ตอนที่ 1612

Alchemy Emperor of the Divine Dao

จิ่งอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่นางหลง ตอนนี้ท่านหญิงอวี่ซานกำลังมีธุระอยู่กับนายนายของพวกข้า ทางที่ดีอย่าไปรบหวนพวกเขาจะดีกว่า”

“ใครคือนายน้อยของพวกเจ้า?” หลงเซียงเยว่ขมวดคิ้ว

“ดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา ฉงปาตู้!” จิ่งอี้และหยางจือเกอกล่าวพร้อมกันด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเคารพราวกับกำลังอยู่ต่อหน้าพระเจ้าผู้สูงส่ง

จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้านทันที ดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆา?

ราชาไค่หยุน?

ในอดีต ราชันวารีสวรรค์ถูกราชาไค่หยุนทรยศหักหลังและถูกศัตรูห้อมล้อมโจมตี ไม่เช่นนั้นแล้วตัวเขาที่ฝึกฝนทักษะบ่มเพาะราชานิรันดร์ย่อมมีโอกาสสูงมากที่จะเปิดเส้นทางสู่ดินแดนแห่งเซียนได้สำเร็จ การทรยศของราชาไค่หยุนทำให้ราชันวารีสวรรค์เกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากถึงขนาดทิ้งข้อความสุดท้ายก่อนตายเอาไว้ว่าผู้สืบทอดของเขาต้องสังหารราชาไค่หยุนให้ได้

หรือว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นราชาไค่หยุนได้ก่อตั้งดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาขึ้นมา?

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน!” หลงเซียงเยว่เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ “หลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปพบอาสาวของข้า!”

“ต้องขออภัยต่อแม่นางหลงด้วย” จิ่งอี้กล่าวขอโทษด้วยรอยยิ้มและไม่มีท่าทีว่าจะเปิดทางให้

หลงเซียงเยว่เกรี้ยวกราด นี่คือตระกูลหลงของนาง อีกฝ่ายที่เป็นเพียงคนนอกกล้าดีอย่างไรมาห้ามนางไม่ให้ไปไหนมาไหน? ‘ฉึบ’ นางชัดดาบขึ้นมาถือ สีหน้าของนางแสดงออกอย่างแน่วแน่ว่าพร้อมที่จะลงมือ

แต่ในขณะที่นางกำลังจะกวัดแกว่งดาบ จู่ๆนางก็รู้สึกว่าไหล่ของนางหนักอึ้งจนไม่สามารถขยับแขนได้ เมื่อหันหลังกลับไปนางพบว่าหลิงฮันได้ใช้มือกดที่ไหล่ของนางเอาไว้

“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสองคนนั้น” หลิงฮันกล่าว ถึงแม้พัฒนาการของหลงเซียงเยว่จะไม่เชื่องช้า แต่พลังบ่มเพาะของนางในตอนนี้ก็ยังเป็นเพียงระดับวารีนิรันดร์ขั้นต้นเท่านั้น ในขระที่พวกจิ่งอี้และหยางจือเกอมีพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์

‘เขาเป็นห่วงข้าด้วย!’

หลงเซียงเยว่จิตใจหวั่นไหว ความโกรธเมื่อครู่ของนางหายเป็นปลิดทิ้ง

หลิงฮันดึงมือกลับและกล่าวกับพวกจิ่งอี้ “เป็นแขกก็สมควรประพฤติตัวให้สมเป็นแขก อย่าได้ทำตัวโอหังในที่ของคนอื่น”

“เจ้าเป็นใคร?” ทั้งสองคนจ้องมองหลิงฮันด้วยท่าทางระมัดระวัง ด้วยพลังบ่มเพาะระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์ แน่นอนว่าพวกเขาย่อมสัมผัสได้ว่าหลิงฮันนั้นทรงพลังมากจึงต้องระมัดระวังเอาไว้

“หลิงฮัน”

“หลิงฮัน?” ทั้งสองแสดงสีหน้าประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของหลิงฮันมาก่อน แต่ในเมื่อแซ่ของอีกฝ่ายคือหลิงฮันนั่นหมายความว่าอีกฝ่ายไม่ใช่คนของตระกูลหลง

“เหอๆ เจ้าเองก็เป็นแขกเหมือนกันแล้วมีสิทธิอะไรมาว่าพวกข้าเช่นนั้น?” หยางจือเกอกล่าว

