คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1830

เจ้าศักดินาเคนนี่พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก พร้อมกับค่อย ๆ ยืนขึ้น “วันนี้พอแค่นี้” จากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องโถงไปอย่างช้า ๆ

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท” เหล่าขุนนางคุกเข่าลงเพื่อส่งเขาออกไป

เหล่าขุนนางต่างก็ลุกขึ้นและออกไปเช่นกันหลังจากเจ้าศักดินาเคนนี่ออกไปแล้ว

อย่างไรก็ตามสโลนไม่ได้เร่งรีบที่จะออกไปและยืนอยู่เช่นนั้นอย่างเป็นกังวล

เธอไม่อาจปล่อยให้มันเกิดขึ้นได้ เธอต้องช่วยชีวิตเพื่อนและครอบครัวของแดร์ริลให้ได้!

ทันใดนั้นเองสโลนก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในตอนที่เห็นฟลอเรียนกำลังออกไป

ตกดึกในคฤหาสน์หลังใหญ่ในย่านที่เจริญรุ่งเรืองของเมืองหลวงแห่งโลกใหม่

มีงานเลี้ยงกำลังจัดขึ้นที่สวนหลังบ้านโดยมีฟลอเรียนนั่งอยู่ตรงที่นั่งหลักและได้มีหญิงสาวอันเย้ายวนอยู่ในอ้อมแขนของเขา ทั้งคู่หยอกล้อหยอกล้อกันไปมา

นักร้องโสเภณีหญิงหลายคนต่างก็เต้นรำเพื่อทำให้พื้นที่บริเวณด้านหน้าพวกเขามีความผ่อนคลายลง

หากใครไม่รู้จริง พวกเขาอาจคิดว่าสถานที่นั้นเป็นซ่องโสเภณี

ฟลอเรียนมีชื่อเสียงในเรื่องการเกรงกลัวต่อภรรยา เดิมทีเขาไม่กล้าที่จะเตลิดเปิดเปิงและอิสรเสรีเท่าไหร่นัก แต่ทว่าเจ้าศักดินาเคนนี่สั่งให้เขาดูแลวันเตรียมการของสำหรับการตัดหัวในวันถัดไป ดังนั้นฟลอเรียนจึงได้อ้างกับยูมิโดยบอกว่าเขาจะยุ่งวุ่นวายอยู่กับการดูแลและรักษาความปลอดภัยของคุก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟลอเรียนนั้นมาหาความสุข

“ใต้เท้า”

องครักษ์คนหนึ่งรีบเดินเข้าไปหาในทันทีและพูดเสียงดังว่า “มีคนมาขอพบครับ”

ฟลอเรียนโกรธมากที่ถูกขัดจังหวะ พร้อมกับจ้องมองและด่าตะเพิดว่า “บ้าเอ๊ย นายไม่เห็นเหรอไงว่าฉันยุ่งอยู่? วันนี้ฉันจะไม่พบแขกหน้าไหนทั้งนั้น ออกไปซะ”

องครักษ์ตัวสั่นเทิ้มและเหงื่อแตกพลั่ก

“ฮิฮิ”

ในขณะนั้นเองเสียงหัวเราะเบา ๆ ที่มาจากข้างนอกดังขึ้นก่อนที่ผู้หญิงที่น่าดึงดูดใจคนหนึ่งจะเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีความเยาะเย้ยในขณะที่เธอมองไปที่ฟลอเรียน “ท่านดาร์บี้ คุณช่างเป็นคนมีอำนาจเสียจริง”

นั่นก็คือสโลน

อึก

ความโกรธของฟลอเรียนหายไปทันทีที่เห็นเธอ เขาแอบกลืนน้ำลายพร้อมกับจ้องมองไปที่รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอด้วยดวงตาที่แทบจะถลนออกมา

“อ่า นี่มันท่านแม่ทัพหญิงสโลนนี่เอง” ฟลอเรียนรู้สึกตัวในไม่กี่วินาทีต่อมาก่อนที่จะยิ้มและพูดว่า “ช่างเป็นแขกที่หาพบได้ยากจริง ๆ มาสิ มา นั่งลงก่อน”

