ทั่วลานเงียบสงัด มีเพียงเสียงเยียบเย็นของหญิงลึกลับเท่านั้นที่ดังสะท้อนอยู่
พวกอริยะอย่างฟางหลิงซู่ อวี่หมิงสีหน้ายิ่งมืดมนมากขึ้นเรื่อยๆ ในใจรัดเกร็งและอับอาย
ในฐานะอริยะผู้สูงส่ง ไม่ได้ออกสู่โลกมาแสนนาน พอปรากฏตัวย่อมต้องดึงดูดความสนใจจากใต้หล้า นี่เดิมทีก็เป็นการเคลื่อนไหวที่ถูกคนทั้งโลกจับตามองอยู่แล้ว
ไหนเลยจะคิดว่าจะพลาดท่าตั้งแต่ก้าวแรก โดนโจมตีไม่พอ ยังตกต่ำถึงขั้นนี้ ความอัปยศเช่นนี้เกิดกับระดับอริยะอย่างพวกเขา ชื่อเสียงเกียรติยศทั้งชีวิตเกรงว่าคงป่นปี้ในคราวเดียว!
เมื่อแพร่ออกไป จากนี้คนทั้งโลกจะมองพวกเขาแบบไหนกัน
แค่ลองคิดดูก็พาให้พวกฟางหลิงซู่อัดอั้นจนแทบกระอักเลือด
“สหายยุทธ์ นี่เจ้าคิดจะให้สิ้นสุดกันเท่านี้หรือ”
อริยะอวี่หมิงถามเสียงเข้ม
“แน่อยู่แล้ว”
หญิงลึกลับตอบสบายๆ “แค่การต่อสู้ของคนรุ่นหลังเท่านั้น กลับถูกพวกเจ้าเอาความเป็นผู้ใหญ่มารังแกเด็ก ครั้งนี้ข้าย่อมใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟัน หาไม่คงคิดว่าเด็กคนนี้ไร้ที่พึ่งจริงๆ สามารถถูกพวกเจ้ากดขี่รังแกตามใจชอบไม่ใช่หรือ”
เมื่อประโยคนี้เอ่ยออกมา อริยะที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ ต่างตกตะลึงในใจ การแก้แค้นมาเยือนแล้วจริงๆ!
เมื่อก่อนไม่ว่าจะเป็นสำนักโบราณสำนักไหนต่างก็เห็นหลินสวินเป็นจอกแหนไร้ราก แม้ว่าเขาจะโดดเด่นมากความสามารถเหนือใคร แต่ก็ยังไม่มีสำนักโบราณที่ไหนเก็บเขามาใส่ใจอยู่ดี
แดนฐิติประจิมเป็นเช่นนี้
แดนชัยบูรพาก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน!
สังเกตได้จากสำนักโบราณที่ป่าวร้องว่าจะสังหารหลินสวิน ตอนที่ต่อสู้กับหลินสวิน มีสำนักไหนบ้างที่เก็บงำและกริ่งเกรง
ไม่มี!
สาเหตุเป็นเพราะอะไร
ก็เพราะคิดว่าเบื้องหลังหลินสวินไร้ที่พึ่งพิง คิดว่าเขาตัวคนเดียวทั้งยังไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง จะฆ่าแกงตามใจย่อมได้!
แต่ยามนี้พลังกร้าวแกร่งของหญิงลึกลับปรากฏชัด ออกหน้าให้หลินสวิน สำนักโบราณที่เคยเล่นงานหลินสวินพวกนั้นเกรงว่าคงจะนั่งไม่ติดกันแล้ว
“นี่เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับสำนักโบราณของพวกข้าจริงๆ หรือ ไม่คิดว่าการกระทำนี้เกินไปหน่อยหรือไร”
พวกฟางหลินซู่ต่างตกใจระคนเดือดดาล
“เกินไป? ถ้าอยากเกินไปจริงๆ ข้าคงล้างบางครั้งใหญ่ตั้งนานแล้ว มีหรือต้องไว้ชีวิตไร้ค่าของพวกเจ้าด้วย”
คำพูดหญิงลึกลับเยียบเย็นยิ่ง เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้เสียงของนางพลันเปี่ยมด้วยพลังน่าเกรงขามไร้รูป แผ่กว้างทั่วลาน
“นับแต่บัดนี้ ข้าจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนสำนักโบราณของพวกเจ้าทีละแห่ง สำนักไหนเคยล่วงเกินหลินสวิน ข้าก็จะไปที่นั่น ไม่ใช้ว่าใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกเด็กหรือ ข้าก็ทำเป็น!”
พริบตานี้เงาร่างนางโดดเด่น กลิ่นอายคลุ้งทะลวงเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน เสียงของนางเหมือนดั่งเสียงธรรมมหามรรค ก้องกระหึ่มทั่วสารทิศ แผ่กว้างไม่ขาดสาย
นี่กำลังประกาศก้องทั่วหล้า ออกหน้าแทนเทพมารหลินอยู่หรือ
ทุกคนล้วนตกใจยกใหญ่!
เห็นได้ชัดว่านับแต่วันนี้เป็นต้นไป เทพมารหลินไม่ใช่จอกแหนไร้รากอีกแล้ว เบื้องหลังเขายังมีหญิงสาวที่กร้าวแกร่งศักดิ์สิทธิ์คนหนึ่งหนุนอยู่ ใครกล้าลงมือกับเขาอีกคงต้องชั่งน้ำหนักผลที่ตามมาสักหน่อยแล้ว!
จุดเปลี่ยนนี้ย่อมพาให้ใต้หล้าฮือฮาอย่างแน่นอน
อย่างไรเสียก่อนหน้าหลินสวินยังถูกมองว่าเป็นผู้ฝึกปราณอิสระที่ไร้สำนักไร้พรรค ยืนโดดเดี่ยวบนโลก แม้จะเป็นที่สะดุดตา แต่คลื่นลมก็มีมาไม่ขาดสาย
แต่พริบตาเดียว เบื้องหลังเขาก็มีผู้ยิ่งใหญ่เทียมฟ้าโผล่ขึ้นมาหนึ่งคน!
ฉากหลังนี้ไม่เพียงขู่ขวัญผู้คน ยังสามารถทำให้สำนักโบราณล้วนนั่งไม่ติดแล้วชัดๆ!
ไกลออกไปภายในใจหลินสวินร้อนรุ่ม สะทกสะท้านอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่สิ่งที่มีมากกว่ากลับเป็นความซาบซึ้งใจ
นับตั้งแต่เข้าสู่ดินแดนรกร้างโบราณ เขาผ่านการเข่นฆ่านองเลือด ลิ้มรสอันตรายและความยากลำบาก แม้ทุกครั้งจะเปลี่ยนร้ายเป็นดีได้ แต่ก็มีช่วงเวลาที่ไร้ที่พึ่งและดาลเดือดอยู่เหมือนกัน!
ยามที่ถูกล่าสังหาร เขาทำได้แค่หนี!
ทุกครั้งที่หนีล้วนเจือความไม่ยินยอม เดือดดาลและอัปยศอดสู
ในสายผู้อื่นเขารอดมาได้หลายหน สำแดงอานุภาพยิ่งใหญ่ ท่วงท่าผงาดกร้าวพราวตาหาใดเปรียบ แต่สิ่งที่ต้องเสียไปเบื้องหลังนี้ ใครบ้างจะรู้
หากครอบครองพลังที่กร้าวแกร่งอย่างแท้จริง ใครเล่าจะเลือกหลบหนี
และใครยังจะกล้าไล่ล่าสังหารตนซ้ำแล้วซ้ำอีก
แต่ช่วยไม่ได้ ท้ายที่สุดหลินสวินก็หัวเดียวกระเทียมลีบ ในดินแดนรกร้างโบราณแห่งนี้ หากคิดจะผงาดง้ำก็ได้แต่เก็บงำอดทนเอาไว้ก่อน ทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้น เฝ้ารอการแก้แค้นกลับในสักวัน
รสชาติเช่นนี้ ถ้าหากไม่ได้เจอเองกับตัวคงไม่มีทางเข้าใจเด็ดขาด
และตอนนี้ หญิงลึกลับเคลื่อนขวาง ไม่เพียงช่วยเขาสลายวิกฤติเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ซ้ำยังออกหน้าแทนเขา ประกาศกร้าวทั่วหล้า เรื่องนี้จะไม่ให้หลินสวินรู้สึกซาบซึ้งได้อย่างไร
ระหว่างที่เงียบงัน หลินสวินกำหมัดแน่น ควบคุมสภาพอารมณ์ภายในจิตใจ
เขารู้ว่าหญิงลึกลับทำเช่นนี้ เป็นการปลดโซ่ตรวนที่ขวางทางเขา ทำให้เขาเข้าร่วมสงครามมหายุคได้อย่างยุติธรรมมากขึ้น คว้าโอกาสบรรลุขอบเขตมกุฎระดับราชันมาด้วยเหตุนี้!
‘ผู้อาวุโส ข้าจะไม่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง…’ หลินสวินพึมพำในใจ เวลานี้ใจมุ่งสู่มรรคเปลี่ยนเป็นมั่นคงไร้ใดเปรียบ
……
“เจ้า… เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”
ในขณะเดียวกันพวกฟางหลิงซู่ต่างหน้าเปลี่ยนสีกะทันหัน เกือบไม่เชื่อหูตัวเอง มุ่งหน้าเยี่ยมเยียนสำนักโบราณของพวกเขาทีละแห่งหรือ นี่เห็นได้ชัดว่ามาด้วยเจตนามุ่งร้ายชัดๆ!
“ได้ยินไม่ชัดหรือ”
หญิงลึกลับกล่าว “เช่นนั้นข้าจะพูดอีกรอบ ใช้วิธีผู้ใหญ่รังแกเด็ก!”
ทุกถ้อยคำล้วนทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน ภูผาธาราสั่นระริก
เสียงเพิ่งสิ้นสุด หญิงลึกลับไม่รีรออีกต่อไป โบกแขนเสื้อหนึ่งครา รุ้งวิเศษเจิดจ้าสายแล้วสายเล่าพุ่งยิงออกมา ก่อนแยกไปทางอริยะทั้งหก
ปึง!
ภายใต้สายตาจับจ้องอย่างหวาดหวั่นของทุกคน อริยะแห่งโลกหล้าอย่างฟางหลิงซู่ถึงกับกลายร่างเป็นแกะตัวหนึ่งในชั่วพริบตา!
“แบ้ๆ~!”
ฟางหลิงซู่ตะโกนลั่นอย่างโกรธระคนกลัว กลับได้แต่ส่งเสียงร้องของแกะ สี่เท้าเตะไปมา ปราณอริยมรรคทั้งตัวถึงกับถูกจองจำโดยสิ้นเชิง ไร้หนทางสำแดงออกมา
มองดูแล้วเป็นภาพที่น่าขันยิ่ง
แต่อริยะที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ ล้วนตกใจจนหนาวสั่นไปทั้งร่าง สวรรค์ นี่เป็นวิชาอะไรกัน ถึงกับสามารถเปลี่ยนอริยะเป็นสัตว์เดรัจฉานได้
แม้แต่หลินสวินก็ยังตะลึงค้าง แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง ความสามารถระดับนี้เรียกได้ว่าฉกชิงศุภโชคแห่งฟ้าดิน เปลี่ยนสิ่งเน่าเฟะให้กลายเป็นปาฏิหาริย์!
“ไม่…!”
อริยะอวี่หมิงเห็นเช่นนี้ก็ตกใจยกใหญ่ กลายร่างเป็นแกะตัวหนึ่งหรือ เขาไม่มีทางยอมรับได้เด็ดขาด ยอมตายเสียยังดีกว่าตกต่ำกลายเป็นเดรัจฉาน!
แต่ไม่รอให้เขาขัดขืน รุ้งวิเศษสายหนึ่งก็โฉบเข้ามาปิดครอบทั่วร่างเขาเอาไว้
ตามมาด้วยเสียงดังปึงหนึ่งครา เขาเองก็กลายร่างเป็นแกะตัวหนึ่ง ร้องแบะๆ ระงม สี่เท้าเต้นพล่าน ท่าทางเหมือนแกะคลั่งตัวหนึ่ง
อริยะที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ งงเป็นไก่ตาแตกโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้หญิงลึกลับเคยบอกว่านางมองพวกฟางหลิงซู่เป็นเดรัจฉาน
ไหนเลยจะคิดว่าคำพูดนี้ถึงกับเป็นจริงในตอนนี้เสียได้!
“เจ้ากล้า!”
อริยะเต้าคุนตาโปนแทบถลน ขัดขืนอย่างคลุ้มคลั่ง แต่ท้ายที่สุดก็เปลืองแรงเปล่า และถูกเสกกลายร่างเป็นแกะตัวหนึ่งตามมาติดๆ
อริยะเมี่ยวหวาที่อ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้น อริยะฝูหยาที่ถูกมัดบั้นเอว แต่ละคนล้วนกลายร่างเป็นแกะตามมาติดๆ
ที่น่าขันที่สุดเห็นจะเป็นอริยะเมี่ยวหวา
นางสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากอาการสลบไสล อ้าปากเตรียมจะร้อง กลับพบว่าเสียงที่ตนเปล่งออกมาเป็นเสียงร้องของแกะดังแบะๆ ก็ทรุดฮวบทันที ใช้หัวทิ่มพื้น อยากโขกหัวกับพื้นตายในคราวเดียว
ทว่าผลลัพธ์พาให้นางรู้สึกสิ้นหวังและไร้เรี่ยวแรง เขาแกะนั้นแข็งเกินไป พื้นดินถูกขุดจนเป็นหลุม แต่ร่างกายกลับปลอดภัยหายห่วง แม้แต่ฆ่าตัวตายก็ยังทำไม่ได้
ส่วนอริยะเซวี่ยถูที่ถูกตรึงกลางอากาศนั้นโชคดียิ่ง ไม่ได้ถูกเสกเป็นแกะด้วยซ้ำ
เขาถูกเสกกลับสู่ร่างเดิม กลายเป็นสุนัขสวรรค์มายาทมิฬตัวหนึ่ง แต่ร่างกายกลับมีขนาดเท่าหมาบ้านไม่มีผิด ยกเว้นเส้นขนดำสนิทนุ่มสลวย ก็ไม่ต่างอะไรกับหมาบ้านธรรมดาทั่วไป
จนบัดนี้ อริยะทั้งหกกลายร่างเป็นแกะไปห้าคน อีกคนถูกเสกกลับสู่ร่างเดิม กลายเป็นหมาดำตัวหนึ่ง ทอดมองจากไกลๆ เห็นได้ชัดว่าเหลือเชื่อพิสดาร
หากไม่เห็นกับตาตัวเอง เกรงว่าคงไม่มีใครกล้าเชื่อ ว่าแกะห้าหมาหนึ่งนี้จะเป็นอริยะหกคนที่เคยยืนกำแหงเหนือเมฆบนโลกหล้า
จนถึงตอนนี้อริยะที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดล้วนงุนงงกันหมด
ความสามารถเช่นนี้ เห็นก็ไม่เคยเห็น ได้ยินก็ไม่เคยได้ยิน เหนือจินตนาการของพวกเขาโดยสิ้นเชิง
จนพาให้สายตาที่พวกเขามองไปยังหญิงลึกลับคนนั้น ล้วนเจือแววหวาดผวาอย่างสุดพรรณนา!
“ฮ่า… ฮ่าๆๆ…” ท้ายที่สุดอาหลู่ก็กลั้นไม่อยู่ ระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หัวเราะจนท้องแข็งไปหมด
ก่อนหน้านี้เขามัวกังวลในความปลอดภัยของหลินสวิน เดือดดาลเหมือนวัวคลั่งมาโดยตลอด แต่พอได้ชมการต่อสู้ กลับพบว่าสถานการณ์เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่ นี่พาให้เขาชื่นมื่นยิ่งนัก ลอบทอดถอนใจกับตัวเองในทันที ไม่เสียแรงที่เป็นพี่ใหญ่ที่ข้ายอมรับ แม้แต่ที่พึ่งยังเผด็จการสะท้านโลกถึงเพียงนี้
จวบจนตอนนี้ยามได้เห็นภาพขบขันที่อริยะกลายร่างเป็นเดรัจฉาน ก็สำลักความสุขจนล้นในทันที
ผัวะ!
เพียงแต่ช่วงเวลาดีๆ ช่างแสนสั้น ศีรษะลอาหลู่ก็ถูกฝ่ามือหนึ่งตบฉาด นักพรตเฒ่ามอมแมมกัดฟันสื่อจิตกล่าวว่า ‘ไอ้เด็กแสบ เจ้าหัวเราะทำบ้าอะไร นี่ใช่ที่ที่เจ้าส่งเสียงหัวเราะได้หรือไง รีบหุบปากให้ข้าเดี๋ยวนี้ หากก่อเรื่องสร้างปัญหา ข้าไม่ตามเช็ดก้นให้เจ้าหรอกนะ!’
กล่าวพลางเขาทำหน้ายิ้มแหย หันไปประสานมือให้จากไกลๆ “เด็กรุ่นเยาว์เบาปัญญา ไม่รู้ความอัศจรรย์ของวิชา ‘ลักฟ้าแลกตะวัน’ ขอได้โปรดอย่าถือโทษเลย”
หญิงลึกลับเหลือบมองเขาปราดหนึ่ง กล่าวว่า “เจ้ารู้จักวิชานี้ด้วยหรือ”
นักพรตเฒ่ามอมแมมส่ายหน้าพัลวัน “ข้าแค่ได้ยินมา เคยได้ยิน แต่ไม่เคยเห็นจริงๆ จังๆ ถึงอย่างไรวิชาเทียมฟ้าระดับนี้ก็เป็นถึงเก้าต้องห้ามบรรพกาล… เอ้อ แฮะๆ ทั้งหมดนี้ข้าแค่เดาสุ่ม สหายยุทธ์อย่าหัวเราะเยาะ และอย่าเข้าใจผิดเด็ดขาดเชียว!”
แววตาเขาลุกโชน หัวเราะได้ปลอมยิ่ง มีลับลมคมในยิ่ง แม้แต่อาหลู่ยังดูออก เจ้าเฒ่าสารเลวคนนี้ท่าทางเหมือนรู้แต่กลับทำไม่รู้ เห็นชัดว่ากะล่อนยิ่งนัก
สิ่งที่พิลึกพิลั่นที่สุดคือความกะล่อนจอมปลอมของเขายังแสดงออกมาได้อย่างเปลือยเปล่าโล่งโจ้งนัก
“ข้าไม่เข้าใจผิดหรอก ทางที่ดีเจ้าก็อย่าทำให้ข้าเข้าใจผิดเป็นดีที่สุด”
เสียงหญิงลึกลับเยียบเย็น เจือพลังที่กดข่มหัวใจคน
“เช่นนี้ดีที่สุดแล้ว”
นักพรตเฒ่ามอมแมมตอบรับขมีขมัน
และเมื่อเป็นพยานเห็นภาพนี้ อริยะมากมายที่ชมการต่อสู้ในมุมมืดต่างรู้สึกเย็นวูบในหัวใจ ตระหนักได้ว่านักพรตเฒ่ามอมแมมคนนี้ เกรงว่าจะเป็นหนึ่งในพวกเหนือธรรมดาแน่นอนแล้ว
“หลินสวิน เจ้ามานี่”
หญิงลึกลับโบกมือน้อยๆ ทันใดนั้นเงาร่างหลินสวินก็เหมือนถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่ใกล้ๆ เบื้องหน้านาง
“ผู้อาวุโส”
หลินสวินค้อมกายคารวะ แม้จะอยู่ห่างกันแค่คืบแต่หลินสวินก็ยังไม่อาจมองเห็นลักษณะของนางได้ถนัดตาอยู่ดี
รอบกายนางรายล้อมด้วยรุ้งวิเศษใสวาวดั่งโซ่ศักดิ์สิทธิ์กฎระเบียบ สะอาดพิสุทธิ์แปลกแยก ไม่สามารถสอดส่องรูปโฉมของนางได้สักนิด
แต่ท่วงท่าสง่างามของนางกลับเรียกได้ว่าไร้ทัดเทียม!
ทั้งที่อยู่ใกล้กันนิดเดียวแท้ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้า ห่างไกลไม่อาจเอื้อมแก่หลินสวิน ก็เหมือนกับจันทร์กระจ่างสว่างพราวบนฟากฟ้า ได้แต่แหงนมอง แต่ไม่อาจเอื้อมสัมผัส
“ยินดีต้อนแกะกับข้าหรือไม่”
หญิงลึกลับเอ่ยถาม
ต้อนแกะ?
หลินสวินอึ้งงันก่อนเป็นสิ่งแรก จากนั้นก็ตระหนักทันที นี่มีหรือจะเป็นการต้อนแกะ เห็นชัดๆ ว่าจะต้อนอริยะต่างหาก!
“ยินดี” เขาตอบอย่างไม่ลังเลสักนิด ในใจกลับพลุ่งพล่านไม่สิ้น ทอดสายตาแลทั่วอดีตจนปัจจุบัน ใครกล้าเปลี่ยนเหล่าอริยะเป็นเดรัจฉาน แล้วไล่ต้อนบ้าง
วิธีการเช่นนี้ เรียกได้ว่าเทียมฟ้า!
ความกล้าหาญนี้ เพียงพอจะซัดสะเทือนกาลนิรันดร์!
และเหล่าอริยะที่ถูกเปลี่ยนร่างเป็นฝูงแกะกับหมาดำ หลังจากได้ยินประโยคนี้ต่างพากันตกใจจนร้องลั่นอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องแบะๆ กับเสียงหมาเห่าดังก้องกลางฟ้าดินไม่หยุด คล้ายติดโรคลมชักและพิษสุนัขบ้า
——