“ไม่มีหรอก แต่หากข้าผ่านไปพวกเจ้าก็ไม่มีสิทธิจะขวางทางข้าเช่นกัน” หลิงฮันชี้ไปยังประตูที่พัก

“นั่นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าแข็งแกร่งพอรึไม่” จิ่งอี้ปลดปล่อยจิตวิญญาณต่อสู้

หลิงฮันไม่กล่าวอะไรและก้าวเดินหน้าต่อ

ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียด จิ่งอี้และหยางจือเกอขยับเดินขึ้นหน้าพร้อมกันและยกมือเตรียมโจมตี

แต่ยังไม่ทันทีที่พวกเขาจะได้ลงมือ จู่ๆหลิงฮันก็ใช้ฝ่ามือสองข้างตบเข้าที่ไหล่ของพวกเขา ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกราวกับว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าได้ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์ชั่วคราว

ทั้งสองเหงื่อไหลท่วม ในช่วงจังหวะนี้หากอีกฝ่ายทำการโจมตีดวงวิญญาณพวกเขาล่ะก็ พวกเขาคงมีชะตากรรมเดียวคือความตาย

หลิงฮันตบไหล่ทั้งสองคนอีกครั้งและกล่าว “หากฉลาดพวกเจ้าก็ควรหลบไป”

จิ่งอี้และหยางจือเกอที่ประสาทสัมผัสกลับคืนสู่สภาพปกติก็รีบกระโดดหลบไปด้านข้างทันที จิตใจของพวกเขาสั่นไหวด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆที่พวกเขากับอีกฝ่ายมีพลังระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์เหมือนกันแท้ๆ เหตุใดความต่างถึงได้กว้างใหญ่ขนาดนี้? ราวกับว่าแม้แต่หนึ่งกระบวนท่าของหลิงฮันพวกเขาก็ไม่อาจรับมือไหว

“ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้าไปรบกวนนายน้อย!” หยางจือเกอกัดฟันและนำอาวุธรูปร่างเหมือนขวานยาวออกมา รูปแบบอาคมศักดิ์สิทธิ์แต่ละอันบนตัวหอกค่อยๆเปล่งประกายและระเบิดอำนาจอันทรงพลัง

จิ่งอี้นำอาวุธออกมาเช่นกัน อาวุธของนางคือมีดคู่ อำนาจที่อาวุธของนางปลดปล่อยออกมาได้ด้อยไปกว่าของหยางจือเกอ

หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เห็นแก่ที่พวกเจ้าทำตามคำสั่งที่ได้รับความอย่างเคร่งครัด ข้าจะเบามือให้แล้วกัน”

จิ่งอี้และหยางจือเกอคำรามเสียงเบา ‘ครืนนน’ ทั้งสองลงมือโจมตี อาวุธของพวกเขาปลดปล่อยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างรุนแรงราวกับคลื่นมหาสมุทร

Anchor

หลงเซียงเยว่ใบหน้าเปลี่ยนสี แม้นางจะเป็นสตรีที่หยิ่งทะนงแต่นางก็ไม่คิดว่าตนเองจะสามารถรับมือกับพลังโจมตีที่รุนแรงของทั้งสองได้

เพียงแต่นางไม่คิดว่าหลิงฮันจะแพ้ แม้แต่ราชาเซียนถึงสองคนก็ยังถูกเขาสังหารมาแล้ว กับแค่จอมยุทธระดับวารีนิรันดร์ขั้นสมบูรณ์ย่อมไม่คณามือ

หลิงฮันสะบัดมือปลดปล่อยมิติเอกเทศใส่การโจมตีของทั้งสอง เขาขยับร่างมาปรากฏต่อหน้าหยางจือเกออย่างง่ายดายและปล่อยหมัด ‘อ้ากก’ หยางจือเกอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดโดยมีโลหิตไหลออกมาจากจมูก

หลิงฮันหันหน้าไปมองจิ่งอี้

จิ่งอี้เผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว พลังต่างกันเกินไป ต่อให้นางเอาจริงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอีกฝ่าย

“ฮึ่ม!” ทันใดนั้นเองเสียงคำรามอันทรงอำนาจก็ดังออกมาจากลานที่พัก ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างของชายหนุ่มผู้หนึ่งกำลังอยู่อยู่ในลานที่พัก กลิ่นอายของชายหนุ่มผู้นี้น่าเกรงขามจนผู้คนที่มองมาต้องยอมศิโรราบ

