ตอนที่ 1243 รนหาเรื่องถูกตบ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

พลังอำนาจขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าขั้นพลังวิญญาณระดับสูงสุดพัดกระโชกเข้ามา ร่างของเขาพุ่งไปที่มู่เฉียนซีราวกับกระสุนปืนใหญ่ก็มิปาน

ทุกคนที่เห็นเช่นนี้ล้วนแต่คิดว่ามู่เฉียนซีต้องตายแน่ ๆ ล่วงเกินใครไม่ล่วงเกิน มาล่วงเกินนายน้อยเจ็ด

แต่ในขณะที่นายน้อยเจ็ดกำลังจะเข้ามาใกล้มู่เฉียนซี จู่ ๆ นายน้อยเจ็ดผู้กล้าหาญก็ตีลังกลางอากาศและล้มลงไปกับพื้น

พรวด! จากนั้นเขาก็กระอักเลือดคำโตออกมา

ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงจนตาค้างไป ไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เห็นทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง

การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ มันเกินความคาดหมายของทุกคนมาก นายน้อยเจ็ดล้มลงไปได้ยังไง?

นายน้อยเจ็ดถลึงตาจ้องมองมู่เฉียนซีด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้าสารเลว! นี่เจ้ากล้าลอบทำร้ายข้า!”

มู่เฉียนซีเผยสีหน้าเย็นชาและน่ากลัวขึ้นไปอีก นางเดินไปตรงหน้านายน้อยเจ็ด ง้างมือตบ เปรี้ยะ! เข้าให้บนใบหน้าของนายน้อยเจ็ดอย่างจัง

“นี่เจ้ากล้าตบหน้าข้า!”

“ข้าเป็นคนที่ไม่ชอบตบหน้าใคร แต่ปากของเจ้ามันหาเรื่องเอง ข้าก็เลยต้องตบสั่งสอนสักหน่อย!”

เปรี้ยะ! มู่เฉียนซีตบหน้าเขาอีกครั้งด้วยหลังมือ และการตบครั้งนี้สองนี้ทำให้บนใบหน้าของนายน้อยเจ็ดปรากฏรอยฝ่ามือขึ้น

“นี่เจ้า เจ้า…” นายน้อยเจ็ดโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นจนกระอักเลือดคำโตออกมาอีกครั้ง ก่อนจะเป็นลมหมดสติไป

คนอื่นเห็นเช่นนี้ต่างก็ตกตะลึงจนตาค้างไป หญิงสาวผู้นี้ช่างกำเริบเสิบสานจริง ๆ! แม้แต่กับนายน้อยเจ็ดแห่งตำหนักเป่ยหานนางยังกล้าตบหน้า แถมยังตบจนหมดสติไปเช่นนี้อีก

มู่เฉียนซีกวาดสายตามองเจ้าหมอนี่ที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น ตำหนักเป่ยหานมีแต่พวกนิสัยไม่ได้เรื่อง!

ถึงแม้ว่านางจะไม่เคยเห็นหน้าหัวหน้าตำหนักผู้นั้น แต่อบรมเลี้ยงดูบุตรชายให้ออกมามีนิสัยแย่ถึงเพียงนี้ได้นั้น ก็คาดว่าจะไม่ใช่คนดีอะไรนัก เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้เป็นภัยต่อเสี่ยวไป๋ ครั้งนี้นางจะต้องเอาเสี่ยวไป๋ออกมาจากตำหนักเป่ยหานให้ได้

นายน้อยเจ็ดเป็นลมหมดสติไปไม่มีกำลังในการต่อสู้แล้ว อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์เห็นมู่เฉียนซีมองมาที่นาง นางจึงรีบยกมือปิดหน้าตัวเองทันที

แรงตบฝ่ามือนั้นของมู่เฉียนซีมันน่ากลัวเกินไปแล้ว นางไม่อยากให้ใบหน้าของนางกลายเป็นเช่นนั้น!

มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าหมอนี่เป็นลมหมดสติไปแล้ว ยังมีที่ว่างอยู่อีกที่หนึ่ง! คุณหนูอวิ๋นเข้าไปเถอะ…”

อวิ๋นเหลียนเอ๋อร์จะกล้าได้อย่างไรกันเล่า นางกล่าว “ขะ ข้า…ข้าไม่เอาแล้ว ข้าสละสิทธิ์…”

นางขณะที่กล่าวนั้น นางก็หันหลังวิ่งหนีไปทันที ราวกับมีสัตว์ร้ายกำลังไล่ล่านางอยู่ก็มิปาน

ทางออกของถ้ำน้ำแข็งมีคนเข้ามาอีกแล้ว และเมื่อเห็นหน้ามู่เฉียนซี คนผู้นั้นก็กล่าวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจว่า “พี่ใหญ่ ในที่สุดข้าก็มาทันจนได้”

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ไม่เลวเลยนี่!”

เขาดีอกดีใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังพบว่ามีที่ว่างเหลืออยู่อีกหนึ่งที่ เขาก็นับว่ามาช้ามากแล้ว แต่เหตุใดถึงยังมีที่ว่างเหลืออยู่อีกล่ะ

“นะ นี่มัน นายน้อยเจ็ดแห่งตำหนักเป่ยหาน…”

เมื่อเขาเห็นร่างนายน้อยเจ็ดก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่นายน้อยเจ็ดผู้นี้มานอนหมดสติอยู่ตรงนี้ และดูเหมือนว่าจะโดนพิษเข้าแล้ว นี่มันเป็นฝีมือพี่ใหญ่ของพวกเขามิใช่หรือ?

สมกับที่เป็นพี่ใหญ่จริง ๆ! แม้แต่นายน้อยเจ็ดแห่งตำหนักเป่ยหานก็โดนพิษจนได้

ในตอนนี้เอง แท่นทรงกลมเก้าแท่นนั้นก็ได้เริ่มเปล่งแสงประกายออกมา มู่เฉียนซีกล่าว “อย่ามัวแต่อึ้งอยู่เลย จะต้องเข้าไปในสระหานซินแล้ว”

แท่นทรงกลมทั้งเก้าแท่นเป็นค่ายกลส่งตัวขนาดเล็ก ค่ายกลส่งตัวนี้ส่งพวกเขาไปในทะเลสาบสีฟ้าอันเย็นยะเยือกแห่งหนึ่ง อากาศหนาวเย็นจนแข็งไปถึงกระดูกแผ่ซ่านออกมา

มีคนอุทานขึ้นว่า “ที่นี่คือสระหานซิน!”

“ยิ่งเป็นแกนกลางของสระหานซิน ผลที่ได้ก็จะยิ่งดีมากขึ้นไปอีก พวกเรารีบลงไปเถอะ”

ตูม ตูม ตูม! พวกเขากระโดดลงไปในสระหานซินอย่างรวดเร็ว

เมื่อพวกเขาลงไปในสระหานซิน ก็รับรู้ได้ถึงความหนาวเหน็บที่ถาโถมเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

มิน่าล่ะว่าเหตุใดถึงต้องมีการทดสอบที่ถ้ำน้ำแข็ง เพราะหากแม้แต่ความหนาวเหน็บของถ้ำน้ำแข็งยังไม่สามารถต้านทานได้แล้วละก็ การลงมาในสระหานซินก็เท่ากับลงมาหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะปรารถนาอยากได้ตำแหน่งแกนกลางของสระหานซิน แต่เพียงเข้าใกล้เพียงครึ่ง พวกเขาก็ทนไม่ไหวปากกลายเป็นสีม่วงไปแล้ว

ทุกคนต้องรู้จักประมาณตน มิเช่นนั้นพวกเขาจะไม่ได้อะไรเลย เมื่อพวกเขาหาตำแหน่งที่เหมาะสมกับตัวเองเจอก็หยุดและเริ่มฝึกบำเพ็ญ โคจรพลังวิญญาณขึ้น เริ่มฝึกฝนหลอมรวมเข้าร่างของตนเอง

แต่มู่เฉียนซีกลับไม่หยุด เป้าหมายของนางก็คือแกนกลางสระหานซิน

“หญิงสาวผู้นั้นบ้าไปแล้ว พลังขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหนึ่งยังกล้าไปที่แกนกลางสระอีก ไม่กลัวแข็งตายหรือยังไง”

“ละโมบโลภมากเกินไปแล้ว ข้ากลัวว่านางจะคว้าน้ำเหลวนะสิ!”

“……”

นอกจากคนของหอหมอปีศาจผู้นั้นแล้ว พวกเขาทุกคนล้วนแต่คิดว่ามู่เฉียนซีรนหาที่ตาย

แต่ยิ่งมู่เฉียนซีเข้าใกล้แกนกลางนั้นมากขึ้นเท่าไหร่ มันยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกอิจฉาริษยานางมากขึ้นเท่านั้น!

“นึกไม่ถึงเลยว่านางจะไปที่แกนกลางจริง ๆ หากสาวน้อยนั่นอดทนได้ อย่างน้อยก็สามารถเลื่อนขั้นได้ถึงสองระดับเลย”

“สองระดับเลยเหรอ!”

พลังที่แกนกลางแข็งแกร่งมาก แต่มู่เฉียนซีกลับรู้สึกว่าตรงที่ลึกลงไปนั้นมีพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า หากไปในที่ลึก บางทีอาจจะได้รางวัลมากขึ้นก็ได้

ทว่า ตอนนี้มันถึงขีดจำกัดของนางแล้ว

และในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันคุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังก้องขึ้นในหัวของนาง “นายท่าน มังกรเพลิงสามารถช่วยท่านได้! ความหนาวเย็นเพียงแค่นี้ มังกรเพลิงช่วยไม่ให้มันทำร้ายนายท่านได้แน่นอน”

กว่าจะมีสถานที่ที่ตนเองจะแสดงความสามารถออกมาได้นั้นมันไม่ง่ายเลย ดังนั้นมังกรเพลิงจึงตื่นเต้นมาก

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “เช่นนั้นก็รบกวนเจ้าแล้ว”

นางต้องการเพิ่มพลังวิญญาณให้รวดเร็วที่สุด

“มันแน่นอนอยู่แล้ว!”

ตุ๋ม! มู่เฉียนซีลงลึกไปในสระหานซิน และสิ่งนี้ก็ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงขึ้นพร้อมกัน

“โอ้แม่เจ้า! หญิงสาวผู้นั้นบ้าไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่านางจะลงไปที่ก้นสระ”

“ได้ยินมาว่าความหนาวเหน็บที่ก้นสระนั้น แม้แต่ยอดฝีมือขั้นสูงสุดก็ต้องถูกแช่แข็ง ดูท่านางคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง!”

“……”

แม้แต่คนของหอหมอปีศาจผู้นั้นก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ นั่นมันอันตรายจริง ๆ แต่เขาก็ยังคงเชื่อว่าพี่ใหญ่ต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน

ในสายตาคนของหอหมอปีศาจแล้ว ผู้ที่ไร้เทียมทานที่สุดมีอยู่สองคน นั่นก็คือหัวหน้าหอหมอปีศาจ และท่านผู้นำตระกูลมู่

อุณหภูมิที่ก้นบึ้งสระหานซินนั้นช่างน่าทึ่งจริง ๆ แต่ในขณะที่ความหนาวเหน็บนั้นกำลังจะทำร้ายมู่เฉียนซี พลังธาตุอัคคีอันรุนแรงก็ได้กดทับพวกมันเอาไว้

เมื่อมาถึงก้นสระ ภายใต้การปกป้องของมังกรเพลิง มู่เฉียนซีจึงเข้าสู่การฝึกบำเพ็ญที่ไร้ซึ่งความกังวล

ทันที่เคล็ดเทพต้านสวรรค์โคจรขึ้น พลังวิญญาณก้นสระหานซินก็ไหลเข้าสู่ร่างของมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง

ฝึกบำเพ็ญอยู่ครึ่งค่อนวัน มู่เฉียนซีก็ทะลวงพลังวิญญาณได้แล้ว

…จักรพรรดิแห่งภูตระดับสอง…

ส่วนคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านบนก็ไม่สามารถอดทนได้นานนัก เมื่อเลื่อนขั้นพลังวิญญาณได้ระดับเดียวก็พอใจกับสิ่งที่ได้และออกไปทันที

ตรงกันข้าม ศิษย์ของหอหมอปีศาจผู้นั้นกลับยืนหยัดจนถึงที่สุด

จนสุดท้ายเขาจึงยิ้มพลางกล่าวขึ้นว่า “สองระดับ ข้าเลื่อนขั้นได้สองระดับแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ทำให้พี่ใหญ่กับท่านรองหัวหน้าผิดหวัง แต่ว่า ทำไมพี่ใหญ่ยังไม่ขึ้นมาอีกล่ะ…”

หากเขาลงไปที่ก้นสระก็เท่ากับไปตาย รีบเอาเรื่องนี้ไปรายงานท่านรองหัวหน้าดีกว่า

และในตอนนี้เอง เหลิ่งหนิงจือที่อยู่ด้านนอกสีหน้าของนางก็พลันเปลี่ยนไปแล้ว จิตสังหารอันคุ้นเคยนั้นกำลังใกล้เข้ามา

“นายน้อยเจ็ด มีผู้แข็งแกร่งกำลังใกล้เข้ามา ระดับของข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนผู้นั้น รีบไปกันเถอะ!” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวกับนายน้อยเจ็ดที่ใบหน้าตอนนี้เหมือนหัวหมูก็มิปาน

“ข้าจะไปแก้แค้นนังผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้จะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”

“นายน้อยเจ็ด หญิงสาวผู้นั้นไม่รู้จักความเป็นความตายดำดิ่งลงไปในก้นสระหานซินแล้ว นานแล้วก็ยังไม่โผล่หัวขึ้นมา เกรงว่าคงจะแข็งตายไปแล้วเป็นแน่ อย่าได้เสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย” อีกคนหนึ่งกล่าว

“ว่ายังไงนะ! ตายแล้วเหรอ!” นายน้อยเจ็ดที่ไม่ได้แก้แค้นก็รู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างยิ่ง

จิตสังหารที่เข้ามาใกล้นั้นทำให้เขารู้สึกอันตรายมาก เขาไม่กล้าอยู่ต่อ และทำได้เพียงแค่จากไปพร้อมกับท่านผู้อาวุโสของตำหนักเป่ยหานเท่านั้น

ทางด้านเหลิ่งหนิงจือก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้า รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า”