“เธอ เธอ…”
คำพูดของเซียวจื่อฉิงทำให้หมีเสวี่ยโมโห เธอชี้ไปที่อีกฝ่ายด้วยดวงตาแดงก่ำ แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว
เซียวจื่อฉิงบอกว่าเธอยังอ่อนหัดนัก เพราะเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยมาได้ไม่นาน นี่คืองานแรกของเธอ
และเซียวจื่อฉิงก็เป็นพนักงานเก่าแก่ของที่นี่ แถมยังครองแชมป์ยอดขายของเดือนที่แล้วอีกด้วย
ตั้งแต่หมีเสวี่ยเข้ามาทำงานที่ฝ่ายขายของเมืองในฝัน เซียวจื่อฉิงก็แย่งยอดขายของเธอไปหมด
ระยะเวลาทดลองงานสามเดือนกำลังจะครบกำหนดแล้ว แต่บ้านของเธอขายไม่ออกเลย ถ้าในช่วงทดลองงานไม่สามารถขายได้แม้แต่หลังเดียว ก็คงต้องถูกไล่ออกจากบริษัท
กว่าจะได้พบกับหยางเฉินมันไม่ง่ายเลย เธอยังรู้สึกว่าหยางเฉินจะซื้อวิลล่าราคา 1,500 ล้านหลังนี้จริงๆ
แต่บังเอิญคนที่เซียวจื่อฉิงพามาก็ช่างใจป้ำ มีโอกาสมากที่จะซื้อวิลล่าพร้อมสวนนี้
“เธออะไรกัน? ฉันอยู่บริษัทนี้มาสามปีแล้ว ต้องรู้จักเคารพรุ่นพี่สิ เรียกฉันว่าพี่ฉิง!”
เซียวจื่อฉิงท่าทางเหมือนพนักงานเก่าแก่ เธอชี้ไปที่ประตูห้องจัดแสดงโมเดลโต๊ะทรายวิลล่าระดับไฮเอนด์ พลางตวาดใส่ “ทิ้งกุญแจไว้ แล้วไสหัวไป!”
ดวงตาของหมีเสวี่ยแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้าไปมา
แต่งานนี้มีความสำคัญต่อเธอมาก แม้ว่าจะต้องอับอายขายหน้าก็จำเป็นต้องอดทน
“เซียวจื่อฉิง คุณทำเกินไปแล้ว!”
หยางเฉินทนดูไม่ไหวอีกต่อไปและกล่าวอย่างเย็นชา
เซียวจื่อฉิงรีบเปลี่ยนเป็นยิ้มแย้ม มองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “หยางเฉิน ขอโทษนะคะ ฉันได้ตั้งใจจะงัดข้อกับคุณ มีบางเรื่องที่คุณไม่รู้ อย่าไปสนใจผู้หญิงคนนี้เลย”
“ที่รัก ฉันชอบวิลล่าหลังนี้มากๆ แถมยังอยู่ห่างจากวิลล่าอื่นๆ ด้วย ถ้าอยู่ที่นี่ต้องมีความสุขมากแน่ๆ”
ในเวลานี้คู่สามีภรรยาวัยกลางคนที่เซียวจื่อฉิงพามา ฝ่ายภรรยาพูดด้วยสีหน้าคาดหวัง “ที่รัก เราก็ซื้อวิลล่าพร้อมสวนนี้ไปเลยสิคะ ไม่แพงด้วย ราคา 150 ล้าน”
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “เราไปดูวิลล่าอื่นๆ ที่ห้องจัดแสดงข้างนอกก่อนดีกว่า”
“ที่รัก ฉันชอบความสงบ วิลล่าหลังนี้ไม่เพียงแต่มีลานขนาดใหญ่ แต่ยังอยู่ไกลจากวิลล่าอื่นๆ ด้วย อยู่ที่นี่ต้องเงียบสงบมากแน่ๆ”
“ที่รัก ฉันขอร้องล่ะนะ เราซื้อวิลล่าหลังนี้เถอะ ดีไหม?”
หญิงวัยกลางคนน่าจะอายุได้สี่สิบกว่าแล้ว แต่ก็ยังพูดจาออดอ้อนสะบัดสะบิ้ง หยางเฉินได้ยินแล้วก็ขนลุก
“วิลล่าหลังนี้ราคา 150 ล้าน ไม่ลดอีกหน่อยเหรอครับ?”
