อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1227 เรื่องราวในอดีต

‘โครม……’

กู้ชูหน่วนสะดุดก้อนหินแล้วล้มลงไป เลือดไหลออกมาจากเข่าทั้งสองข้างทันที

แต่นางก็รีบลุกขึ้นมา แล้วลากรถไปข้างหน้าอย่างยากลำบากต่อไป

“ทำไมเจ้าต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย ข้าช่วยเจ้าเพราะร่างกายเจ้ามีวิญญาณของอาหน่วน ข้าเป็นแค่ภาระของเจ้าเท่านั้น”

“เจ้าคิดได้ก็ดีแล้ว พิสูจน์ได้ว่าเจ้ายอมรับแล้วว่าตัวเองอ้วนจริงๆ รอออกจากภูเขาหินนี้ได้ เจ้าก็ควรลดน้ำหนักหน่อยนะ”

เย่จิ่งหานกระตุกมุมปาก

เขาชินกับคำพูดแดกดันของนางแล้ว

เย่จิ่งหานมองไปที่ภูเขาหินที่อยู่ห่างไกลด้วยความงุนงง และเงียบไปสักพักใหญ่

กู้ชูหน่วนหันไปมองเขา เห็นเขากำลังเหม่อลอย คิดว่าเขากำลังกังวล ก็เลยพูดปลอบใจว่า “วิญญาณทั้งเจ็ดดวง ตอนนี้เจ้ารู้สี่ดวงแล้ว ดวงที่ห้าอยู่ในมือราชินีปลอม มีโอกาสพวกเราไปแย่งคืนมาด้วยกันอีกครั้ง ที่เหลืออีกสองดวงเดี๋ยวก็หาเจอแล้ว ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียยังมีชีวิตอยู่ อยู่กับเซียวหยู่เซวียน ข้าเชื่อว่าพวกเขาไม่ตายไปง่ายๆหรอก”

“ข้ารู้ว่าวิญญาณดวงที่ห้ากับเซียวหยู่เซวียนอยู่ในมือของราชินี”

และนี่เป็นสาเหตุที่เขาอยากให้ขาทั้งสองข้างหายเร็วๆ

เห็นกู้ชูหน่วนไม่ยอมแพ้

เย่จิ่งหานก็พูดด้วยสายตาเด็ดเดี่ยวว่า “ข้าติดหนี้เจ้า ต่อไปหากเจ้ามีคำขออะไร ข้าจะทำตามที่เจ้าขอหนึ่งข้อ”

“ช่างเถอะ พอได้วิญญาณคืนมาทั้งหมดแล้วอย่าฆ่าข้าก็พอ”

พอเย่จิ่งหานยิ้ม ก็เหมือนหิมะละลาย หมอกดำจางหาย

วินาทีนี้ เขาไม่ได้เกลียดกู้ชูหน่วนแล้ว

แต่กลับมีความรู้สึกบางอย่างกำลังเกิดขึ้นมาใหม่

ถ้าอาหน่วนอยู่ ก็คงพูดจาแดกดัน แต่กลับทำเรื่องที่ทำให้เขาซาบซึ้งใจ

เย่จิ่งหานหลับตาลง ใช้กำลังภายในรักษาบาดแผล

แผลภายในของเขาหายอย่างรวดเร็ว

แต่ว่าขาของเขา……

ตอนแรกก็ยังไม่หายดี ยังโดนหินทับอีก อยากจะหายจริงๆ คงจะต้องใช้เวลาอีกนาน

เย่จิ่งหานเอาผ้าเช็ดหน้าออกมา ช่วยนางเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก สัมผัสได้ถึงลมหายใจหอบของนาง

กู้ชูหน่วนกระตุกยิ้มมุมปาก ปล่อยให้เขาเช็ดไป ปากก็พูดว่า “ถ้าเจ้าอ่อนโยนอีกหน่อย ต่อไปข้าอาจจะยอมแต่งงานกับเจ้าก็ได้นะ”

“ไม่ต้องคิดเลยนะ โลกนี้นอกจากอาหน่วนแล้ว ข้าไม่เอาผู้ใดอีก”

“อารมณ์ร้อนขนาดนี้ เทียบไม่ได้กับเสี่ยวเซวียนเซวียนและเจ้าลูกหมาเลยนะ ถ้าเจ้าไม่แก้นิสัยนี้ ข้าแต่งงานกับพวกเขา ก็ไม่แต่งกับเจ้าหรอก”

“……”

เดินต่อไปอีกนานมาก กู้ชูหน่วนทนไม่ไหวอีกต่อไป หาที่นั่งเย็นๆนั่งพักผ่อนก่อน

นางเอาแหวนมิติออกมาควานหาอยู่นานกว่าจะหาซาลาเปาเจอ

ไม่รู้ว่าซาลาเปานี้นานแค่ไหนแล้ว แข็งอย่างกับหินเลย

ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ พวกเขาก็ต้องกินอยู่ดี

เดินไกลขนาดนั้น พวกเขายังไม่ได้กินอะไรเลย

กู้ชูหน่วนกลืนน้ำลาย แล้วตัดใจยื่นซาลาเปาให้เย่จิ่งหานก่อน

“เจ้าเป็นคนป่วย เจ้ากินก่อนเลย”

“ข้าไม่หิว เจ้าลากข้ามานานขนาดนี้ เจ้ากินเถอะ”

“ไม่ได้เป็นหุ่นยนต์สักหน่อย จะไม่หิวได้อย่างไร รีบกินเถอะ ข้าค่อยหาอย่างอื่นกินแทน”

ของในแหวนมิติมีไม่เยอะ กู้ชูหน่วนควานหาอยู่นาน ด้านในมีแค่ขนมดอกไม้

ขนมดอกไม้ถูกพลังบางอย่างผนึกไว้ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าอยู่ในนั้นมากี่ปีแล้ว แต่กลิ่นหอมก็เหมือนเพิ่งออกจากเตาใหม่ๆ

ตอนแรกก็หิวอยู่แล้ว ตอนนี้พอได้กลิ่นจากขนมดอกไม้หอมขนาดนี้ ทั้งสองก็อดไม่ได้ท้องร้องไม่หยุด

แต่พวกเขากลับไม่มีความกระหายเสียหน่อย

มองดูขนมดอกไม้ ในสมองก็กู้ชูหน่วนก็ขึ้นภาพคนที่สวมชุดสีเขียวปรากฏขึ้นมาอย่างเลือนราง

ทุกครั้งที่เห็นขนมดอกไม้ น้ำตารื้นโดยไม่รู้ตัว

นางรู้สึกว่าเหมือนจะลืมอะไรบางอย่างไป

เย่จิ่งหานกลับนึกถึงอาหน่วน นึกถึงอี้เฉินเฟย

อี้เฉินเฟย คนที่อาหน่วนเคยรักมากที่สุด

แต่ต่อมาเพื่อช่วยเผ่าหยก กระโดดลงเตาหลอม เสียสละชีวิตเพื่อช่วยทั้งเผ่า