเสียขวัญ!
“นายท่าน…”
ในขณะที่เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟกำลังอื้ออึงกับเรื่องราวน่าตกใจที่ได้รับรู้ เฉินอี้หรูพลันมองทักต้วนหลิงเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง
“หือ มีอะไรหรือ?”
เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนก็โค้งคิ้วขึ้นเผยสีหน้าสงสัย
เป็นครั้งแรกเลยจริงๆตั้งแต่ที่ได้เฉินอี้หรูมาติดตามรับใช้ แล้วเห็นอีกฝ่ายชักสีหน้าจริงจังแบบนี้
“นายท่าน เป็นเรื่องการดำรงอยู่ของเซียนอมตะเสเพลขอรับ…ข้าเกรงว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะที่จะแพร่กระจายออกไปจากลัทธิบูชาไฟ”
เฉินอี้หรูกล่าวออกด้วยน้ำเสียงวิตก “จะอย่างไรเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้าก็ได้เคยสั่งห้ามเซียนอมตะเสเพลทั้งแดนดินไว้แล้ว ว่าอย่าได้เปิดเผยเรื่องการดำรงอยู่ของเซียนอมตะเสเพลออกมาเด็ดขาด”
“หากมีข่าวเรื่องการปรากฏตัวของข้าแพร่ออกมา ในเวลาเดียวกันกับที่เรื่องการดำรงอยู่ของเซียนอมตะเสเพลแดงขึ้น พวกมันย่อมรู้ได้ไม่ยากว่าสาเหตุเกิดจากข้า”
“และหากพวกมันรู้ว่าเป็นข้า…นั่นจะชักนำความวุ่นวายและเภทภัยมาสู่ท่านแน่นอนนายท่าน”
สีหน้าขณะกล่าวของเฉินอี้หรูจริงจังเคร่งเครียดนัก
“ก็จริง”
ได้ยินคำของเฉินอี้หรู ต้วนหลิงเทียนพยักหน้าเห็นด้วย
ตอนนี้ถึงเขาจะลงมือสุดกำลัง แต่อย่างไรพลังอำนาจของเขาก็เพียงเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์เท่านั้น
หากทว่าในเผ่ามังกรกับเผ่าหงส์ฟ้า สมควรมีกระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์!
ต่อให้มองโลกในแง่ดีว่าอาจไม่มีเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ดำรงอยู่ แต่อย่างไรก็ต้องมีเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์แน่ๆ!
แต่แค่เซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เขาก็สู้ไม่ไหว!
เช่นนั้นจนกว่าจะมีพลังอำนาจพอจะงัดข้อกับเผ่ามังกรและเผ่าหงส์ฟ้า ต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าต้องไม่ทำอะไรกระโตกกระตาก
“เรื่องพวกนี้ไม่เหมาะจะแพร่ออกไปจากลัทธิบูชาไฟจริงๆ…อย่างไรก็ตามเรื่องราวของเซียนอมตะเสเพลนั้น ข้าหวังให้ทุกคนได้รับรู้กัน!”
“ตอนนี้เผ่าพันธุ์ปีศาจจะบุกขึ้นมาอยู่รอมร่อ จะปล่อยให้ยอดฝีมือของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าอย่างพวกมัน เอาแต่นิ่งดูดายชมดูเรื่องราวอย่างสบายใจเฉิบได้อย่างไร”
ต้วนหลิงเทียนค่อยๆกล่าวออกมาอย่างไม่รีบไม่ร้อน “แต่แน่นอนว่าเรื่องนี้ต้องวางแผนกันให้ดี…”
หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็หารือกับเฉินอี้หรูไปพักหนึ่ง และในที่สุดก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไร
ก่อนอื่นเลยก็ต้องให้คนของลัทธิบูชาไฟที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดวันนี้กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้า ว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องราวของเฉินนอี้หรูเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ออกไป
สำหรับข่าวอื่นต้วนหลิงเทียนไม่แยแส
‘หากเรื่องในวันนี้แพร่ออกไป…เทียนหวู่ เฉวี่ยไน่กับคนอื่นๆต้องรู้ได้ทันทีแน่ว่าข้าคือผู้สืบทอดหมอกพิรุณ และเป็นผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!’