แต่ทว่าสโลนกลับยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับเขยื้อนและทำเพียงแค่ชำเลืองมองนักร้องโสเภณีหญิงสองสามคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอ

ฟลอเรียนเข้าใจความหมายของเธอในทันทีก่อนที่จะโบกมือของเขา “ออกไปก่อน”

“ค่ะ ท่าน” นักร้องโสเภณีหญิงตอบแล้วออกไปอย่างช้า ๆ

ตอนนี้มีเพียงฟลอเรียนและสโลนที่ยังคงอยู่ในห้องโถง

ฟลอเรียนยิ้มและถามว่า “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน ไม่ทราบว่าผมจะสามารถช่วยอะไรให้คุณได้บ้างในเมื่อคุณอุตส่าห์ลำบากมาหาผมในยามดึกดื่นขนาดนี้?”

ตาของเขาไม่เคยละออกจากร่างของสโลนในตอนที่เขาพูดออกมาเช่นนั้น

งดงาม เธอช่างงดงามเสียจริง

ถึงแม้ว่าตอนนี้สโลนจะสวมชุดลำลองสีดำ แต่ก็ไม่สามารถซ่อนรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอได้ ผู้ชายคนไหนที่ได้เห็นเธอจะต้องหลงรักออร่าอันทรงพลังของเธอเป็นพิเศษ

ฟลอเรียนนั้นเลื่องลือในเรื่องของตัณหาและตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่

สีหน้าของสโลนไม่มีความแยแสและไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ในขณะที่เธอพูดนิ่ว ๆ ว่า “ฟลอเรียน พรุ่งนี้คุณจะต้องดูแลรับผิดชอบการประหารอาชญากรคนสำคัญ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบตั้งมากมาย แต่คุณกลับมาอยู่ที่นี่อย่างสนุกสนานแทนที่จะอยู่ในคุกเพื่อป้องกันไม่ให้ใครบุกรุกเข้าไป คุณไม่กลัวว่าฝ่าบาทจะทรงได้ยินเรื่องนี้และลงโทษคุณสำหรับความผิดที่ก่อหรอกเหรอ?”

“ฮ่าฮ่า…”

ฟลอเรียนรู้สึกตกตะลึงในตอนแรกที่ได้ยินเช่นนี้ ก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาทันทีอย่างอดไม่ได้ “ท่านแม่ทัพหญิงสโลน พวกเราต่างก็เป็นคนฉลาด คุณไม่ต้องเอาเรื่องนี้มาข่มขู่ผมหรอก”

จากนั้นฟลอเรียนก็หรี่ตาลงและยิ้มในขณะที่เขามองไปที่สโลน “ถ้าให้ผมเดาให้ถูกล่ะก็ คืนนี้คุณมาที่นี่เป็นเพราะว่าพวกพ้องของแดร์ริลใช่ไหม? นอกจากนี้ วันนี้ที่วังก็เป็นเพียงแผนชั่วคราวของคุณที่จะเอาไว้จัดการกับฝ่าบาทเพราะคุณไม่อยากที่จะทำงานให้กับพระองค์ใช่ไหมล่ะ?”

แววตาของฟลอเรียนเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมเมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบ

ฟลอเรียนฉลาดแกมโกงและมุ่งร้ายแถมยังอ่านภาษากายเก่งอีกด้วย ตลอดหลายปีที่ผ่านมาการเป็นขุนนางทำให้เขามีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เมื่อตอนกลางวันในพระราชวัง ฟลอเรียนรู้ได้ในทันทีว่าการที่สโลนภักดีต่อเจ้าศักดินาเคนนี่นั้นเป็นเรื่องหลอกลวง

ก่อนหน้านี้สโลนเป็นคนพาเขามายังโลกใหม่ ดังนั้นฟลอเรียนจึงรู้ได้อย่างชัดเจนถึงความภักดีของสโลนที่มีต่อจักรพรรดิแห่งโลกใหม่ เธอจะฝืนหลักการที่เธอมีแล้วทำงานให้กับเจ้าศักดินาเคนนี่ได้อย่างไรล่ะ?