ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1036 ม็อกโก ดวงตาคุณบอดแล้วเหรอ?
สุดท้ายพิมแสงก็เรียกหมอสูตินารีมา
หลังจากที่คุณหมอสูตินารีทำการตรวจดูแล้ว ก็ให้ผลการตรวจออกมาว่า : “คุณธิป เด็กในครรภ์รักษาไว้ได้ค่ะ แต่ว่าสตรีตั้งครรภ์ไม่สามารถเกิดอุบัติเหตุใดๆ ได้อีก ทางที่ดีที่สุดคือให้นอนอยู่บนเตียงสักหนึ่งเดือน”
“หนึ่งเดือน?!!”
พิมแสงได้ยินระยะเวลานี้ ดวงตาก็เบิกกว้างและกลมขึ้น
จะต้องนอนอยู่บนเตียงนานขนาดนั้น?
งั้น……….
ทันใดนั้นเธอก็หันมองดูผู้ชายคนนั้นที่ยืนใช้กระดาษทิชชูเช็ดจมูกอยู่ด้วยความรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย
แต่ดูเหมือนว่าชายคนนี้นิ่งสงบมาก หลังจากที่เขาเช็ดคราบเลือดที่จมูกออกหมดแล้ว ก็ทิ้งกระดาษทิชชูเปื้อนเลือดกองนั้น แล้วก้าวขาวยาวๆ เดินเข้ามา
“งั้นคุณก็ทำให้เธอลงจากเตียงไม่ได้เป็นเวลาหนึ่งเดือน!”
“หา?”
คุณหมอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างไว : “คุณธิป คุณหมายความว่า……..?”
ใบหน้าของคณาธิปไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆ : “เธอกระโดดโลดโผนจนเป็นนิสัยแล้ว เว้นแต่ว่าคุณทำให้เธอหมดความสามารถนี้ไปในช่วงเวลาสั้นๆ มิฉะนั้น เธอก็ไม่ยอมนอนนิ่งๆ อยู่บนเตียงหรอก”
คุณหมอ : “………”
พิมแสง : “………”
ในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยความลึกลับพิศวง สักพัก คุณหมอถึงจะพยักหน้าลงอย่างงงๆ : “ได้ครับ คุณธิป”
จากนั้น เขาก็ฉีดยาชนิดหนึ่งให้กับแสงดาวที่ยังคงนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง
หลังจากที่คุณหมอกลับไปแล้ว พิมแสงเห็นว่าเวลาก็ดึกแล้ว เตรียมตัวจะกลับไป
“พี่ธิป งั้นฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่”
“ไม่ต้อง คืนนี้เธอพักที่นี่”
คณาธิปตกลงแบบไม่เหมือนกับที่ผ่านมา
แต่หลังจากที่หยิบเสื้อคลุมของตัวเองกลับมาใส่ใหม่อีกครั้ง ในขณะที่เขาหยิบยาเม็ดสองสามเหม็ที่ตัวเองต้องกิน เขาก็หยิบกุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา
พิมแสงอึ้ง : “หา? ฉันพักอยู่นี่? แล้วพี่……นี่คือจะออกไปงั้นเหรอ?”
คณาธิปพยักหน้า : “อืม พรุ่งนี้ถึงจะกลับมา”
ในน้ำเสียงสองสามคำหลังของเขาแฝงไปด้วยความเย็นเฉียบที่ทำให้คนต้องรู้สึกเสียวสันหลังวาบ ห่างกันไกลมาก ยังสามารถทำให้รู้สึกได้ถึงพลังแห่งการสังหารบนตัวเขาได้
เขาจะไปไหน?
พิมแสงมองดูอยู่อย่างงงๆ
สุดท้าย ก็ไม่กล้าถามต่อว่าเขาจะไปไหนกันแน่?
ยิ่งไม่ได้บอกเขาว่า พรุ่งนี้ พวกเส้นหมี่ก็จะมาแล้ว……….
——
ประเทศ T
วันนี้ม็อกโกไม่สามารถออกห่างไปจากโรงพยาบาลได้ เพราะว่าเดิมทีคุณลุงคุณป้าที่ตกลงว่าจะมาถึงในตอนบ่าย ก็ไม่ได้มาตรงเวลา บอกว่าเที่ยวบินล่าช้า
“โก เธอก็อยู่ดูแลน้องสาวอยู่ที่ต่ออีกสักหน่อยได้ไหม? พวกเราถึงสนามบินเรียบร้อยแล้ว แต่คนที่นี่บอกว่า เครื่องบินไม่ได้มาตรงเวลา พวกเราเองก็ทำอะไรไม่ได้”
“ใช่แล้ว โก เธอเป็นน้องสาวของเธอ เธอก็อยู่ที่นั่นต่ออีกสักคืนหนึ่ง หืม?”
สองสามีภรรยาโทรศัพท์มาแบบนี้ ก็ไม่ไม่มีคำพูดอะไรต่อแล้ว
ม็อกโกเองก็ไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็ได้เพียงแค่อยู่ที่นี่ต่อ
โชคดีก็คือ เมื่อถึงตอนกลางคืน ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ร้องไห้โวยวายเหมือนตอนกลางวันแล้ว
“พี่ชาย เจ็บ………..”
