คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 1849

”ไม่นะ”

แอชลีย์ที่เงียบมาตลอดตะโกนว่า “แดร์ริล วันนี้นายต้องมากับเราแล้วมาพบตระกูลเรา แล้วก็เอาแก่นแท้ของมังกรมาคืนเราด้วย”

แดร์ริลไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ว่าเขายังเจ้าเล่ห์อีกด้วย วันนี้การที่พวกเขาได้เจอกันเป็นเรื่องบังเอิญเพราะฉะนั้นพวกเธอจะปล่อยเขาไปง่าย ๆ ไม่ได้

บรรยากาศตึงเครียดเล็กน้อย

ฉางเอ๋อนิ่วหน้า เธอแอบกังวลอยู่

‘ทำไมถึงมีปัญหาเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อนนะ? เราเพิ่งจัดการเรื่องในห้องนั้นจบไปเมื่อกี้ แล้วก็มีอีกเรื่องงอกขึ้นมา เจ้าแดร์ริลนี่กวนใจนัก การตามเขาก็มีแต่นำโชคร้ายมาให้ข้า’

ขณะที่เธอคิดเรื่องนี้ ฉางเอ๋ออดไม่ได้ที่จะหันไปมองแดร์ริลอย่างเกลียดชัง

“ถ้างั้นเธอต้องการยังไง?” แดร์ริลมองแอชลีย์ เขาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “คุณแอชลีย์ ฉันเอาแก่นแท้ของมังกรมาไม่ได้ตอนนี้ หยุดฉันไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ตอนที่ฉันว่างผมจะแวะไปหาพวกเธอ แบบนั้นคุณคิดว่ายังไง?”

“มีสองทางเลือก” สีหน้าแอชลีย์ว่างเปล่า เธอพูดอย่างเย็นชา “ไม่คืนแก่นแท้ของมังกรให้เรามา ก็ตามเรากลับไปที่ตระกูล ไม่มีทางเลือกที่สามแล้ว”

‘กรรม’

แดร์ริลรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ เขามองแอชลีย์พร้อมเลิกคิ้ว เขาบอกว่า “ถ้าฉันตามเธอกลับไปแล้วจะยังไง? ยังไงเธอก็ไม่ได้แก่นแท้ของมังกรกลับไป ทำไมถึงร้อนใจอยากให้ฉันกลับไปที่ตระกูลบ็อกซ์นัก? เธออยากให้ฉันเป็นเขยแต่งเข้าบ้านเธอหรือไง?”

แดร์ริลหมดความอดทนแล้ว

ทำไมพวกพี่น้องบ็อกซ์ถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้?

“นาย-”

แอชลีย์หน้าแดงขณะที่จ้องแดร์ริล เธออ้าปากแต่ก็ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา เธอไม่คาดคิดว่าประมุขสำนักประตูสุราลัย วีรบุรุษจากจักรวาลโลกจะพูดจาหยาบคายลื่นเป็นปลาไหลแบบนี้

โอ้

บรรดาคนในกาสิโนต่างก็ส่งเสียงฮือฮา พวกเขามองแดร์ริลอย่างเคารพนับถือ

‘ให้ตายสิ หมอนี่สุดยอด ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้มีชื่อเสียงดังไปทั้งเก้าทวีป เขากล้าพูดกับพี่น้องบ็อกซ์แบบนั้นได้ยังไง?’

“แดร์ริล!” ทิฟฟานี่ตะโกน “เลิกพูดล้อเล่นได้แล้ว น้องสาวฉันบอกเงื่อนไขของเธอไปแล้ว ถ้านายทำไม่ได้ก็อย่ามาว่าเราหยาบคาย”

ทิฟฟานี่ส่งสัญญาณทางสายตาให้บอดี้การ์ดของเธอ พวกเขาก็รีบเข้าไปรุมล้อมแดร์ริลทันที

ชายหนุ่มหัวเราะในใจ

แดร์ริลไม่ตื่นตระหนกเลยสักนิด เขายิ้มและบอกว่า “เธออยากจะสู้เหรอ? เธอมั่นใจนะว่าเธอจะชนะฉันได้?”

ทิฟฟานี่หน้าแดงก่ำ เธอพูดไม่ออก

แม้ว่าเขาจะจำนวนคนน้อยกว่า แต่แดร์ริลก็แข็งแกร่งมาก บอดี้การ์ดพวกนั้นอาจจะแตะต้องตัวเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

ฟู่

แอชลีย์สงบใจลงและจ้องแดร์ริลอย่างเย็นชา “ฉันรู้ว่านายเก่ง เอาล่ะนายอาจจะใช้พลังทั้งหมดในการต่อสู้และพวกเราก็อาจจะแพ้หมดท่า แต่ว่าพอนายจากไป ฉันจะกระจายข่าวไปให้ทั่วว่านายเป็นคนยังไง”

จากนั้นแอชลีย์ก็แสร้งทำเป็นไม่แยแสขณะที่พูดต่อว่า “ตระกูลบ็อกซ์ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรนักในเก้าทวีป และเราก็อาจจะต้องอับอายบ้าง แต่นายล่ะ? นายเป็นประมุขสำนักประตูสุราลัย วีรบุรุษของจักรวาลโลก หากคนอื่นรู้ว่านายหลอกตระกูลเรา แล้วขโมยแก่นแท้ของมังกรของเราไปแถมไม่มีแผนจะคืน แถมนายยังอัดคนของเรา คนอื่นเขาจะมองนายยังไง?”

‘เวร’

แดร์ริลอึ้งไป เขามองแอชลีย์อย่างตะลึง เขาพูดอะไรไม่ออก

แอชลีย์นั้นฉลาดในการใช้พลังมวลชนมากดดันเขา

เพราะว่าเธอนั้นพูดถูก แดร์ริลใช้กลอุบายหลอกแล้วขโมยแก่นแท้ของมังกรไป หากว่าแดร์ริลสู้กับพวกเขาอีกก็จะไม่สามารถอธิบายตัวเองได้

แดร์ริลเกาหัว เขาไม่รู้จะหัวเราหรือร้องไห้ดี เขารู้สึกสิ้นหวังมาก

“แม่นาง”