ในปราการมังกรม่วงเวลานี้เหล่าทายาทมังกรสวรรค์ทั้งหลายต่างได้มารวมตัวกันอยู่สิ้นพร้อมที่จะเดินทางต่อไปยังที่หมาย
เวลานี้มันมีสองผู้คนกำลังยืนประกอบซ้ายขวาชายหนุ่มผู้หนึ่งด้วยท่าทางอ่อนน้อม
“หึๆ ด้วยกำลังของพี่หยูแล้วท่านคงเอาชนะศึกทายาทมังกรครั้งนี้ได้เป็นแน่!”
คนที่พูดขึ้นมานี้มันคือหลงเจิ้งที่อ่าวซู่ไปรับมานั้นเอง
“ใช่แล้ว! พี่หยูนั้นเก่งกาจเหนือใครในหมู่คนจากปราการมังกรม่วงเรา มีเพียงแค่เหล่าผู้ที่ลงมาจากเขามังกรสวรรค์เท่านั้นที่จะพอทนทานฝีมือเขาได้”
ส่วนอีกคนที่กล่าวอยู่นี้คือทายาทมังกรสวรรค์อีกคนของปราการมังกรม่วงนามอ่าวจง
หลงเสี่ยวฉุนนั้นไม่ได้เป็นผู้มีตรามังกรสวรรค์อยู่กับตัว แต่ด้วยตัวตนสุดพิเศษของนางนั้นนางจึงได้รับเชิญให้เข้าร่วมศึกทายาทมังกรด้วย
“หึ! ปราการมังกรพิรุณมันเองก็ช่างชักช้านัก จนป่านนี้ก็ยังไม่โผล่หัวออกมา!” หลงเจิ้งกล่าว
หลังจากพูดคุยกันไปได้อีกพักหนึ่งอ่าวซู่ก็ได้ส่งสัญญาณเรียกอ่าวหยูเข้าไปคุยเป็นการส่วนตัวไม่ให้ใครได้ยิน
“ลุงรอง เจ้าเด็กคนนั้นมันเก่งกาจอย่างที่ท่านว่าจริง?” อ่าวหยูร้องถามพร้อมขมวดคิ้วแน่น
“ยิ่งกว่าเสียอีก! เจ้าคิดว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเป็นใคร? คนระดับนั้นกลับกล้าตั้งมันเป็นปราชญ์ เจ้าคิดว่ามันจะธรรมดาหรือ? หากให้มันเติบโตขึ้นไปแล้ววันหน้ามันย่อมจะกลายเป็นศัตรูของเจ้าแน่!” อ่าวซู่ร้องบอก
อ่าวซู่บอกเล่าความร้ายกาจของเย่หยวนให้แก่อ่าวหยูไป
เพียงแค่ว่าคำพูดทั้งหลายนั้นมันเหมือนนิทานหลอกเด็ก ตัวอ่าวหยูจึงไม่ได้เชื่อถือมากมาย
อ่าวหยูนั้นเป็นคนเย่อหยิ่งด้วยนิสัย เดิมทีแล้วตัวเขาย่อมจะไม่มาสนใจผู้คนในรุ่นเดียวกันแม้แต่น้อย แต่จู่ๆ กลับจะบอกว่ามีตัวประหลาดที่ไหนไม่ทราบปรากฏกายขึ้น แน่นอนว่าเขาย่อมจะไม่พอใจ
แต่อ่าวหยูเองก็รู้ดีว่าอ่าวซู่คงไม่ปล่อยให้ภัยเช่นนั้นอยู่ต่อไปง่ายๆ
“ท่านแน่ใจหรือว่ามันจะมาไม่ถึงแล้ว?” อ่าวหยูร้องถามขึ้น
อ่าวซู่ยิ้มตอบกลับไป “เจ้าเองก็รู้ดีว่าหลงเสี่ยวมันเก่งกาจปานใด! ต่อให้จะเป็นทายาทมังกรสวรรค์ใดๆ สุดท้ายมันก็เป็นแค่อัจฉริยะที่ยังไม่เติบโตดี มีหรือที่มันจะรอดมือเทพสวรรค์สี่ดาวไปได้? ทั้งยังไม่ต้องพูดถึงเหล่าลูกน้องทั้งหลายของหลงเสี่ยวที่เก่งกาจดุร้าย ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์สามดาวขั้นสุดไปมันก็คงไม่อาจรอดชีวิตกลับออกมาได้!”