เพียงแค่หลังจากที่ตื่นแล้ว นอนมองดูเขาด้วยน้ำตานองหน้าอยู่บนเตียงผู้ป่วย
ม็อกโก : “………”
หลังจากที่รู้ว่าเธอมีความคิดที่ไม่สมควรแบบนั้นต่อเขา เขาก็รังเกียจแม้แต่เส้นผมทุกเส้นของผู้หญิงคนนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่าทางที่มองดูเขาด้วยสายตาใสซื่อแบบนี้
แต่สุดท้าย เขาก็ยอมทนเอาไว้ได้
“อดทนไว้ รอให้ขาของเธอเชื่อมต่อกันก็หายแล้ว”
“จริงเหรอ?”
หญิงสาวที่เจ็บจนบนใบหน้าไม่มีแม้แต่สีเลือด เมื่อได้ยินประโยคนี้ ในที่สุด ความเจ็บปวดในแววตาของเธอก็เผยให้เห็นถึงความมีหวังอยู่เล็กน้อย
ช่างเหมือนกับเด็กน้อยเสียจริงๆ ที่ได้ลูกอมนั้นที่เธออยากได้มากที่สุด
“งั้นพี่ชาย ฉันอยากกินไอศกรีม พี่สามารถช่วยไปซื้อให้หน่อยได้ไหมคะ?” เธอร้องขอครั้งที่สองออกมา เพื่อหาอะไรมาจรรโลงใจของตัวเอง
ม็อกโก : “………”
“ไอศกรีม? ได้สิ คุณม็อกโก ในเวลานี้น้องสาวของคุณเจ็บปวดสุดจะทนได้ ไอศกรีมมันสามารถช่วยบรรเทาได้ อันนี้สามารถกินได้จริง”
ทันใดนั้น ก็มีพยาบาลคนหนึ่งเข้ามาจากด้านนอก หลังจากได้ยินขวัญเมืองร้องขอแบบนี้แล้ว เธอเห็นด้วยเป็นอย่างมาก
เมื่อขวัญเมืองได้ฟัง ก็ยิ่งอยากได้มากยิ่งขึ้น : “พี่ชาย…………”
ทำท่าปากจู๋น้อยๆ อย่างน่าสงสาร ที่แม้แต่พยาบาลคนนั้นเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหวเล็กน้อย
ดังนั้นสุดท้ายม็อกโกก็ยอมออกไป กลางคืนดึกดื่น เขาออกมาจากในโรงพยาบาลแห่งนี้ ขับรถออฟโร้ดของเขาคันนั้นไปหาไอศกรีมให้ผู้หญิงคนนี้กิน
ตอนที่คณาธิปมาถึงที่นี่ ม็อกโกก็ได้ซื้อกลับเข้ามาแล้ว
รถของเขาจอดไว้ข้างนอก เงยหน้าขึ้นไปมอง แว๊บแรกก็สามารถมองเห็นโซนห้องพักผู้ป่วย VIP ที่อยู่ชั้นสามของโรงพยาบาลแห่งนี้ มีร่างของผู้ชายคนหนึ่งกำลังถือถ้วยหนึ่งป้อนอะไรให้คนกินอยู่
ดังนั้น ผู้หญิงโง่คนนั้นกำลังรออะไรอยู่กันแน่?
คณาธิปลงมาจากรถ ตามด้วยเสียงปิดประตูดัง “ปัง”
ไม่กี่นาทีต่อมา ในห้องพักผู้ป่วยหมายเลข 09 โซนห้องพักผู้ป่วย VIP ชั้นสาม ม็อกโกที่กำลังป้อนยาให้กับหญิงสาวที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย หลังจากที่ได้ยินเสียงดังแรงเสียงหนึ่ง เขาก็เอียงหน้าหันมาดู
ผู้ชายคนหนึ่งที่มีสีหน้าเขียวปั๊ด แตะเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยห้องนี้แล้วปรากฏตัวอยู่ที่ประตู!
“คณาธิป?”
เขาจำคนคนนี้ได้แล้ว ก็อึ้งตกใจอยู่ครู่หนึ่ง
รวมทั้งหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงกำลังมีความสุขอยู่กับการถูกดูแลอยู่ในเวลานี้ หลังจากที่เห็นคนคนนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันเล็กน้อย
แต่คณาธิปกลับไม่ได้ให้เวลาใดๆ สำหรับพวกเขาได้ครุ่นคิด หลังจากเตะประตูเปิดออกแล้ว ก็บุกเดินตรงดิ่งเข้ามาที่เตียงนี้
“ก็แค่เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้ยังคิดจะปั่นหัวคนเขาไปทั่ว? ที่ต้องการขาคู่นั้นของนิษาก็ได้มาเหรอ? เอามาต่อให้เธอด้วย แบบนี้เธอก็จะได้มีสี่ขาแล้ว จะได้ยิ่งมีอิทธิฤทธิ์ไม่เหมือนใครเขา”