มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1020

“เทพธิดา……ระวังชื่อเสียงของเจ้าด้วย”

ลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเทวีหานยู่พร้อมกับเหลียนเอ๋อร์ต่างรู้สึกหน้าชา

“ข้าพูดอะไรผิดหรือ” เหลียนเอ๋อร์กลับรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องปกติ นางกล่าวอย่างแข็งกระด้างว่า “บุรุษรุ่นราวคราวเดียวกันตอนนี้ มีใครที่เพรียบพร้อมไปมากกว่าเขาบ้าง”

“ข้าคือเทพธิดาของแดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้ หากจะแต่งงานก็ต้องแต่งกับคนที่เพรียบพร้อมที่สุด”

เหลียนเอ๋อร์เอามือทั้งสองขางเท้าเอว ราวกับสตรีป่าเถื่อนไร้เหตุผล

“บุรุษที่เพียบพร้อมนั้นมีมาก ทำไมเจ้าต้องเลือกข้าด้วย” หลัวซิวเช็ดคราบน้ำที่เลอะปากตนและกล่าวอย่างจนปัญญา

“ทำไมรึ ท่านไม่ชอบเทพธิดาอย่างข้าหรือไง” เหลียนเอ๋อร์กล่าว

ลูกศิษย์สองสามคนของแดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้ต่างกุมขมับ พลางคิดในใจว่าเหตุใดนิสัยหัวรั้นของนางถึงมากำเริบตอนนี้ได้อีก

หลัวซิวเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี เหลียนเอ๋อร์ผู้นี้เป็นคนจิตใจบริสุทธิ์มาก คิดอย่างไรก็ทำอย่างนั้นโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง

องค์กุมารพรสวรรค์มีจิตใจที่บริสุทธ์ลึกซึ้ง เมื่อเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เกิดทำให้สัมผัสได้ถึงพลังพื้นฐานที่สุดของฟ้าดิน จึงมีศักยภาพที่สูงมาก

ไม่ว่าหลัวซิวจะพูดว่าอย่างไร เหลียนเอ๋อร์ก็เริ่มเซ้าซี้จะสู้เอาชนะเขาให้ได้ แต่ครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการต่อสู้ที่มีเป้าหมายคือต้องการให้หลัวซิวแต่งงานกับนาง

หลัวซินจนปัญญาได้แต่ฝืนกล่าวว่า “หากเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้ ก็อย่ามาก่อกวนข้าก็แล้วกัน”

“เริ่มเลย!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าเหลียนเอ๋อร์จะเป็นคนว่องไวใจเร็วขนาดนี้ นางไม่ยอมต่อสู้แบบซึ่งหน้า หลัวซิวยังไม่ทันจะกล่าวจบนางก็ลงมือทันที นับว่าเป็นการลอบโจมตีอย่างหนึ่ง

“เจ้าสำนักหลัวได้โปรดยั้งมือให้ด้วย” สตรีสูงอายุของแดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้มองไปทางหลัวซิวอย่างอ้อนวอน

หลัวซิวพยักหน้าและหันไปทางเหลียนเอ๋อร์ที่กำลังบุกโจมตีเขาทันที พลางยิ้มกล่าวว่า “สาวน้อยนางนี้ก็นับว่าไม่โง่ รู้ว่าเอาชนะข้าไม่ได้เลยเลือกที่จะลอบโจมตี แต่เจ้าคิดว่าลอบโจมตีแล้วจะเอาชนะได้งั้นหรือ”

หลัวซิวเพียงหัวเราะเบาๆ แล้วชี้มือออกไป

“อ๊าา!……”

เหลียนเอ๋อร์ที่มีท่าทางซุกซนว่องไวร้องเสียงหลง ร่างกายบอบบางของนางปลิวกระเด็นไปไกล

“เทพธิดา!”

สตรีชราของแดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้รีบทะยานตามไป แล้วรับเหลียนเอ๋อร์เอาไว้ นางใช้ตราสำนึกสำรวจจึงพบว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

“ย่าหยวน เขารังแกข้า” เหลียนเอ๋อร์กลอกตา คนผิดย่อมต้องเป็นฝ่ายชิงฟ้องก่อน

เมื่อทุกคนในที่นั้นได้ยิน ต่างพากันหัวเราะ

“ไร้สาระ!” สตรีชรานางนั้นถลึงตาใส่ และก็กล่าวตำหนิออกมา จากนั้นจึงมองไปทางหลัวซิว “ข้าขอขอบคุณที่เจ้าสำนักหลัวยั้งมือเอาไว้”

“ผู้อาวุโสหยวนพูดเกินไปแล้ว เหลียนเอ๋อร์เป็นคนเฉลียวฉลาด ทั้งหมดทำมาจากใจ ข้าย่อมไม่ทำร้ายนางแน่นอน”

หญิงชราแซ่หยวนคนนี้เป็นผู้อาวุโสไท่ซ่างคนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้ ฝึกตนอยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นห้า

เหลียนเอ๋อร์มีนิสัยซุกซน แดนศักดิ์สิทธิ์สระบัวแท้กลัวว่านางจะไปก่อเรื่องวุ่นวายที่โลกด้านนอก จึงส่งหญิงชราคนนี้มาคอยคุ้มกันนาง

เทวีหานยู่ปรากฏตัวออกมา นางต่างหากที่เป็นตัวละครหลักของวันนี้ แขกทุกคนที่มาร่วมอวยพรต่างพากันเข้ามากล่าวทักทาย เทวีหานยู่จึงตอบรับทีละคน

หลังจากดื่มฉลองไปครู่ใหญ่แล้ว มหาจักรพรรดิของตำหนักดารานภาคนหนึ่งก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เจ้าสำนักหลัวอยู่แดนอาณาจักรมใต้ มิทราบว่ามายังแดนตะวันออกด้วยเรื่องใด”

“ย่อมเป็นเพราะต้องการมาแสดงความยินดีกับเทวีหานยู่ ท่านมีความเห็นอะไรหรือไม่” หลัวซิวกล่าวตอบอย่างเรียบเฉย

“หากมาเพียงเพื่อแสดงความยินดีเท่านั้นข้าก็ยินดีต้อนรับ แต่เจ้าสำนักหลัวรีบกลับหน่อยก็ดี” มหาจักรพรรดิยุทธ์ของตำหนักดารานภาผู้นี้หัวเราะ น้ำเสียงของเขาแฝงเจตนาบางอย่างซ้อนเร้น

หลัวซิวได้ยินดังนั้นก็รู้ทันทีว่าตำหนักดารานภาต้องการแทรกแซงไม่ให้เขาไปหาชี่ซวยที่แดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาและแดนศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน”