เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1633

“สุ่ยหมิงคงฝึกเคล็ดวิชาบู๊ด้วยเหรอ เขาทำอะไรอยู่ เป็นนักบู๊เหรอ”

“อับอายขายหน้า คุณชายผู้ยิ่งใหญ่ของตระกูลสุ่ย กลับเรียนการต่อสู้ต่ำต้อยของนักบู๊ เหยียดหยามตัวตนอันสูงส่งของผู้ฝึกชี่มาก!”

“ไร้สาระ สุ่ยหมิงคงฝึกเคล็ดวิชาบู๊เพื่อป้องกันเรื่องคาดไม่ถึงเท่านั้น ไม่เห็นหรือไงว่าตอนนี้ได้ใช้แล้ว”

“คุณชายสุ่ยหมิงคงความคิดล้ำลึกจริงๆ เขาแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว ยังคิดวิธีเอาไว้หากวันหนึ่งใช้พลังชี่หมด!”

“ดูเหมือนฉันต้องฝึกสักหน่อยแล้วล่ะ ถ้าต่อไปโดนยาพิษหรือโดนผนึก ไม่แน่อาจหนีได้เร็วก็ได้!”

……

ผู้ฝึกชี่ทั้งหมดในประเทศตันเซิ่งพากันแตกตื่นตามคำพูดของสุ่ยหมิงคง

พวกเขาเอะอะโวยวาย ตื่นเต้นจนกระโดดโลดเต้น

ตระกูลหั่วที่สวรรค์ชั้นหนึ่ง

เมื่อหลิงเหยาเห็นภาพนี้ รอยยิ้มรู้ใจปรากฏขึ้นบนใบหน้า ไม่รู้ว่าสุ่ยหมิงคงกำลังคิดอะไรอยู่

ผู้ฝึกชี่ที่ไร้พลังชี่สนับสนุน จะอาศัยหินรวมพลังในมือสู้กับลู่ฝานงั้นเหรอ คงสะกดคำว่าตายไม่เป็นสินะ

หลิงเหยาลุกขึ้นพูดว่า “ฉันดูต่อไม่ไหวแล้ว ผู้อาวุโสทุกท่าน ฉันขอตัวกลับก่อน”

ผู้อาวุโสห้าเงยหน้ามองหลิงเหยาแล้วพูดว่า “ไปเถอะ ดูเหมือนเธอรู้ผลแพ้ชนะแล้ว อย่าลืมล่ะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ ไปรายงานที่ห้องยา ห้องยาระดับต่ำสามห้องเป็นของลู่ฝาน เธอช่วยดูแลให้เขาด้วย”

หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสมาก ผู้อาวุโสยังมีอะไรจะถามอีกหรือเปล่า”

ผู้อาวุโสห้าหัวเราะเบาๆ “ไม่มีแล้ว วันนี้ฉันเรียกเธอมาภูเขาเทียนนู่เพื่อมาดูการประลองของลู่ฝาน หลักๆ คืออยากดูว่าเธอมีปฏิกิริยายังไงกับการประลองของลู่ฝาน”

หลิงเหยาพูดว่า “ดูเหมือนผู้อาวุโสห้ามีคำตอบอยู่แล้ว”

ผู้อาวุโสห้าโบกมือแล้วพูดว่า “ไปเถอะ จำคำฉันไว้ให้ดี แค่พวกคุณอยู่ในตระกูลหั่วอย่างสงบ ตระกูลหั่วจะให้ทุกอย่างที่พวกคุณต้องการ”

หลิงเหยาคำนับแล้วออกไป

หน้าตำหนักใหญ่ที่เขตวิถีในเมฆ

ทุกคนมองสุ่ยหมิงคงเดินไปข้างหน้าลู่ฝานอย่างตกตะลึง

จากนั้นง้างหมัดซัดไปบนตัวของลู่ฝาน!

พูดตามตรง หินรวมพลังที่อยู่ในมือสุ่ยหมิงคงไม่เลวจริงๆ ไม่ใช่ของธรรมดาแน่นอน

พลังของหมัดนี้พอๆ กับนักบู๊แดนปราณชีวิต!

แม้เซียนบำเพ็ญชี่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการฝึกฝนร่างกาย แต่เมื่อวิทยายุทธเพิ่มขึ้น ร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย หมัดของสุ่ยหมิงคงดูมีท่าทางของนักบู๊อยู่นิดหน่อย

พลังหมัดไม่กระจายออก พลังรวมอยู่ที่จุดเดียว แค่ไม่มีพลังปราณ นอกนั้นสมบูรณ์แบบทุกอย่าง

ลู่ฝานแอบพยักหน้า ถ้าสุ่ยหมิงคงอยู่ในครอบครัวเล็กๆ ที่ประเทศอู่อาน เขาต้องเป็นนักบู๊ดีเลิศคนหนึ่งแน่นอน

พลั่ก!

หมัดของสุ่ยหมิงคงต่อยลงบนท้องลู่ฝาน

ลู่ฝานไม่ขยับ เอาสองมือไพล่หลัง มองเขาเงียบๆ

วินาทีต่อมาสุ่ยหมิงคงหน้าแดงเถือก จับแขนตัวเองร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด

“สมควรตาย นายมันสัตว์อสูรจริงๆ!”

ลู่ฝานพูดอย่างเฉยเมยว่า “สัตว์อสูรทั่วไปยังแข็งแกร่งสู้ฉันไม่ได้เลย!”

พูดยังไม่ทันจบ จู่ๆ สุ่ยหมิงคงระเบิดอารมณ์ ยกเท้าโจมตีอย่างรวดเร็วอีกครั้ง

ถีบไปที่ลำคอกับท้องน้อยของลู่ฝานติดต่อกันสามครั้ง

ลู่ฝานยังนิ่งเหมือนเดิม ทว่าผิวหนังของเขาดีดเอง สุ่ยหมิงคงโดนดีดจนกระเด็นลงบนพื้น

ผู้อาวุโสรอบๆ เห็นภาพนี้แล้วพูดอะไรไม่ออก

สุ่ยหมิงคงเคยฝึกเคล็ดวิชาบู๊ ทำให้พวกเขาตกใจมากพอแล้ว แล้วลู่ฝานนี่ยังไงอีก

ผู้อาวุโสสามแววตาเย็นชา เขาพอรู้อะไรบ้างแล้ว