“นายน้อย!” จิ่งอี้และหยางจือเกอรีบคุกเข่าคารวะชายหนุ่ม

ชายหนุ่มผู้นั้นยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อบ่งบอกให้พวกจิ่งอี้ลุกขึ้นได้และมองมายังหลิงฮันกับหลงเซียงเยว่ เขาจ้องมองหลิงฮันอยู่เพียงชั่วครู่แต่กลับจดจ้องหลงเซียงเยว่อยู่นานพร้อมกับเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด

“ท่านอา!” หลงเซียงเยว่อุทาน สตรีอีกคนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากลานที่พัก รูปลักษณ์ของนางดูเหมือนหญิงสาวที่อายุเพียงยี่สิบปีเท่านั้น ผมสีดำของนางยาวสลวยราวกับน้ำตกและมีเขามังกรปรากฏไว้บนศีรษะสองเขา

ไม่ต้องกล่าวก็รู้ว่าสตรีผู้นี้คือหลงอวี่ซาน

“กล้าดีอย่างไรมาทำร้ายคนของข้า!” ฉงปาตู้กล่าวเย็นชาและหันกลับมามองหลิงฮันในที่สุด

“ฮ่าๆๆ เจ้ารับไม่ได้รึไง?” หลิงฮันกล่าว

ฉงปาตู้ถลึงตา อีกฝ่ายไม่รู้รึไงว่าเขาคือเซียน!

เป็นเพียงมดปลวกระดับวารีนิรันดร์แต่กล้าต่อต้านเขา? ฉงปาตู้ไม่สบอารมณ์ เขายกฝ่ามือขึ้นอย่างรวดเร็วและเตรียมลงมือ

ครืนน!

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะทำการโจมตี หลงอวี่ซานก็ปลดปล่อยอำนาจมังกรออกมาห้ามปรามเขา

“ห้ามลงมือใดๆ!” หลงอวี่ซานกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์

ฉงปาตู้ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบกลับมายิ้ม “เห็นแก่แม่นางอวี่ซาน ข้าจะยอมปล่อยหมอนั่นไปสักครั้ง” เขาสะบัดแขนเสื้อและเดินจากไป จิ่งอี้กับหยางจือเกอรีบเดินตามเขาไปเช่นกัน

“ท่านอา หมอนั่นเป็นใครกัน?” หลงเซียงเยว่วิ่งไปยืนข้างหลงอวี่ซานและคว้าจับมืออีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

แววตาของหลงอวี่ซานแน่นิ่งก่อนจะกล่าว “เขาคือคู่หมั้นของข้า”

พรวด!

หลงเซียงเยว่สำลักและรีบส่ายหัว “ท่านอา เพียงแค่มองแวบแรกก็รู้แล้วว่าเจ้าหมอนั่นน่ารังเกียจเพียงใด หากท่านแต่งงานกับเขาท่านจะต้องเจ็บปวดในภายหลังแน่นอน!”

“เด็กโง่ เจ้าไม่เข้าใจสถานการณ์เอาเสียเลย” หลงอวี่ซานส่ายหัว ความจริงนางก็ไม่ได้อย่างแต่งงานเช่นกัน แต่ดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาเป็นขุมอำนาจทรงพลังที่มีราชาเซียนเป็นประมุข เมื่อไม่กี่ปีก่อนดินแดนต้องห้ามเปิดเมฆาได้มีการเสนองานแต่งงานขึ้นโดยส่งเซียนระดับสูงเป็นคนมาจัดการเรื่องด้วยตัวเอง แถมยังนำของกำนัลสำหรับงานแต่งที่ตระกูลหลงไม่อาจปฏิเสธได้มาพร้อมกันด้วย

สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ!

ถึงแม้ตอนนี้จะเห็นว่าตระกูลหลงเป็นขุมอำนาจที่ทรงพลัง แต่ไม่มีใครเลยที่รับรู้ว่าประมุขตระกูลหลงนั้นมีบาดแผลแห่งเต๋าอยู่ภายในร่างกายมาตลอด บาดแผลนี้เกิดขึ้นจากการที่เขาฝืนทะลวงผ่านระดับพลังเมื่อนานมาแล้วและมีเพียงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำเท่านั้นที่สามารถรักษาได้