ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1025 คุณแสงดาว คุณอย่าร้องไห้……
เสียดแทงจริงๆ!
แสงดาวโยนโทรศัพท์ทิ้งไป เริ่มเก็บของของตัวเองจากตู้เล็กๆด้านข้าง
หลังจากนั้นสิบกว่านาที เธอออกมาจากห้องพักผู้ป่วย ออกจากโรงพยาบาลไปเหมือนกับร่างไร้วิญญาณ เดินเซไปเซมาออกมายังถนนด้านนอกที่มีผู้คนพลุกพล่าน
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!!”
ทันใดนั้น ด้านหน้ามีเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอได้ยินแล้ว เงยหน้าขึ้นมาตามสัญชาตญาณ
กลับพบว่า ในขณะที่เธอเดินมาถึงถนนสายนี้ ด้านหน้ามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ทั้งร่างเต็มไปด้วยเลือดวิ่งตรงมาทางนี้อย่างเซไปเซมา ด้านหลัง มีคนกลุ่มหนึ่งที่อาวุธพร้อมมือ พวกเขามองมาอย่างโหดเหี้ยมเพื่อจะฆ่าเธอ ภาพนี้ช่างน่ากลัว ทำให้คนที่ผ่านไปผ่านมาที่ได้เห็นแล้ว ต่างหวาดกลัวขึ้นมาอย่างมากรีบหลบหลีกไปอีกทาง
ในที่สุดแสงดาวก็ได้สติขึ้นมาแล้ว
ทันใดนั้น หลังจากใบหน้าของเธอซีดขาวลง ก็รีบหลบไปที่ด้านข้างแล้ว
แต่ว่า ผู้หญิงคนนั้นยังคงวิ่งมาหาเธอที่นี่ หลังจากนั้นทันใดนั้นก็ “ตึง”ล้มลงที่ด้านหน้าของเธอแล้ว
“อ๊าก——”
ทันใดนั้น เธอนั่งลงบนพื้นร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวังแล้ว
นัยน์ตาของแสงดาวหรี่ลง
เธอไม่มีความสามารถขนาดนั้น ในสถานการณ์แบบนี้ ยังจะไปช่วยคนเอาไว้
ตามสัญชาตญาณแสงดาวยิ่งหดตัวเข้าไปข้างในแล้ว แต่เวลานี้ ผู้หญิงคนนี้กลับเงยหน้าขึ้นมาแล้ว หลังจากนั้น เธอมองเห็นเธอแล้ว!
“คุณแสงดาว คุณแสงดาวช่วยฉันด้วย คุณแสงดาว——”เธอมองออกแล้วว่าเป็นเธอ เธอยื่นมือทั้งสองข้างออกมาคลานเข้ามาหาเธอ ให้เธอช่วยชีวิตเธอ
แสงดาวนิ่งอึ้งไปทันใดอีกครั้ง!
ขวัญเมือง ผู้หญิงคนนี้ กลับเป็นขวัญเมือง!!
“เธออยู่ที่นั่น เร็ว เธอฆ่าผู้หญิงของพี่ใหญ่ รีบไปฆ่าเธอซะ!”
กลุ่มคนเหล่านั้นได้เห็นฉากนี้แล้ว ทันใดนั้น พวกเขาก็ตะโกนพุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาล ยกมีดที่อยู่ในมือขึ้นมาแล้วฟันลงไปที่ผู้หญิงคนนี้อย่างรุนแรง
“อ๊าก——”
เสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาดังขึ้นมาจนทำให้คนขนหัวลุก
ผู้หญิงคนนี้ ภายใต้สถานที่สาธารณะแบบนี้ กลับถูกกลุ่มคนเหล่านี้ตัดขาทั้งอันออกไปแล้ว
แสงดาวเบิกตากว้างอ้าปากค้าง!
กว่าจะได้สติขึ้นมา เธอเอามือทาบอกตัวเองเอาไว้อยู่ที่นั่นพะอืดพะอมออกมาอย่างรุนแรงอย่างกะทันหัน
นี่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงแล้ว!
ขวัญเมืองได้สลบไปแล้ว
กลุ่มคนเหล่านั้นได้เห็นแล้ว มีคนหนึ่งมาหยิบเอาขาข้างหนึ่งที่ถูกตัดทิ้งไป ส่วนอีกคนหนึ่งดึงผมของเธอเอาไว้ เตรียมที่จะลากออกไปแบบนี้
แสงดาว:“……”
อดกลั้นความคลื่นไส้เอาไว้ เธอกำลังคิดจะแจ้งตำรวจ?
เวลานี้ คนสวมชุดสีเขียวขี้ม้าคนหนึ่งขับรถจี๊ปเข้ามาอย่างกะทันหันแล้ว
“พวกแกกำลังทำอะไร? ปล่อยคนไปเดี๋ยวนี้!”
นั่นเป็นผู้ชายที่สวมชุดสีเขียวขี้ม้าลายทหารคนหนึ่ง เขาลงมาจากรถ หลังจากได้เห็นฉากนี้แล้ว ทันใดหยิบปืนออกมา เล็งไปที่กลุ่มคนเหล่านั้นแล้วตะโกนออกมาเสียงดังหนึ่งประโยค
ทหารคนนั้น?