อ่าวซู่ยิ้มตอบกลับไป “ลุงรองท่านทำเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์แบบ จัดการยอดศัตรูให้พ้นจากหน้าข้าไปสิ้น! ลุงรองวางใจเถอะ วันหน้าหากข้าก้าวขึ้นถึงเขามังกรสวรรค์ได้จริงๆ แล้วข้าย่อมจะไม่ลืมความเอ็นดูที่ท่านมีให้ข้า”
อ่าวซู่นั้นตื่นเต้นดีใจทันทีที่ได้ยินแต่ก็ยังแสดงสีหน้ายิ้มๆ ออกมา “เจ้าเด็กคนนี้ ยังจะมาเกรงใดๆ ลุงเจ้าอีกเล่า?”
ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังรอเย่หยวนและหลงเสี่ยวฉุนอยู่นั้นมันก็ได้มีคนใช้เข้ามารายงานว่ามีร่องรอยของโจรเสี่ยวบนเทือกเขาเมฆาสวรรค์ ดูท่าแล้วมันคงเกิดการต่อสู้หนักหน่วงขึ้นพร้อมทั้งยังสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังของมนุษย์หลงเหลือในที่เกิดเหตุ
ดูท่าแล้วทายาทมังกรสวรรค์เย่หยวนและหลงเสี่ยวฉุนนั้นจะถูกสังหารลงแล้ว!
ทุกผู้คนนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนนั้นเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในหมู่ทายาทมังกรสวรรค์ คลื่นพลังบนร่างของเขาจึงเด่นชัดที่สุด
เช่นนั้นแล้วคลื่นพลังที่สัมผัสได้นี้มันย่อมจะเป็นเขาแล้ว
เมื่อคำพูดนี้ถูกเหล่าคนทั้งปราการมังกรม่วงต่างก็แตกตื่นขึ้น
ทายาทมังกรสวรรค์ถูกฆ่าสังหารนั้นมันเท่ากับว่าเจ้ามังกรปราการสวรรค์ถูกฆ่าลง เป็นเรื่องใหญ่จนเกินกว่าจะปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ
เมื่ออ่าวซู่ได้ยินเรื่องราวนั้นสีหน้าของเขาก็ขาวซีดลง ยกมือต่อยอกทุบหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง “ม-มันเป็นไปได้อย่างไร? นี่มัน…มันเป็นเพราะข้าทิ้งพวกเขาไว้ใกล้ๆ เทือกเขาเมฆาสวรรค์ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็คงไม่ไปเจอโจรเสี่ยวเข้า เจ้าพวกมารร้ายทั้งหลายนั้น!”
อ่าวซู่นั้นแสดงสีหน้าท่าทางโกรธแค้นเจ็บใจออกมาอย่างเหมือนจริง
ไม่ว่าจะอย่างไรสิ่งหนึ่งที่เขาผู้นี้มีก็คือทักษะการแสดงที่เหนือล้ำ หากมีรางวัลการแสดงใดๆ บนโลกนี้ตัวเขาคงกวาดมาได้เรียบ
เรื่องราวนี้มันย่อมจะเป็นความผิดของเขาที่สุด แต่ท่าทางโทษตัวเองของเขานี้มันทำให้คนทั้งหลายไม่อาจจะโทษเขาได้อีกต่อไป
เจ้ามังกรแห่งปราการมังกรม่วงนั้นได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างคิดหนัก
“ผู้พิทักษ์ซู่ เรื่องเช่นนี้มันย่อมไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เจ้าอย่าได้ว่ากล่าวตัวเองนักเลย”
“ใช่แล้ว ผู้พิทักษ์ซู่! เรื่องนี้ท่านเองก็ไม่ได้อยากให้มันเกิด มันเป็นความผิดโจรเสี่ยวสิ้น!”
