ตอนที่ 1092 เธอมีอะไรให้โดนข่มขู่ + ตอนที่ 1093 สมน้ำหน้า โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1092 เธอมีอะไรให้โดนข่มขู่
คุณหมอกับพยาบาลต่างคว้าตัวคุณแม่เจียงที่อารมณ์โกรธพุ่งทะลุเพดาน หลิวฟางเองก็ไม่ตอบโต้เพียงแค่นั่งร้องไห้ไม่หยุด ชีวิตของเธอถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้คุณน้าเล็กที่เอ็นดูเธอที่สุดคงเกลียดเธอเข้าไส้ เธอจะมีชีวิตต่อเพื่ออะไรอีก?
“คุณน้า น้าเขย…ความผิดของหนูเอง…ความผิดของหนู…ตีหนูให้ตายไปเลยเถอะ…”
หลิวฟางปิดหน้าร้องไห้โฮ ดูออกว่าเธอรู้สึกผิดจริง ๆ น้ำตาของเธอก็เป็นของจริง แต่แล้วอย่างไรล่ะ?
หากมีครั้งต่อไปเชื่อว่าหลิวฟางคงเลือกทางเดิมเพราะเธอมีความคิดชั่วร้ายอยู่ภายในใจ
นั่นเป็นเพราะเธอที่มีความอิจฉาเจียงซินเหมย
ไม่อย่างนั้นจะอธิบายสถานการณ์ที่เธอได้ถูกข่มขืนไปแล้วแต่ยังหลอกเจียงซินเหมยไปที่คลับสโมสรอย่างไร?
หลิวฟางร้องไห้อยู่ครู่หนึ่งแล้วจู่ ๆ เธอก็ผุดลุกขึ้นวิ่งไปตรงกำแพง พูดเสียงดัง “หนูไม่มีหน้าจะมีชีวิตต่อแล้ว….ให้หนูไปตายเถอะ…”
พ่อแม่เจียงซินเหมยสะดุ้งเฮือกรีบกระชากตัวหลิวฟางไว้โดยอัตโนมัติและพวกเขาก็คว้าตัวไว้สำเร็จ คุณพ่อเจียงกอดหลิวฟางที่ตะเกียกตะกายไม่หยุดไว้แนบแน่นไม่ยอมปล่อยมือด้วยความกลัวว่าหญิงสาวผู้นี้จะคิดสั้น
ความโกรธบนใบหน้าของคุณแม่เจียงจางลงมาก อย่างไรเสียก็หลานสาวคนหนึ่งอีกทั้งตอนนี้หลิวฟางยังย่ำแย่ขนาดนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือเจียงซินเหมยไม่ได้ถูกทำร้ายจริง ๆ นี่ต่างหากเหตุผลสำคัญที่เธอสามารถยกโทษให้หลิวฟางได้
คุณพ่อเจียงเองก็มีความคิดเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ยอมออกมือช่วยชีวิตหลิวฟางไว้
เหมยเหมยส่ายศีรษะ หลอกง่ายเสียจริง!
“ขอโทษค่ะ…ฮือ…ขอโทษ…หนูไม่คิดจะทำร้ายซินซิน…หนูไม่ได้ตั้งใจ…พวกเขาข่มขู่หนู…” หลิวฟางพูดเสียงพึมพำด้วยใบหน้าขาวซีดร่างสั่นเทาพร้อมจะร่วงได้เสมอ ท่าทางน่าสงสารจับใจ
พ่อแม่เจียงซินเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง กำลังจะอ้าปากเหมยเหมยเดินมาถามเสียงเย็นชา “พวกเขาขู่เธอยังไง? จะฆ่าเธอเหรอ?”
หลิวฟางสะดุ้งเฮือกใจหล่นวูบไม่กล้าสบตาเหมยเหมย
ก่อนหน้านี้ในห้องนั้นเธอเห็นทุกอย่าง จ้าวเหมยไม่ใช่คนดีอะไรเกรงว่าจะกล้าฆ่าคนด้วยซ้ำไป โลกของคนชนชั้นสูงเหล่านั้น ชาวบ้านธรรมดาอย่างเธอต่อให้ได้มุดหัวเข้าไปข้างในเกรงว่าจะเป็นเพียงแค่ของเล่นก็เท่านั้น
“พวกเขา…พวกเขาบอกว่าจะถ่ายรูปเปลือยของฉัน…แล้วจะขายฉันไปในที่ที่สกปรก…” หลิงฟางพูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ
คุณหมอและพยาบาลข้าง ๆ ต่างเผยสีหน้าไม่พอใจแล้วมองหลิวฟางอย่างเห็นใจ ผู้หญิงคนนี้น่าสงสารจริง ๆ !
เหมยเหมยแค่นหัวเราะทีหนึ่ง “หลิวฟางเธอคิดว่าฉันโง่เหรอ? จะให้ฉันไปเรียกคนพวกนั้นมาซักถามพร้อมกับเธอมั้ย?”
หลิวฟางตัวสั่นระริกเริ่มใจเสีย แต่ยังตอบกลับแน่วแน่ “ฉันไม่ได้โกหก…พวกเขาขู่ฉันแบบนี้”
เหมยเหมยแค่นหัวเราะอีกที แม้คุณชายลูกเศรษฐีพวกนั้นไม่ใช่คนดีแต่อย่างมากพวกเขาก็แค่หลอกล่อเพื่อข่มขืนผู้หญิงแค่นั้นล่ะ ไม่ได้มีความกล้าจะถ่ายรูปเปลือยแล้วจับไปขายซ่อง ไม่อย่างนั้นเจียงซินเหมยคงไม่ทนมาจนถึงตอนนี้ได้ นั่นก็เพราะคุณชายพวกนั้นกลัวเธอจะเป็นอันตรายจนถึงชีวิต
โอหยางสยงกลับมีความกล้านี้แต่ปัญหาคือโอหยางสยงเพิ่งมาเมืองจินครั้งแรก คืนนี้เขาเป็นเพียงแขกคนหนึ่ง เขาจะกล้าออกหน้าข่มขู่หลิวฟางได้อย่างไร?
เพียงเพื่อผู้หญิงที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนน่ะหรือ?
หากโอหยางสยงเป็นคนโง่เขลา เฮ่อเหลียนเช่อคงไม่มีทางเรียกใช้งานเขาหรอก
เหมยเหมยไม่อยากฟังหลิวฟางพูดไร้สาระต่อ เธอกล่าวเสียงเย็นชา “หลิวฟางเธอนี่มันไม่รู้จักแก้ไขเลยจริง ๆ อย่างแรก ตอนที่เธอโทรหาซินเหมยเธอโดนพวกเขารุมโทรมไปแล้ว ฉะนั้นความจริงเธอไม่มีอะไรที่จะเป็นข้ออ้างไว้ให้พวกเขาข่มขู่อีก…”
หลิวฟางหน้าซีดทันที ตัวสั่นสะท้านเอามือปิดหน้าด้วยความเจ็บปวด
…………………..
ตอนที่ 1093 สมน้ำหน้า
เหมยเหมยพูดต่อ “หมายความว่าในสถานการณ์แบบนั้นเธอจะโทรหาซินเหมยหรือไม่ก็มีผลเหมือนเดิม คนพวกนั้นนอกจากจะไม่ฆ่าเธอแล้วก็ไม่มีทางถ่ายรูปเปลือยของเธอ ยิ่งไม่มีทางเอาเธอไปขายที่ซ่องเป็นโสเภณี ฉะนั้น…”
เธอเว้นช่วงจังหวะพูดเล็กน้อยพลางมองหลิวฟางที่ก้มหน้าร้องไห้ด้วยสายตาหยามเหยียดก่อนหันไปมองพ่อแม่เจียงซินเหมยที่กำลังทำหน้าประหม่า รวมถึงคุณหมอและพยาบาลข้าง ๆ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา
“หลิวฟางเหตุผลที่เธอเลือกที่จะโทรล้วนเป็นเพราะความอิจฉาของเธอ เพราะเธอถูกรุมโทรม เธอเลยอยากให้ซินเหมยเจอเหตุการณ์เดียวกับเธอ ดังนั้นโทรศัพท์สายนั้นเธอไม่ได้โทรเพราะโดนขู่ แต่มาจากความเห็นแก่ตัวของเธอล้วน ๆ ”
“ไม่ใช่นะ…ไม่ใช่อย่างนั้น…เธอพูดมั่ว…”
หลิวฟางที่โดนเปิดโปงความคิดใบหน้าก็ถอดสี เธอไม่กล้าเงยหน้าแค่เอามือปิดหน้าร้องไห้โฮด้วยอารมณ์เสียใจ
“หลิวฟางเธอนี่มันโง่บรมเลย เธอคิดว่าไม่ยอมรับก็แปลว่าไม่เคยเกิดขึ้นงั้นเหรอ? คนพวกนั้นสารภาพมาหมดแล้ว” เหมยเหมยจงใจพูดกระตุ้นเธอ เรียกให้หลิวฟางสีหน้าเปลี่ยนไปริมฝีปากสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
“ไม่…ไม่ใช่อย่างนั้น…คุณน้าฟังหนูพูดนะ…หนูไม่ได้คิดจะทำร้ายซินซิน…หนูไม่เคยคิด…”
ปีหน้าเธอจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ค่าเล่าเรียนกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันล้วนต้องได้จากคุณน้าเล็ก อย่าคิดจะหวังพึ่งแม่ของตัวเอง เธอจะเสียคนคอยหนุนอย่างคุณน้าเล็กไปไม่ได้!
