อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่1250 พระราชโองการ

“ไม่มีหลักฐาน งั้นข้าก็คงทำตามคำสั่งนั้นไม่ได้”

หลินเฟยไม่ยอมฟังคำใครทั้งสิ้น และไม่คิดจะเปิดโอกาสให้ต่อรองอีก

ราชินีมองภาพที่วุ่นวายนี้อย่างมีความสุข สูดดมกลิ่นเลือดอย่างโลภมาก

อ๋องเสวี่ยฉินกระทืบเท้าเดินมาถึงหน้ากู้ชูหน่วน คุกเข่าลงแล้วพูดขึ้นว่า “กระหม่อมขอคารวะองค์ราชินี ขอองค์ราชินีทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

อ๋องเสวี่ยฉินคุกเข่าตะโกนเสียงดัง เขานำทหารทุกคนคุกเข่าลง แล้วตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า “ขอองค์ราชินีทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

เสียงดังก้องไปถึงหูทุกคน ก้องไปทั่วลานพิธี หรือแม้แต่ในวังหลวงอันกว้างใหญ่

ว่าไงนะ……

อ๋องเสวี่ยฉินเรียกมู่หน่วนว่าราชินีเหรอ?

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ขุนนางทุกคนอึ้งกันหมด

เผ่าเทียนเฟิ่นก็อึ้งเหมือนกัน

เวินเส้าหยีตกตะลึงมาก

แม้แต่สัตว์เลี้ยงของกู้ชูหน่วนต่างก็ตกใจกันหมด

กระทิงไฟเก้าเขาพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า “ลูกพี่เป็นราชินีจริงเหรอ? ทำไมถึงไม่บอกกับข้าล่ะ ทำเอาพวกเราต้องฆ่าผู้คนตั้งนานถึงจะเข้าวังได้”

“ลูกพี่เป็นราชินีทำไมถึงไม่บอกล่ะ พวกเราแย่งตำแหน่งกลับมาก็พอแล้ว”

“ถ้าลูกพี่เป็นราชินีจริงๆ งั้นต่อไปก็ออกคำสั่งว่าหยุดฆ่าพวกอสูรได้แล้ว ให้พวกเราได้มีชีวิตที่สุขสบายบ้าง”

“……”

พวกอสูรพูดไม่หยุด

กู้ชูหน่วนอึ้งจนพูดไม่ออก

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

นางไม่อยากเป็นราชินีนะ!

นางแค่อยากมาหาเซียวหยู่เซวียน ตามหาตัวคนร้ายที่ฆ่าล้างตระกูลมู่ ตามหาวิญญาณที่เหลือก็เท่านั้น

“ฝ่าบาทมีลูกสาวที่พลัดพรากจากกัน เมื่อห้าปีก่อน พระนางแอบบอกกับข้าและขุนนางผู้รักษาราชโองการอีกหลายคน ถ้าพระนางเกิดเรื่องขึ้น ก็ต้องออกตามหาลูกสาวที่พลัดพราก แล้วส่งต่อราชบัลลังก์ให้กับนาง แต่ตอนนั้นพวกเราไม่รู้ว่ามู่หน่วนเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพระนาง”

ใต้เท้าอีกคนพูดขึ้น “ขุนนางผู้รักษาราชโองการนอกจากเจ้าแล้ว คนอื่นก็ตายกันหมดแล้ว พวกเราจะเชื่อเจ้าได้อย่างไร?”

“นางอำมหิตเกินไป ฆ่าขุนนางผู้รักษาราชโองการตายจนหมด แต่ว่า……นางคิดว่าขุนนางผู้รักษาราชโองการตายหมดแล้วหรือไง?”

อ๋องเสวี่ยฉินปรบมือ พวกทหารก็เข็นรถเข็นเดินเข้ามาช้าๆ

ผู้ที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้นคือคนแก่ผมขาวโพลน

ทุกคนเห็นเขาแล้วต่างก็พูดขึ้นอย่างแปลกใจ “นี่คือใต้เท้าจูขุนนางผู้รักษาราชโองการไม่ใช่เหรอ?”

“ใต้เท้าจูจริงด้วย ใต้เท้าจูตายไปเมื่อสองปีก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ?”

ใต้เท้าจูแววตาประกายไปด้วยความเกลียดชัง มองค้อนราชินีอย่างโกรธแค้น อยากจะฆ่านางให้ตายเดี๋ยวนี้

“สองปีก่อน ข้าจับได้ว่านางเป็นราชินีตัวปลอม กำลังจะเขียนจดหมายบอกให้ขุนนางผู้รักษาราชโองการคนอื่นรวมไปถึงพวกแม่ทัพเฉิน ไม่คิดว่านางจะจับได้ก่อน หักขาของข้าจนเดินไม่ได้ ทรมานข้าจนไม่เป็นผู้เป็นคน สุดท้ายก็ทิ้งข้าไว้ในถ้ำหมาป่า ต่อมาก็ใส่ร้ายข้า แล้วสั่งประหารทั้งครอบครัวของข้า”

“ถ้าไม่ใช่เพราะข้าโชคดี คงตายอยู่ในถ้ำหมาป่าแล้ว นางเป็นราชินีตัวปลอม นางไม่ใช่ราชินีตัวจริง”

ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ต่างก็เงียบไม่กล้าพูด

พวกเขามองไปยังราชินี นางยังคงไม่สนใจเหมือนเดิม

เหมือนพวกเขาไม่ได้พูดถึงนาง และเป็นเหมือนคนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

หลินเฟยขมวดคิ้วพูด “แค่คำพูดของเจ้าคนเดียว ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่านางไม่ใช่ราชินี และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่านางเป็นลูกสาวของราชินี”

“ตราราชลัญจกรหยกของนางเป็นของปลอม ฝ่าบาทเขียนราชโองการทิ้งไว้หนึ่งฉบับ ขันทีเสี่ยวสวีจื่อบอกว่า วันนั้นเขาหลงทาง เดินไปถึงวังใต้ดินโดยไม่รู้ตัว เห็นนางทรมานราชินีตัวจริง และเห็นราชินีกับนายท่านมู่พบเจอกัน”

“เสี่ยวสวีจื่อล่ะ”