ในขณะที่ลอบกล่าวในใจ ต้วนหลิงเทียนก็บังเกิดความคาดหวังไม่น้อยว่าจะได้พบหน้าสหายเก่า…
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟิ่งเทียนหวู่!
‘เทียนหวู่ คงอีกไม่นานที่พวกเราจะได้พบกัน…’
ขณะที่คิดถึงเฟิ่งเทียนหวู่ สีหน้าต้วนหลิงเทียนก็เผยความอ่อนโยนออกมาไม่น้อย
เพราะจนถึงตอนนี้ นอกจากภรรยาทั้งสองอย่าง เค่อเอ๋อ และลี่เฟยที่ได้สัมผัสด้านที่อ่อนโยนของเขา ก็มีเพียงเฟิ่งเทียนหวู่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น…
เรียกว่าตลอดการเดินทางในชีวิตใหม่ที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีสตรีผ่านเข้ามาในชีวิตไม่น้อย แต่จนถึงวันนี้ก็มีสตรีแค่ 3 นางเท่านั้นที่อยู่ในใจเขา
สำหรับสตรีคนอื่นๆแม้จะมีความรู้สึกดีๆให้กัน แต่เขาห้ามตัวเองไว้ไม่ให้ปันใจ
สาเหตุเพราะเขาต้องรับผิดชอบ…รับผิดชอบต่อความรู้สึกของสตรีทั้ง 3!
“ซานเตา เจ้าเดินทางไปภาคกลางแล้วลอบกระจายข่าวของเซียนอมตะเสเพลออกไปอย่างลับๆ…ข้าต้องการให้ทุกคนทั้งดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าภูมิภาคเบื้องบนรู้ ว่าในแดนดินยังมีตัวตนที่ทรงพลังเหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะดำรงอยู่ และนั่นก็คือเซียนอมตะเสเพล ที่รอดพ้นความตายหลังล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์!”
หลังจัดการให้คนของลัทธิบูชาไฟสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าจบแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันไปสั่งงานเฉินอี้หรู
“ผู้น้อยรับคำสั่ง นายท่าน!”
หลังจากกนั้นเฉินอี้หรูก็ประสานมือคารวะ ก่อนที่จะเหินร่างออกจากลัทธิบูชาไฟทันที
หลังเฉินอี้หรูจากไป ต้วนหลิงเทียนก็พาเค่อเอ๋อภรรยาเขากับต้วนซือหลิงลูกสาวเขาเหินบินไปยังเกาะลอยสูงสุด อันเป็นเกาะส่วนตัวของจ้าวลัทธิบูชาไฟต่อหน้าสายตาคนลัทธิบูชาไฟ
และตอนนี้มันยังกลายเป็นเกาะส่วนตัวของจ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่ ก่านหรูเยี่ยนไปแล้ว
“เอาล่ะ เรื่องที่เหลือข้าฝากเจ้าจัดการต่อแล้วกัน”
“จำเอาไว้ ว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเจ้าเนจ้าวลัทธิบูชาไฟแล้ว! หากมีใครกล้าแข็งข้อไม่ยอมรับเจ้า ก็ปล่อยให้ข้ารับใช้ทั้ง 2 ฆ่าทิ้งไปเสีย!”
ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะพาลูกเมียเหินร่างขึ้นไปด้านบนลับตา เขาไม่ลืมส่งเสียงผ่านพลังทิ้งท้ายไว้ให้ก่านหรูเยี่ยน จ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่
ด้านก่านหรูเยี่ยนก็ยังคงแลอึนๆด้วยไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี…
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ทว่าในเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนเหินร่างจากไปพร้อมลูกเมีย ราวกับจะล่วงรู้วาจาผ่านพลังที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวทิ้งท้ายกับก่านหรูเยี่ยนก็ไม่ปานชายวัยกลางคนร่างหนาบึกบึนกับชายวัยกลางคนร่างผอมสูงปานลำไผ่ก็มาติดตามประกบอยู่ด้านหลังก่านหรูเยี่ยนไม่ห่างทันที!
สองคนนี้หนึ่งคือชนชั้นยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยน อีกหนึ่งก็คือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ทั่วร่างของพวกมันบัดนี้เริ่มแผ่แรงกดกดันอันน่าสะพรึงกลัวออกมาโถมใส่เหล่าคนของลัทธิบูชาไฟทันที ยังเป็นแรงกดดันพลังอันน่าสะพรึงกลัวนัก!
เรียกว่าตอนนี้ก่านหรูเยี่ยนที่มียอดฝีมือทั้ง 2 คอยปกป้องข้างกาย ประหนึ่ง ‘ราชินี’ ที่มีอำนาจสยบโลกหล้าก็ไม่ปาน!
‘มัน…ทิ้ง ‘หม้อก้นดำ’ ไว้ให้ข้าแบกเนี่ยนะ?’
หลังจากที่สติกลับมาอยู่กับร่องกับรอย ก่านหรูเยี่ยนเงยหน้ามองหลังไวๆของต้วนหลิงเทียนที่เหินจากไปก็อดไม่ได้ที่จะบ่นเบาๆในใจ
แต่นางไหนเลยจะไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนทำแบบนี้เพราะหวังดีต่อนาง
หาไม่แล้วด้วยคุณสมบัติเดิมของนาง กว่าจะได้ขึ้นแท่นเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟจริงๆ เกรงว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักร้อยปี…
“ขอบคุณท่านยิ่งพี่เทียน”
ส่วนอีกด้าน หลังต้วนหลิงเทียนพาแม่ลูกเหินร่างขึ้นมาสักพัก เค่อเอ๋อก็หันไปมองกล่าวขอบคุณกับต้วนหลิงเทียนทันที
“ยาโถวโง่งมนางเป็นพี่สาวของเจ้า เป็นธรรมดาที่เหมือนพี่สาวของข้าด้วย ข้าย่อมช่วยเหลือนางอยู่แล้วเจ้ายังจะกล่าวขอบคุณทำอะไร”
(ยาโถว = เด็กน้อย สาวน้อย)
แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนรู้ดีว่าไฉนเค่อเอ๋อถึงกล่าวขอบคุณเขา ทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องที่เขาจัดแจงให้ก่านหรูเยี่ยน
เพราะสุดท้ายแล้วสำหรับก่านหรูเยี่ยน การได้เป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟคือเกียรติยศสูงสุดสำหรับนาง!
กล่าวได้ว่า
ไม่รู้ใจทหารย่อมไม่ใช่นายพลที่ดี…
ในฐานะที่เป็นศิษย์ของลัทธิบูชาไฟมาตั้งแต่เล็ก ก่านหรูเยี่ยนไหนเลยจะเฉยกับตำแหน่งจ้าวลัทธิได้
“นอกจากนี้นางได้เป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟก็เป็นผลดีกับข้าเหมือนกัน”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวเสริม
อย่างไรก็ตามหลังได้ยินคำนี้ของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อพลันส่ายหัวไปมาเบาๆ “พี่เทียนท่านไม่ต้องใช้คำลวงเหล่านี้ปลอบใจข้าหรอก…ข้ารู้ดีแก่ใจว่าด้วยพลังของท่านตอนนี้จะอุปโลกน์ผู้ใดขึ้นมาเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟก็ย่อมทำได้ และไม่ว่าใครก็ต้องให้การสนับสนุนท่านได้ดีไม่น้อยไปกว่าพี่หญิงของข้า…”
เค่อเอ๋อย่อมไม่ใช่คนโง่เป็นธรรมดา นางทำไมจะไม่รู้ว่าบุรุษของนางตอนนี้คิดจะให้ใครเป็นจ้าวลัทธิบูชาไฟก็ทำได้อย่างง่ายดายนัก
กระทั่งจะบีบบังคับให้จ้าวลัทธิบูชาไฟคนใหม่กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าจะรับใช้ก็ยังได้!