…
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นอ่าวซู่ร้องไห้ออกมาเช่นนั้นพวกเขาต่างก็เข้ามาช่วยปลอมประโลม
อ่าวซู่ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก่อนจะมาคุกเข่าลงต่อหน้าเจ้ามังกร “ท่านเจ้ามังกร อ่าวซู่ขออนุญาติเดินทางไปยังเทือกเขาเมฆาสวรรค์เพื่อจัดการพวกโจรเสี่ยวให้สิ้น! เรื่องครั้งนี้ต่อให้ข้าต้องเสียเวลาไล่ล่านับแสนปีข้าก็จะจัดการพวกมันลงให้ได้!”
เจ้ามังกรหันไปมองเขาอย่างมีนัย ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมา “ช่างเถอะ เรื่องนี้เจ้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด โจรเสี่ยวทั้งหลายนั้นมันสุดแสนมากเล่ห์ ต่อให้เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เองก็ยังไม่อาจกำจัดมันลงได้ เรื่องนี้จักรพรรดิผู้นี้จะไปขอรับโทษจากทางเขามังกรสวรรค์เอง”
แม้ว่าตัวเจ้ามังกรนั้นจะสงสัยในเรื่องราวอยู่ไม่น้อยแต่เมื่อไร้หลักฐานใดๆ ตัวเขาก็คงไม่อาจจะไปกล่าวหาว่าอ่าวซู่ได้ด้วยปากเปล่า
แต่เรื่องนี้มันก็น่าสงสัยจนเกินไป!
“ท่านเจ้ามังกร เรื่องนี้…ข้าหวังว่าท่านเจ้ามังกรจะให้โอกาสอ่าวซู่ได้แก้ตัวด้วย ข้าจะไปจัดการทวงแค้นให้ท่านทายาทมังกรสวรรค์เย่และหลงเสี่ยวฉุนเอง!” อ่าวซู่ยังคงกล่าวออกมาอย่างคับแค้นใจ
“โอ้? มีอะไรกันหรือ? ทำไมจักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่ท่านจะมาแก้แค้นให้พวกข้าเล่า?”
เจ้ามังกรนั้นยังไม่ทันจะได้ตอบใดๆ มันกลับเกิดเสียงของเด็กหนุ่มดังขึ้นมาขัดเสียก่อน
เมื่ออ่าวซู่ได้ยินเสียงนี้เขาย่อมจะต้องเบิกตากว้างราวกับได้เห็นผี “เจ้า…เจ้ากลับยังไม่ตาย?”
เมื่ออ่าวซู่ได้เห็นภาพนี้ มีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจ?
ดวงตาของเขานี้มันเหมือนดั่งจะมองทะลุเย่หยวนไปเสียให้ได้
เย่หยวนจึงตอบกลับมาพร้อมหัวเราะเย้ย “ท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่คงผิดหวังมากที่ข้าปลอดภัย!”
เวลานี้ความตื่นตกใจของอ่าวซู่มันมากมายจนเกินกว่าจะใช้คำใดๆ มาอธิบาย
เทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้นี้มันกลับรอดมือการลอบโจมตีของพวกหลงเสี่ยวออกมา มันจะเหนือฟ้าดินเกินไปแล้ว!
