อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1237 เมืองว่านจี

กู้ชูหน่วนจับตัวเสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์ขึ้นมา ยิ้มหวานเหมือนกระต่ายน้อยใสซื่อ แต่เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์กลับรู้สึกขนลุกซู่

“นาย……นายหญิง ท่านคิดจะทำอะไรกัน คง……คงไม่ได้คิดจะย่างเสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์นะ”

“เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์น่ารักขนาดนี้ ข้าจะอดใจย่างเจ้าได้อย่างไร”

“ข้าก็ว่า นายหญิงจะอดใจย่างข้ากินได้อย่างไร แต่ว่า……นายหญิง รอยยิ้มของท่านมัน……มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน ท่านหุบยิ้มได้หรือไม่?”

“เจ้าบอกข้ามา ด้านนอกเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”

“อ๋องเสวี่ยกบฏแล้ว ทหารกบฏมากมายต่างก็อยู่ฝ่ายเดียวกันกับอ๋องเสวี่ย และยังมีการเข้าร่วมของอ๋องฟานด้วย ตอนนี้กองทัพใหญ่ขึ้น ปกครองได้หลายเมืองแล้ว ตอนนี้ต่อสู้มาจนถึงเมืองว่านจีแล้ว”

“เมืองว่านจี? เร็วขนาดนั้นเชียว?”

เมืองว่านจีเป็นเมืองสำคัญของแคว้นน้ำแข็ง ถ้าครอบครองได้ ก็สามารถปักหลักอยู่ที่นั่นได้ และเข้ายึดครองเมืองหลวงได้ง่ายขึ้น

“นั่นเป็นเพราะนายหญิงฉลาด ถ้าไม่มีแผนการของนายหญิง อ๋องเสวี่ยฉินจะรวบรวมกำลังคนในระยะเวลาสั้นๆได้อย่างไร และยังฟาดฟันคนเข้ามาถึงเมืองว่านจีได้”

เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา ส่ายไปหน้าตรงหน้ากู้ชูหน่วน ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เหมือนแผนการทุกอย่างมาจากหัวของมัน

“ข้าจำศีลนานแค่ไหนแล้ว?”

“อืม……น่าจะสามเดือนได้แล้ว”

กู้ชูหน่วนแทบล้มหน้าทิ่ม

สามเดือน?

ทำไมนานขนาดนั้นล่ะ?

นางแค่ทะลุจากระดับห้าถึงขั้นสูงสุดระดับห้า ก็……ก็ปาไปสามเดือนเลยเหรอ?

“นายหญิง คนมากมายใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ได้แค่ระดับห้าระยะกลาง แต่ก็ทะลุขั้นสูงสุดระดับห้าไม่ได้ ท่านใช้เวลาแค่สามเดือนก็สามารถทำลายสถิติได้แล้ว”

“เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์จะแอบบอกท่านให้นะ เย่จิ่งหานกว่าจะทะลุจากระดับห้าระยะกลางขึ้นขั้นสูงสุดระดับห้าได้ ใช้เวลาตั้งห้าปีกับอีกสามเดือนเลยนะ เวินเส้าหยีใช้เวลาห้าปีกับอีกสี่เดือน จอมมารใช้เวลาห้าปีกับอีกสองเดือนยี่สิบเจ็ดวัน ไม่ว่าพวกเขาคนไหน ก็ล้วนแต่เป็นพวกมีพรสวรรค์ที่ยากจะหาได้”

“แล้วดูท่านสิ ใช้เวลาแค่สามเดือน สามเดือนเองนะ……จิ๊ๆๆ ถึงแม้จะเป็นนายหญิงก่อน ก็ยังทำไม่ได้เลย”

“จอมมารเก่งกว่าเย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีอีกเหรอ?”

“นั่นสิ ถึงแม้จอมมารจะสะลึมสะลือไปหน่อย แต่ความสามารถของเขากลับไม่ถดถอยเลย ถ้าเขาโหดขึ้นมา เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีก็สู้เขาไม่ได้หรอก ที่สำคัญคือ ค่ายกลของเขา ถึงจะเป็นนายหญิงก็สู้เขาไม่ได้เหมือนกัน”

“นายหญิงที่เจ้าว่าหมายถึงใครกันแน่?”

เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์ยิ้มแหะๆ รีบเลื้อยไปบนตัวของนาง กลัวกู้ชูหน่วนจะจับเขาขึ้นมาอีก

“ก็ต้องเป็นท่านอยู่แล้วสิ ตอนนี้เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์มีท่านเป็นนายหญิงคนเดียวนะ เมื่อกี้เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์พูดผิดเอง ค่ายกลของนายหญิงแกร่งกว่าจอมมารอีก นายหญิงเก่งที่สุดแล้ว ไม่มีใครเทียบกับนายหญิงได้แน่นอน”

“อย่ามาประจบนะ พวกเรารีบไปเมืองว่านจีกัน”

“เมืองว่านจีอันตรายมาก ปกป้องง่ายแต่โจมตียาก ถึงอ๋องเสวี่ยฉินจะวางแผนการรบเก่งแค่ไหน ก็ยากที่จะโจมตีได้ พวกเราต้องไปช่วยเขา”

“ไม่ต้องหรอก อาโม่ไปเมืองว่านจีแล้ว มีเขาช่วย เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์เชื่อว่าจะต้องยึดครองเมืองว่านจีได้แน่นอน”

“อาโม่?”

อาโม่สู้รบเป็นด้วยเหรอ?

“ใช้ เขาเก่งมากเลยนะ อย่าเห็นเขาดูเอ๋อๆ ถ้าได้สู้ขึ้นมา ศัตรูก็ยังต้องกลัวเขาเลย”

“เขาไปเมืองว่านจีอย่างไร?”

“เพราะเย่จิ่งหานบอกกับเขาว่า ขอแค่จัดการราชินีโหดได้ก็จะได้เจอท่าน อาโม่ก็เลยไปช่วยอ๋องเสวี่ย”

“ตอนนี้เย่จิ่งหานเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”

“ไม่รู้สิ เหมือนจะหายไปเลย ช่วงนี้เสี่ยวจิ๋วเอ๋อร์ก็ยุ่งอยู่ตลอด ไม่มีเวลาไปสนใจเขา แต่ว่า……วันนี้เป็นวันแต่งงานของเวินเส้าหยีกับราชินีโหดนะ”