เมื่อเห็นเค่อเอ๋อมองออกต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่ยิ้มเซ่อๆ ก่อนที่จะหันไปหาต้วนซือหลิงที่อยู่ข้างๆ “ซือหลิงเป็นอะไรไปลูก…ทำไมวันนี้เงียบนักเล่า?”
“ท่านพ่อ…ท่านกำลังจะจากไปแล้วจริงๆหรือ? ท่านจะทิ้งท่านแม่กับข้าไปจริงๆหรือ?”
ต้วนซือหลิงมองต้วนหลิงเทียนพลางถามออกมาด้วยสีหน้าน้ำเสียงสลดปานจะร้องไห้
“เด็กโง่นี่เจ้าพูดเรื่องอะไรกัน?”
ต้วนหลิงเทียนส่ายหัวไปมา เขารู้สึกคำถามนี้ของซือหลิงมันเหลวไหลเกินไป
“ท่านพ่อข้าไม่ได้พูดเล่นนะ!”
ต้วนซือหลิงชักหน้ามุ่ยกล่าวออกด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อครู่ข้าได้ยินคนพูดกันว่า…หลังจากที่ท่านบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะแล้ว ท่านมิอาจอยู่ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้ได้อีกนาน และไม่นานท่านก็จะโบยบินขึ้นสวรรค์ไป…”
ขณะที่ต้วนซือหลิงกล่าวเรื่องนี้ออกมา ร่างบางเค่อเอ๋อที่อยู่ข้างๆพลันสะท้านขึ้นเบาๆ
ตั้งแต่วันที่ต้วนหลิงเทียนสามารถข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์และกลายเป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะได้สำเร็จ นางเองก็ได้เตรียมใจรับเรื่องนี้เอาไว้บ้างแล้ว…
ทว่าตอนนี้พอได้มาฟังจากปากลูกสาวตัวเอง จิตใจที่คิดว่าเตรียมรับเรื่องราวไว้แล้ว กลับไม่อาจทานทนได้ไหว…
เช่นนั้นอารมณ์ของนางจึงกลายเป็นหดหู่ซึมเซาลงทันที
ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่คิดเลยว่าอยู่ๆลูกสาวตัวเองจะพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาเองก็อึ้งพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
ถึงตอนนี้เขาจะปลอบลูกสาวและบ่ายเบี่ยงได้ แต่วันหน้าเล่า?
เพราะสุดท้ายแล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องขึ้นสู่ระนาบเทวโลก ถึงตอนนั้นคำลวงคำปลอบทั้งหลายยังจะมีผลอะไร?