กลุ่มคนเหล่านี้ค่อนข้างฉลาดรู้จักสังเกตการณ์ แวบเดียวก็มองออกแล้วว่าคนคนนี้ไม่ได้เป็นตำรวจของที่นี่ ทว่าเป็นทหารพวกเขายิ่งเกรงกลัว
ทันใดนั้น พวกเขาไม่กล้าสู้ต่อแล้ว ขว้างขาอันนั้นทิ้งไปรวมทั้งขวัญเมือง พวกเขาวิ่งหนีทันที
ทหารคนนี้พึ่งจะเข้ามา
เขานั่งยองๆลงที่ด้านหน้าของหญิงสาวคนนี้ ปัดคราบเลือดและความยุ่งเหยิงบนใบหน้าของเธอ แวบเดียวก็มองเห็นหน้าตาของเธอ เขาร้องออกมาอย่างตกใจ:“คุณขวัญ? คุณนี่เอง?”
แสงดาว:“……”
——
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เมื่อวาริชรีบร้อนกลับมาที่โรงพยาบาล สิ่งที่เขามองเห็น แสงดาวกำลังนั่งนิ่งอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด
ยังมี คนคนหนึ่งที่สวมชุดที่สีเขียวขี้ม้ากำลังสูบบุหรี่อยู่ตรงทางเดินสีหน้าเคร่งเครียด
“คุณแสงดาว ทำไมคุณต้องโกหกผมว่าไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้? ถ้าคุณไม่โกหก ผมอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ คุณขวัญก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว!”
“แล้วก็ คุณแสงดาว ทำไมตอนที่คุณขวัญขอร้องขอความช่วยเหลือ? คุณไม่แม้แต่จะยื่นมือออกไปช่วย? คุณเก่งกาจมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมทั้งที่เห็นว่าเธอกำลังจะตายยังไม่ช่วยเหลือ?”
คนคนนี้ไม่ได้ไว้หน้าเธอสักนิด ด่าทอแสงดาวอยู่อย่างนั้น
แสงดาวไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร ตั้งแต่แรกจนจบเธอไม่ได้พูดอะไรออกมา
กลับกันวาริชที่ได้เข้ามาเห็นพอดี ระเบิดความโมโหออกมา!
“คุณเป็นใครกัน? คุณมีสิทธิ์อะไรมาตำหนิเธอ? ผู้หญิงคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเหรอ? ทำไมเธอต้องช่วยเหลือเธอ? เธอมีความรับผิดชอบอะไรที่จะต้องไปช่วยชีวิตเธอ?”
“คุณ——”
ทหารคนนี้ถูกตอกกลับมาแบบนี้ ในที่สุดก็ไม่มีอะไรจะพูดออกมาแล้ว
วาริชเข้ามาที่ด้านข้างของแสงดาว เขามองเห็นใบหน้าของเธอไม่มีแม้แต่สีเลือด ยังมีมือที่ยังวางอยู่บนหน้าอกไม่ปล่อยวางลง
เขาไม่พูดอะไร นำเอานมสดกับขนมปังที่ซื้อมาให้เธอก่อน
“คุณแสงดาว พวกเราไม่ต้องสนใจหรอก คุณทานอะไรสักหน่อย เดี๋ยวจะหิวแย่”
“……”
ประโยคนี้ประโยคเดียว แสงดาวที่นั่งอยู่ที่นี่มาหนึ่งชั่วโมงอย่างกับไม้แกะสลัก ในที่สุด ขอบตาของเธอแดงแล้ว มองต่ำลง น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลกลิ้งลงมาแล้ว
ทหารคนนั้นที่อยู่ไม่ไกลได้เห็นแล้ว ในทันใดยิ้มเยาะออกมาอย่างเหยียดหยาม
วาริช:“……”
กำลังจะไปหาเรื่องเขา ทันใดนั้น แสงดาวกลับดึงเขาเอาไว้
“ไม่เป็นไร”
ในที่สุดเธอยอมเปิดปากแล้ว น้ำเสียงแหบเล็กน้อย
หลังจากนั้น เธอหยิบขนมปังกับนมที่อยู่ในมือ คำใหญ่ๆทานเข้าไปแล้ว
ใช่แล้ว ไม่เป็นไร มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอจะล้มลงจริงๆงั้นเหรอ? นั่นไม่มีทางหรอก เธอแสงดาวไม่มีทางพ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดาย
แสงดาวใช้เวลากว่าสิบนาที ถึงได้ทานขนมปังอันนี้หมดลง
หลังจากนั้นยี่สิบนาที ด้านในห้องผ่าตัดก็มีคุณหมอออกมาแล้ว ทว่าในขณะเดียวกัน ตรงทางเดินของโรงพยาบาล ร่างกายสูงใหญ่ที่คุ้นเคย ก็ปรากฏตัวขึ้นอยู่ที่นั่น