เหมยเหมยคอยมองพ่อแม่เจียงซินเหมยที่ทำหน้าลังเล ช่างเป็นคนดีอะไรเช่นนี้ เสียดายกลับเลี้ยงหมาป่าเนรคุณตัวหนึ่งไว้
ช่างเถอะ ให้เธอรับบทคนชั่วร้ายนี้แล้วกัน!
“หลิวฟาง เธอน่าจะกังวลที่ปีหน้าจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วไม่มีคนออกค่าเล่าเรียนให้สินะ? อีกด้านก็ใช้เงินคุณน้าเล็กของเธอแต่ในขณะที่อีกด้านก็จะทำร้ายลูกสาวของพวกเขา เธอไม่รู้สึกว่าตัวเองไร้ยางอายเกินไปเหรอ?”
เหมยเหมยพูดจบไม่มองหน้าหลิวฟางอีก เธอพูดมาถึงขนาดนี้แล้วหากพ่อแม่เจียงซินเหมยยังสามารถยกโทษให้หลิวฟางได้ เช่นนั้นเธอก็หมดปัญญาแล้วล่ะ!
เสียงใสดังกึกก้อง คุณแม่เจียงตบหน้าหลิวฟางอีกฉาดหนึ่งพลางด่าด้วยความเจ็บปวดใจ “คนเนรคุณ…นับตั้งแต่นี้ไปเราตัดขาดกัน อย่าให้ฉันเห็นหน้าเธออีก!”
เหมยเหมยฉีกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ยังดียังดี ไม่ได้ใจดีถึงขั้นเลวร้าย
วันต่อมาเจียงซินเหมยไม่ได้มาเรียนเหมยเหมยเลยช่วยลาป่วยให้เธอเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ แล้วคอยจดการบ้านไปส่งให้ถึงบ้านเธอพร้อมกับอู่เชาทุกวัน พ่อแม่เจียงซินเหมยต้อนรับเหมยเหมยเป็นอย่างดี หากไม่ใช่เพราะมีความต่างกันในเรื่องลำดับอาวุโสกลัวก็แต่จะยกเหมยเหมยไว้ขึ้นหิ้ง
“พ่อแม่เธออบอุ่นจัง เหมือนกองไฟ ฉันแทบรับมือไม่ไหวแล้ว!”
เหมยเหมยถูแขนไปมาเพราะรู้สึกขนลุก สองสามีภรรยาคู่นี้มีต่อมความรู้สึกที่มากล้นเกินไป
“เหมยเหมย ขอบคุณนะ ถ้าไม่ใช่เธอ เกรงว่าฉันคง…”
เจียงซินเหมยขอบตาแดงระเรื่อพลางสูดจมูก
“เราเพื่อนกันไม่ใช่หรือไงจะขอบคุณทำไม คราวหลังเธออย่าใจดีซี้ซั้วอีกล่ะ” เหมยเหมยเอ่ยเตือน
เจียงซินเหมยพูดเสียงแค้น “ไม่อีกแล้ว ฉันกับหลิวฟางคือศัตรูกัน”
อู่เชาคอยฟังอยู่เลยทำหน้างุนงงรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น “พวกเธอไปแอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังฉันมาหรือเปล่า?”
“เปล่า แค่ไปสั่งสอนคนชั้นต่ำไม่กี่คนมาเท่านั้นเอง” เหมยเหมยพูดเสียงเรียบ ไม่ใช่เรื่องน่าอวดอะไรอย่าให้อู่เชารู้เลย
อู่เชากลับพึมพำเอง “จะว่าไปก็แปลก เมื่อคืนเหมือนจะเกิดเรื่องกับอู่เยวี่ยด้วย สถานีตำรวจโทรหาอาสอง อาสองไม่อยู่เมืองจินเลยโทรหาพ่อฉัน เมื่อคืนฉันไปค้างกับพ่อฉัน พ่อฉันเลยต้องไปที่สถานีตำรวจกลางดึก กลับมาสีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่และไม่บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น”
เหมยเหมยกับเจียงซินเหมยพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน “สมน้ำหน้า!”
……………………