มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1030

บนร่างกายของเขาในตอนนี้มีคราบเลือดมากมาย บาดแผลที่ถูกหอกยุทธ์มังกรดำแทงเมื่อครู่นี้ ได้รับผลกระทบจากพลังแห่งกฎความตายดั้งเดิม จึงต้องใช้ระยะเวลานานกว่าจะฟื้นตัว

สีหน้าของเขาขาวซีด แต่อารมณ์ดื้อรั้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ ส่งแผนที่ดาวตำหนักดารานภาของข้าคืนมา”

ใบหน้าหลัวซิวเย็นชา “ตาแก่ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร ? เจ้าจัดการกับข้า ข้าไม่ได้ฆ่าเข้า เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าจริง ๆ น่ะเหรอ ?”

“เจ้ากล้าฆ่าข้า ? ตอนนี้ข้าเป็นอาจารย์ของเจ้าแดนตำหนักดารา ถ้าเจ้ากล้าฆ่าข้าล่ะก็ เจ้าแดนไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน ท่านต้องลงมือฆ่าเจ้าด้วยมือของท่านเองอย่างแน่นอน !” ชายชราจงเยว่ดูเหมือนจะไม่มีความกลัว

หลัวซิวยิ้มเย็นชา “ข้าเคยได้ยินมาว่าคนบางคนพึ่งพาความแข็งแกร่งของอาจารย์เพื่อให้ตนมีความกล้าหาญ กระทำผิดอย่างเหิมเกริม แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีบางคนอาศัยความเก่งกาจของลูกศิษย์เพื่อหยิ่งผยองอย่างเจ้า”

“ข้าคิดว่าเจ้าแดนตำหนักดาราท่านั้นคงรู้สึกละอายใจที่มีอาจารย์อย่างเจ้าสินะ ?” หลัวซิวพูดอย่างไม่สนใจใยดี

สำหรับเทพมารเจ้าแดนของตำหนักดารานภา หลัวซิวไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเป็นพิเศษ สิ่งที่เขาหวาดกลัวคือความแข็งแกร่งและรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แห่งนี้

ดังนั้นถ้าไม่มีความจำเป็น เขาก็ไม่อยากต่อสู้กับสี่ผู้ยิ่งใหญ่แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่ลงมือสังหารชายชราจงเยว่

“ฟิ้ว !”

ทันใดนั้น ร่างกายของชายชราจงเยว่ก็สั่นไหว และหายไปจากที่ตรงนั้น

เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว แต่จู่โจมอย่างรวดเร็ว เขารวบรวมพลังแห่งกฎ ต้องการจะจับตัวเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ผู้หญิงทั้งสองคนไว้ และใช้สิ่งนี้เป็นตัวต่อรองเพื่อคุกคามหลัวซิว

แดนกฎปริภูมิดั้งเดิมของฝ่ายตรงข้ามสูงกว่าหลัวซิว ในตอนนี้เขาต้องการขัดขวาง แต่มันก็สายเกินไป

เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 จะไร้ยางอายและน่ารังเกียจได้ถึงเพียงนี้

“ไป !”

งูมรณาจิ่วหยินยืนอยู่ข้าง ๆ ผู้หญิงทั้งสองคน มันไม่สนใจว่าคุณเป็นใคร แค่ลงมือก็ถึงตาย

ออร่าของมันซ่อนลึกอยู่ข้างใน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างไม่ถือสาอะไรในตัวมัน ตอนพลังอานุภาพที่น่าเกรงขามของเทพมารผู้แข็งแกร่งระเบิดออกมา ทุกคนก็เกิดความตกใจขึ้นมาทันที

“เทพ…มาร…..?”

เสียงดังผัวะ ชายชราจงเยว่ถูกงูมรณาจิ่วหยินตบจนกลายเป็นหมอกเลือดโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ไม่เหลือแม้แต่เศษซากกระดูกเพียงน้อยนิด

หลัวซิวยิ้มมุมปาก การสังหารอาจารย์ของเจ้าแดนตำหนักดารานภา ความแค้นนี้ปมใหญ่ขึ้นแล้ว

“สมน้ำหน้าตาแก่นี้ มีชีวิตมานับหมื่นปีแล้ว แต่ยังไร้ยางอายได้ถึงเพียงนี้”

สำหรับหลัวซิวแล้ว แม้ว่างูมรณาจิ่วหยินไม่ลงมือ แต่อีกฝ่ายกลับกล้าลงมือกับเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่ เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยตาแก่นี่ไว้อย่างแน่นอน

ตำหนักดารานภา สำหรับเจ้าของอาณาจักรตะวันออกดินแดนที่ยิ่งใหญ่ หลายหมื่นปีที่ผ่านมา ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืนปณิธานของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์

ต่อมา การปรากฏตัวและการเกิดขึ้นของหลัวซิว ทำลายสภาพการณ์นี้ ทำให้ความน่าเกรงขามของแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ ถูกยั่วยุหลายครั้งหลายหน

ในสำนักตำหนักดารา เจ้าแดนดารานภาหลับตาลงเล็กน้อย รอบ ๆ ตัวมีแสงดาวสว่างไสว เบื้องหลังแสดงให้เห็นท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยดวงดาว โดยมีออร่าของกฎเก้าชนิดประกอบด้วย ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม ฟ้าร้อง หยิน และหยางซ่อนอยู่ข้างใน

ผู้แข็งแกร่งที่บุกเบิกวิชาดาราเก้าส่องแสง เรียกได้ว่าเป็นผู้โอ่อ่าทรงพลังที่ไม่มีใครทัดเทียมได้ ใช้พลังแห่งแสงดาวก่อให้เกิดกฏเก้าชนิด ถ้าสามารถเอากฎเก้าชนิดนี้ทั้งหมดมาฝึกตนจนบรรลุแดนเทพมารของกฎดั้งเดิมได้ และอาศัยพลังเทพดั้งเดิมของกฏเก้าชนิด บรรดาเทพมารในแดนเดียวกัน น้อยมากที่จะเป็นศัตรู