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนก็มองไปที่เซียวจื่อฉิงและเอ่ยถามขึ้น
เซียวจื่อฉิงรีบพูดว่า “คุณผู้ชายคะ มันไม่ใช่ 150 ล้าน แต่เป็น 1,500 ล้าน วิลล่าในห้องจัดแสดงนี้ทั้งหมดเป็นวิลล่าอันดับต้นๆ ในเมืองเยี่ยนตู มีราคาเริ่มต้น 500 ล้าน และวิลล่าพร้อมสวนหลังนี้ก็เป็น…”
“เดี๋ยวนะ!”
ชายวัยกลางคนตัดบทเซียวจื่อฉิงไม่ให้ร่ายยาวต่อไป พลางขมวดคิ้วพูดว่า “คุณหมายความว่าวิลล่าพร้อมสวนนี้ราคา 1,500 ล้าน?”
เซียวจื่อฉิงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “ใช่ค่ะ แต่ระดับอย่างคุณผู้ชาย อย่าว่าแต่ 1,500 ล้านเลย ต่อให้เป็นวิลล่าราคา 15,000 ล้าน ท่านก็เต็มใจซื้อแน่นอน”
“ซื้อแม่คุณสิ!”
“1,500 ล้าน? ทำไมคุณไม่ไปปล้นธนาคารซะเลยล่ะ?”
“วิลล่าโทรมๆ หลังเดียว ยังกล้าขายตั้ง 1,500 ล้าน?”
ชายวัยกลางคนเกิดโมโหขึ้นมาอย่างฉับพลัน ด่ากราดใส่เซียวจื่อฉิงทันที
เซียวจื่อฉิงเองก็ถึงกับมึนงง รีบบอกทันที “คุณผู้ชายคะ ฉันยังมีส่วนลดให้ท่านอีก 3% พูดอีกอย่างก็คือ วิลล่าพร้อมสวนหลังนี้ขายเพียง 1,455 ล้านเท่านั้น ช่วยท่านประหยัดไปได้ 45 ล้าน ลดพิเศษสุดๆ แล้ว ไม่แพงเลยนะคะ”
“ดี ในเมื่อมันไม่แพง ทำไมคุณไม่ซื้อไว้เองสักหลังล่ะ!”
ชายวัยกลางคนพูดด้วยความโมโห แล้วดึงภรรยาออกไป
“คุณผู้ชายคะ เดี๋ยวก่อนค่ะ ท่านลองดูอีกที ฉันสามารถขอส่วนลดจากหัวหน้าเพิ่มให้อีกได้นะคะ”
เซียวจื่อฉิงรีบขวางชายหญิงวัยกลางคนไว้และพูดอย่างตื่นเต้น
วิลล่าพร้อมสวนหลังนี้มีราคา 1,500 ล้าน ถ้าเธอขายออกไปได้สำเร็จ เฉพาะค่าคอมมิชชั่นก็ได้หลายแสนแล้ว
กว่าจะได้พบกับมหาเศรษฐีสักคนมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เธอจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร
“ผัวะ!”
ชายวัยกลางคนตบหน้าเซียวจื่อฉิงและพูดด้วยความโกรธเคือง “หญิงชั่ว ไปให้พ้น!”
จากนั้นชายวัยกลางคนก็ดึงภรรยาออกไป
“คุณผู้ชายคะ เดี๋ยวก่อน ถ้าท่านยินดีซื้อวิลล่าหลังนี้ ท่านให้ฉันทำอะไร ฉันยินดีทำทุกอย่างเลยค่ะ”
แม้ว่าจะถูกตบแต่เซียวจื่อฉิงก็ยังวิ่งตามออกไปอย่างไม่อาย และพูดอะไรที่ทำให้คนอื่นคิดไปได้ต่างๆ นานา
ฉินยียังถึงกับอึ้งไป เธอยิ้มและพูดว่า “พี่เขย เพื่อนร่วมชั้นของคุณคนนี้สุดยอดจริงๆ!”
หยางเฉินยิ้มขมขื่นพลางส่ายหน้า จากนั้นก็มองไปทางหมีเสวี่ยและถามว่า “ตอนนี้ไม่มีใครมารบกวนเราแล้ว คุณพาเราไปดูบ้านได้ไหม?”
ดวงตาของหมีเสวี่ยแดงก่ำ สีหน้ายังมีความพยายามอยู่ แต่ไม่นานเธอก็บอกว่า “คุณหยางคะ ต้องขอโทษเป็นอย่างมาก ถ้าคุณซื้อวิลล่าพร้อมสวนกับฉัน คุณจะไม่ได้ส่วนลดแม้แต่บาทเดียว”
“เซียวจื่อฉิงเป็นแชมป์ยอดขายเดือนที่แล้ว เธอจึงมีส่วนลด 3% ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ ทำไมคุณไม่ซื้อจากเธอล่ะคะ? แบบนี้คุณก็จะได้ประหยัดเงินไปสี่สิบห้าล้านด้วย”
หยางเฉินถึงกับอึ้งไป เขาคิดไม่ถึงว่าหมีเสวี่ยที่ถูกเซียวจื่อฉิงกลั่นแกล้งเมื่อครู่ จะแนะนำให้เขาไปซื้อบ้านจากเซียวจื่อฉิงเอง
และเหตุผลของเธอก็คือ ทำให้หยางเฉินประหยัดเงินไปได้สี่สิบห้าล้าน
ฉินยีเองก็แปลกใจมาก เธอเดินเข้าไปหาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้ง จับมือหมีเสวี่ยด้วยความสนิทสนมและกล่าวว่า “เสียวเสวี่ย ในเมื่อเราสามารถซื้อวิลล่าในราคา 1,500 ล้านไหว เธอคิดว่าเรามีปัญหากับเงินสี่สิบห้าล้านเหรอ?”
หมีเสวี่ยชะงักไปในทันที จากนั้นแววตาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณพวกคุณมาก!”
“เอาล่ะ พาเราไปดูบ้านกันเถอะ!”
ฉินยีกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ทันทีที่ทั้งสามคนเดินออกจากห้องจัดแสดง ก็เห็นเซียวจื่อฉิงเดินหน้าแดงเข้ามา บนใบหน้ายังมีรอยฝ่ามืออย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าจะโดนชายวัยกลางคนเมื่อครู่ตบอย่างแรง
“ว่าไงคะ จะกลับแล้วเหรอ? วิลล่าพร้อมสวนราคา 1,500 ล้านไม่ซื้อแล้วเหรอ?”
เซียวจื่อฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ในคำพูดเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย
หมีเสวี่ยตอบด้วยความโมโห “ฉันจะพาคุณหยางและคนอื่นๆ ไปดูบ้านก่อน หลังจากนั้นค่อยทำเรื่องซื้อขาย”
เซียวจื่อฉิงหัวเราะเบาๆ “เสียวเสวี่ย เธอนี่ช่างไร้เดียงสา ถ้าอย่างนั้นก็รีบพาลูกค้าของเธอไปดูบ้านเถอะ”
“แต่ในฐานะที่มีประสบการณ์มาก่อน ฉันขอแนะนำอะไรเธอสักอย่างหนึ่ง ตอนดูบ้านต้องระวังหน่อย ถ้าหากทำสิ่งใดแตกหัก เธอจะชดใช้ไม่ไหว”
“นอกจากนี้เธอยังต้องเตรียมใจเผื่อไว้หน่อย พอดูห้องเสร็จ ถ้าอีกฝ่ายมีข้ออ้างว่าไม่ชอบ หรือบอกว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาซื้อ เธอก็อย่าทึกทักว่าเป็นเรื่องจริง”
“เอาล่ะ ฉันเตือนไปหมดแล้ว เธอพาลูกค้าของเธอไปได้แล้ว”
หมีเสวี่ยเม้มริมฝีปากแน่น กำลังจะตอบโต้กลับ แต่ฉินยีก็ชิงพูดขึ้นก่อน “คุณกำลังบอกว่าสามีของฉันเป็นพวกกระจอก ซื้อบ้านราคา 1,500 ล้านไม่ไหวเหรอคะ?”
เซียวจื่อฉิงหัวเราะเบาๆ “หยางเฉินเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่าของฉัน ฉันจะพูดอย่างนั้นได้ยังไงล่ะคะ? ฉันแค่พูดไปตามความจริง ถ่ายทอดประสบการณ์ขายให้เสียวเสวี่ยเท่านั้นเอง”