กำลังของหลงเสี่ยวและพวกนั้นเก่งกาจปานใดตัวเขาเข้าใจอย่างดี อย่าว่าแต่เทพสวรรค์หนึ่งดาว ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์สี่ดาวเองพวกเขาก็คงไม่อาจรอดกลับมาได้
ไม่เช่นนั้นแล้วปราการมังกรม่วงที่มีจักรพรรดิเทพสวรรค์มากมายนี้คงจัดการพวกหลงเสี่ยวที่เป็นแค่เทพสวรรค์สี่ดาวลงไปได้สิ้นแล้ว
แน่นอนว่าความอยู่รอดนี้มันย่อมจะเกี่ยวข้องกับอ่าวซู่ด้วย แต่กำลังของคนทั้งหลายนั้นเองก็มิใช่สิ่งที่ปลอมแปลงได้
แต่ภาพตรงหน้านี้มันคืออะไรกัน?
อ่าวซู่นั้นรีบตอบกลับไปด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ในทันที “ฮ-ฮ่าๆ มันจะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ท่านทายาทมังกรสวรรค์เย่นั้นกลับมาได้อย่างปลอดภัยมันย่อมจะทำให้จักรพรรดิผู้นี้โล่งใจ! ข้านั้นพาตัวหลงเจิ้งไปตามหาพวกเจ้าทั้งสองแต่กลับไม่ได้พบเจอพวกเจ้าแม้แต่ร่องรอยใด”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมาอย่างเย้ยหยัน “จักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่คงไปหาพวกเราเพื่อยืนยันว่าพวกเราตายหรือยังใช่หรือไม่?”
อ่าวซู่หน้าซีดลง “เจ้าหมายความว่าอย่างไรกัน?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “ที่ข้าหมายถึง เจ้าจะไม่เข้าใจหรือ? หลายปีมานี้เจ้าได้สั่งการพวกหลงเสี่ยวให้ฆ่าสังหารปล้นผู้คนมากมาย แต่แท้จริงแล้วผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังกลุ่มโจรหลงเสี่ยวมันก็คือเจ้า!”
ยิ่งพูดไปน้ำเสียงของเย่หยวนมันก็ยิ่งดุดันและร้อนแรงขึ้น
“หะ? หัวหน้าที่แท้ของพวกโจรเสี่ยวมันคือจักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่หรือ? เป็นไปได้อย่างไร?”
“เจ้าเด็กคนนี้มันสติไม่ดีหรือไม่? กลับกล้ามาพูดจาใส่ร้ายท่านจักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่เช่นนี้?”
“จักรพรรดิเทพสวรรค์อ่าวซู่นั้นอ่อนโยนกับทุกผู้คนในปราการนี้ เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เพียงไม่กี่คนที่ไม่คิดถือตัว มีหรือที่จะเป็นหัวหน้าพวกโจรหลงเสี่ยวไปได้?”
“ต่อให้จะเป็นทายาทมังกรสวรรค์ก็ไม่มีสิทธิมาพูดจาใส่ร้ายโดยไร้หลักฐานเช่นนี้!”
…
มันเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นทั่วทิศ คำพูดของเย่หยวนนี้มันทำให้คนทั้งหลายเริ่มพูดคุยถกเถียงกันขึ้น
แต่แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ย่อมจะไม่คิดเชื่อ
อ่าวซู่นั้นเป็นคนที่วางตัวได้อย่างแนบเนียน ตัวเขาย่อมจะมีชื่อเสียงอย่างดีงามในปราการ
เพราะฉะนั้นคำพูดของเย่หยวนนี้มันจึงทำให้คนทั้งหลายหันมาว่ากล่าวเย่หยวนแทน
“ฮ่าๆๆ… ท่านทายาทมังกรเย่คงพูดเล่นให้จักรพรรดิผู้นี้ฟังแล้ว! ท่านเองก็เข้าใจดีว่าตัวข้า อ่าวซู่นั้นเป็นอย่างไร มีหรือที่ข้าจะไปร่วมมือกับโจรร้ายอย่างหลงเสี่ยวได้?” อ่าวซู่หัวเราะลั่นขึ้นมา
……………..