และแน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนย่อมไม่อยากทิ้งความทรงจำเรื่อง ‘บิดาเป็นคนโกหกหลอกลวง’ ไว้ให้ลูกสาวตัวเอง เขาย่อมไม่คิดหลอกลวงนางเพื่อเอาตัวรอดอย่างขอไปที กระทั่งยังหวังว่าจะเป็นพ่อที่ดีและสมบูรณ์แบบในสายตานางเท่าที่จะทำได้…
“ซือหลิงไม่ต้องกังวลไป ถึงวันหนึ่งท่านพ่อจักต้องขึ้นสู่แดนสวรรค์ แต่อย่างไรกว่าจะถึงวันนั้นก็ยังมีเวลาเหลืออีกนาน ไม่ใช่ว่าพลังอำนาจของระนาบเทวโลกจะดึงท่านพ่อขึ้นไปเร็วๆนี้…”
เมื่อเห็นความลำบากใจของต้วนหลิงเทียน เค่อเอ๋อที่เข้าใจดีว่าตอนนี้ต้วนหลิงเทียนรู้สึกยังไง ก็ได้แต่ระงับความเศร้าและความไม่ยินยอมพร้อมใจเอาไว้ และเริ่มกล่าวปลอบลูกสาวตัวเอง
เห็นแบบนี้ต้วนหลิงเทียนก็อดลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกในใจไม่ได้…
……
วันนี้เป็นวันที่ลัทธิบูชาไฟถูกลิขิตให้ไม่อาจอยู่อย่างสงบ
นั่นเพราะ ถังซวน จ้าวลัทธิบูชาไฟ ได้ตกตายไปแล้ว…
ยิ่งไปกว่านั้นยังตกตายลงด้วยน้ำมือของอดีตผู้พิทักษ์อย่าง ต้วนหลิงเทียน!
“ที่ผู้พิทักษ์หลิงเทียนประกาศถอนตัวและไม่เป็นผู้พิทักษ์อีกต่อไปมิใช่เพราะท่านจ้าวลัทธิไม่เห็นชอบเรื่องจัดงานมงคลกับธิดาเทพ…แต่เพราะว่ามีฐานะเป็นถึงผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้?”
ไม่นานข่าวดังกล่าวก็แพร่ไปทั่วลัทธิบูชาไฟ
เรียกกว่าทั้งลัทธิบูชาไฟตกอยู่ในความตื่นตระหนกเสียขวัญทันที
7 ทวาราเที่ยงแท้นั้น พึ่งปรากฏตัวออกมาสู่โลกหล้าอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านเท่านั้น
และนอกเหนือจากผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 ที่ผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา เรียกว่าผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้อีก 6 ลำดับได้ปรากฏตัววออกมาสร้างชื่อเสียงสะท้านไปทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ากันหมดทุกคนแล้ว…
ในฐานะที่เป็นคนของลัทธิบูชาไฟ และรู้ดีว่าสังกัดของตัวมีความบาดหมางกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้มาอย่างยาวนาน พวกมันย่อมสงสัยกันตั้งแต่แรกว่าผู้ใดกันแน่คือผู้สืบทอดหมอกพิรุณ ผู้นำของ 7 ทวาราเที่ยงแท้…
ทว่าพวกมันไม่เคยคิด กระทั่งหลับยังไม่เคยฝันถึง…
ว่าผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 หมอกพิรุณ กลับกลายเป็นผู้พิทักษ์หลิงเทียนของลัทธิบูชาไฟพวกมันเอง!
“ต้วนหลิงเทียนแรกเปิดตัวในอีกฐานะ…ก็ถึงกับฆ่าท่านจ้าวลัทธิเลยหรือ?”
“เรื่องแบบนี้…มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!? ท่านจ้าวลัทธิมิใช่เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนหรือไร กระทั่งด้วยเวทย์พลังท่าร่างที่ทั้งแดนดินยอมรับว่าเป็นเวทย์พลังท่าร่างอันดับ 1 มิใช่ว่าต่อให้เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะก็ไม่อาจทำอะไรได้มิใช่หรือ!?”
“เรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่ยากอธิบายนัก…แต่สุดท้ายแล้ว เรื่องที่ท่านจ้าวลัทธิถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าก็เป็นความจริง!”
“ในเมื่อต้วนหลิงเทียนเป็นผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ แถมยังฆ่าท่านจ้าวลัทธิแบบนี้…แล้วพวกเราเล่า…พวกเราจะถูกฆ่าด้วยหรือไม่? ใช่ต้วนหลิงเทียนจะทำลายลัทธิบูชาไฟของพวกเราต่อหรือไม่?!”
……
ทั้งลัทธิบูชาไฟ ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเสียขวัญ…