คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1834

แด๊กซ์และคนอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อเห็นสโลนมีความมุ่งมั่นเช่นนั้น

ไม่นานนักแด๊กซ์และครอบครัวคาร์เตอร์ก็มุ่งหน้ากลับไปยังจักรวาลโลกหลังจากกล่าวคำอำลากับเธอเสร็จ

สโลนไม่หยุดพักใด ๆ แต่รีบมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองหลวงในทันทีเมื่อท้องฟ้าสว่าง

เจ้าศักดินาเคนนี่รู้สึกโกรธอย่างมากที่นักโทษคนสำคัญเหล่านั้นหนีไปได้

ภายในห้องโถงเปี่ยมพลัง เจ้าศักดินาเคนนี่นั่งอยู่ที่ตรงนั้นด้วยท่าทางที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ขุนนางที่อยู่ด้านล่างของเขาต่างก็กำลังรู้สึกหวาดกลัว เพราะพวกเขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะหายใจออกมา

ฟลอเรียนคุกเข่าอยู่ตรงนั้นพร้อมกับเหงื่อที่แตกพลั่ก

“ฟลอเรียน”

เจ้าศักดินาเคนนี่จ้องไปที่ฟลอเรียน “เกิดอะไรขึ้น? คนใกล้ชิดแดร์ริลได้หนีไปหมดแล้ว นายจะแก้ตัวกับเรื่องนี้ยังไง?”

“ฝ่าบาท” หน้าผากของฟลอเรียนโชกไปด้วยเหงื่อที่เย็นเฉียบพร้อมกับพูดอกมาอย่างหวาดกลัวว่า “กระหม่อมก็ไม่รู้เหมือนกันพะยะค่ะ มีคนขโมยป้ายสัญลักษณ์ผู้บังคับบัญชาการทหารของกระหม่อมไปและแอบปล่อยนักโทษหนีไป กระหม่อมยังคงสืบหาเรื่องนี้อยู่พะยะค่ะ”

ฟลอเรียนรู้สึกขมขื่นในใจเมื่อเขาพูดออกมาเช่นนั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าเขาจะสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อเลื่อนตำแหน่งได้ แต่ไม่คิดว่านักโทษถูกช่วยออกไปเพียงข้ามคืน

สโลนที่สวมชุดเกราะอ่อนได้เดินเข้ามาในขณะที่พวกเขากำลังพูดอยู่

ดวงตาของฟลอเรียนเป็นประกายเมื่อเห็นสโลนและพูดเสียงดังว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับสโลนอย่างแน่นอนพะยะค่ะ เธอมาหากระหม่อมเมื่อคืนและอ้อนวอนให้กระหม่อมปล่อยพวกเขาไป เธอเอาป้ายสัญลักษณ์ผู้บังคับบัญชาการทหารของกระหม่อมไปแน่ ๆ กรุณาตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยพะยะค่ะ”

จากนั้นฟลอเรียนก็มองเขม็งไปที่สโลนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้นและความขุ่นเคือง

มีเพียงสโลนเท่านั้นที่มาหาเขาตั้งแต่เมื่อคืนก่อนจนกระทั่งถึงตอนนี้ เธอต้องขโมยป้ายสัญลักษณ์ของเขาไปแน่ ๆ

ฟึ่บบ!

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่สโลนเมื่อได้ยินคำพูดของเขา

“ใต้เท้าสโลน” เจ้าศักดินาเคนนี่ขมวดคิ้วอย่างแรงพร้อมกับมองไปที่สโลนและพูดเสียงต่ำว่า “สิ่งที่ฟลอเรียนพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?”

“โอ้!”

สโลนไม่กังวลกับการจ้องมองของฝูงชนแต่อย่างใด เธอถอนหายใจเบา ๆ ในตอนที่มองไปที่เจ้าศักดินาเคนนี่และพูดเบา ๆ ว่า “ฝ่าบาท ท่านดาร์บี้กำลังพูดจาไร้สาระเพคะ เมื่อคืนหม่อมฉันเข้านอนเร็ว แล้วหม่อมฉันจะไปเยี่ยมเยียนหน่วยควบคุมได้อย่างไรกัน?”

จากนั้นฟลอเรียนก็ตะโกนอย่างร้อนรน “คุณกำลังโกหก! เมื่อคืนคุณไปหาผมและไปเพื่ออ้อนวอนให้กับคนของแดร์ริลโดยเฉพาะเลย คุณบอกว่าให้ปล่อยพวกเขาไปเพราะพวกเรามาจากจักรวาลโลกเหมือนกัน”

ดวงตาของฟลอเรียนแดงก่ำมากเมื่อเขาพูดประโยคสุดท้ายจบและเกือบจะเป็นการตะโกนออกมา

สโลนไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เธอยิ้มและพูดว่า “คุณบอกว่าฉันไปหาคุณเมื่อคืนนี้ คุณมีหลักฐานไหม?”

เอ่อ…

ฟลอเรียนตัวสั่นเทิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้นและเปิดปากของเขาขึ้นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เมื่อคืนเขาปล่อยให้องครักษ์ของเขากลับไปก่อนในขณะที่เขากำลังดื่มและเสพสุข ถ้าจะมีพยานก็จะมีแต่นักร้องโสเภณีหญิงเท่านั้น

แต่ทว่าเขาจะให้นักร้องโสเภณีหญิงมาที่พระราชวังได้อย่างไร? นอกจากนี้เขาไม่อาจบอกให้เจ้าศักดินาเคนนี่รู้เรื่องที่เขาสนุกสนานกับนักร้องโสเภณีหญิงได้

“ท่านดาร์บี้”

เธอค่อย ๆ พูดอย่างนุ่มนวลเมื่อเห็นใบหน้าที่รู้สึกขัดแย้งกันอยู่และจนกลายเป็นพูดไม่ออกของฟลอเรียนว่า “ให้ฉันอธิบาย ถ้าคุณไม่มีหลักฐาน”

จากนั้นสโลนก็บอกเจ้าศักดินาเคนนี่ว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องจะกราบทูลเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่าท่านดาร์บี้รวบรวมนักร้องโสเภณีหญิงมาที่หน่วยควบคุมและดื่มกันอย่างสนุกสนานที่นั่น หม่อมฉันคิดว่าเขาจะต้องสนุกมากจนเกินไปและทำป้ายสัญลักษณ์ของตัวเองหาย ดังนั้นเขาเลยหาข้ออ้างมาโทษหม่อมฉันเพคะ”

สีหน้าของฟลอเรียนเปลี่ยนไปและจ้องเขม็งไปที่สโลนก่อนจะเปิดปากอธิบายทันที “ฝ่าบาท เรื่องนั้นไม่จริง…”

‘นังสารเลวนี่กล้าดียังไงมามีเรื่องกับฉัน’

‘โอ้?’

เจ้าศักดินาเคนนี่ขมวดคิ้วและถามสโลนว่า “เมื่อคืนเจ้าบอกว่าฟลอเรียนสนุกสนานและละเลยหน้าที่ของเขา จนปล่อยให้นักโทษหนีไปได้ เจ้ามีหลักฐานไหมล่ะ?”

เจ้าศักดินาเคนนี่มีความยุติธรรมและเที่ยงตรง คำพูดของฟลอเรียนไม่มีข้อพิสูจน์ ดังนั้นสโลนจึงต้องพิสูจน์คำพูดของเธอด้วยการแสดงหลักฐานข้อกล่าวหาของเธอเช่นกัน

“มีเพคะ!” สโลนไม่ได้ครุ่นคิดใด ๆ พร้อมกับพยักหน้าก่อนที่จะปรบมือหนึ่งที แล้วราชองครักษ์สองคนพาเด็กสาวสองสามคนเข้ามาในพระราชวังโดยทันที

พวกนางคือนักร้องโสเภณีหญิงที่ฟลอเรียนเรียกมาเมื่อคืนนี้

สโลนมายังราชสำนักช้าจริง ๆ เพราะเธอต้องปล่อยแด๊กซ์และคนอื่น ๆ ให้หนีไป พร้อมทั้งยังต้องตามหานักร้องโสเภณีหญิงที่อยู่ที่หน่วยควบคุมเมื่อคืนนี้

เธอรู้อยู่แล้วในตอนที่เธอปล่อยแด๊กซ์และคนอื่น ๆ หนีไปว่าฟลอเรียนจะต้องสงสัยเธอและไปบอกกับเจ้าศักดินาเคนนี่ แทนที่จะนั่งเป็นเป็ดง่อยเธอเองก็ควรจะต้องจู่โจมก่อนเช่นกัน