บทที่ 1526 สังเวยเลือด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler

บนท้องฟ้า

ร่างเคลือบแก้วของมู่เฉินยืนตระหง่านพลางมองไปที่เจียงหยาที่ฝังตัวอยู่ในภูเขาอย่างไม่แยแส แขนขวาของเจียงหยาระเบิดออก ท่าทางดูน่าสมเพชมาก

ทว่าเจียงหยาช่างอึดถึกยิ่งนัก แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้แต่ก็ยังมีชีวิตอยู่ มีเพียงเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดหลุดลอดออกมาจากลำคอ

เมื่อเหล่าจอมยุทธ์ในดินแดนวั้นมู่เห็นฉากนี้ พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจมากก่อนที่จะหันไปมองมู่เฉินด้วยความเคารพในแววตา

หมัดของมู่เฉินใกล้เคียงกับระดับเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลาย

นอกเหนือจากฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อแล้ว แม้แต่ประมุขและผู้อาวุโสใหญ่ของห้าเผ่าโบราณยังต้องใช้อาวุธมหสวรรค์ประจำเผ่าช่วยเพื่อต่อต้าน

ในสมรภูมิอื่นเหล่าจอมยุทธ์ก็ตีกรอบล้อมเผ่าเสียหลิงเอาไว้ คุมสถานการณ์ด้วยความได้เปรียบด้านจำนวน พวกเขาบีบให้นักรบเผ่าเสียหลิงจนมุม ป้องกันไม่ให้เข้าใกล้ดินแดนวั้นมู่ได้

เมื่อฉิงเทียน ชิงซันและปู้สื่อเห็นสถานการณ์ถูกควบคุมไว้ได้ ท่าทางก็ดูผ่อนคลายลง

“ไอ้พวกสวะ” จอมปีศาจเซิ่งเทียนสบถอย่างเย็นชากับภาพนี้

“ข้าบอกไปแล้วว่า เผ่าชั้นต่ำเช่นนั้นวางใจไม่ได้” จอมปีศาจเฮยซือเทียนพูดต่อ “จบศึกครั้งนี้ก็ส่งไอ้พวกเผ่าเสียหลิง ให้ข้าเพื่อปรับแต่งเป็นศพปีศาจซะดีกว่า”

ดวงตาของจอมปีศาจเซิ่งเทียนวาบขึ้นด้วยความโหดร้าย “ตอนแรกยังคิดอยู่ว่าถ้าพวกมันบรรลุภารกิจได้สำเร็จ จะนับเผ่าเสียหลิงให้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิปีศาจ แต่ดูเหมือนพวกมันจะโชคไม่ดี”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้พวกมันช่วยเสียสละเพื่อจักรวรรดิปีศาจอีกนิดละกัน”

ทันใดนั้นรอยยิ้มโหดร้ายก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของจอมปีศาจเซิ่งเทียน เขาวาดตราประทับด้วยมือเดียว

ขณะที่จอมปีศาจเซิ่งเทียนสร้างตราประทับ อักขระสีดำก็ปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้วของเจียงหยา เมื่ออักขระเต้นยุบยับก็แทงเข้าไปในกะโหลกศีรษะของเจียงหยา

ความเจ็บปวดรุนแรงมาจากสมองเจียงหยา ทำให้ร่างกายเขาเริ่มสั่นเทิ้มเส้นเลือดพล่านขึ้นในนัยน์ตา ทว่าตอนนี้ความสยดสยองฉายบนใบหน้าของเขา เนื่องจากเขารู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น

“เจียงหยาพานักรบเผ่าเจ้าเสียสละเพื่อจักรวรรดิปีศาจครั้งสุดท้าย ข้าจะจดจำการมีส่วนร่วมของพวกเจ้าไว้ ถ้าทำสำเร็จข้าสัญญาว่าเผ่าเสียหลิงจะไม่เป็นชนชั้นต่ำต้อยอีกต่อไป” เสียงไม่แยแสของเซิ่งเทียนดังก้องอยู่ในสมองของเจียงหยา

เจียงหยาพยายามดิ้นรน แต่สุดท้ายก็หลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง เนื่องจากเขารู้ว่าเมื่อจอมปีศาจเซิ่งเทียนสร้างตราประทับปีศาจใส่ เขาก็หมดสิทธิ์ที่จะตอบโต้

แต่เขาจะทำอะไรได้? ด้วยความแข็งแกร่งของจักรวรรดิปีศาจการทำลายล้างเผ่าเสียหลิงก็เป็นเรื่องง่ายเพียงพลิกฝ่ามือ เพื่อสมาชิกเผ่าคนอื่นๆ เขาได้แต่ก้มหน้ารับชะตากรรมเท่านั้น

“ท่านจอมปีศาจเซิ่งเทียน หวังว่าท่านจะทำตามสัญญา” เจียงหยาตอบ

“แน่นอนอยู่แล้ว”

พร้อมกับเสียงไม่แยแสของเซิ่งเทียน ตราประทับปีศาจที่อยู่ตรงหว่างคิ้วของเจียงหยาก็ดิ้นราวกับว่าเป็นหนอนปีศาจนับไม่ถ้วนมุดเข้าไปในดวงตา

เพียงไม่กี่ลมหายใจดวงตาของเขาก็กลายเป็นสีดำไร้ซึ่งสติปัญญาอีกต่อไป

ในเวลาเดียวกันนักรบเผ่าเสียหลิงก็ตัวแข็งทื่อ เนื่องจากผนึกปีศาจปรากฏขึ้นที่กลางคิ้วของพวกเขาเช่นกัน

ร่างของเจียงหยาเคลื่อนออกมาจากภูเขา เขาลอยอยู่บนท้องฟ้าโดยไม่มีความรู้สึกตัวใดๆ ในสายตา

เมื่อมองภาพนี้คิ้วของมู่เฉินก็ขมวดเข้าหากันพลางรู้สึกไม่สบายใจ รัศมีไร้ขอบเขตรวมอยู่ในหมัด เตรียมพร้อมที่จะทำลายเจียงหยา

แต่ขณะที่กำลังจะออกกระบวนท่า ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงลมกวาดผ่านจากทางด้านหลัง นักรบเผ่าเสียหลิงบินเข้าไปข้างเจียงหยา มือของพวกเขาจับกันเป็นวงกลมโดยมีเจียงหยายืนอยู่ตรงกลาง

“ทุกคนโจมตีพวกมันซะ!”

มู่เฉินหดตาขณะตะโกนไปทางเหล่าจอมยุทธ์ที่พุ่งเข้ามาโดยไม่ลังเลใดๆ

พูดจบ เขาก็เป็นคนแรกที่เคลื่อนไหวเหวี่ยงหมัดออกไป ดวงอาทิตย์พุ่งออกมาปกคลุมร่างนักรบเผ่าเสียหลิง

ขณะที่มู่เฉินปลดปล่อยการโจมตี ตราประทับปีศาจบนร่างนักรบเผ่าเสียหลิงก็ฝังเข้าไปในร่างกายของพวกเขา ร่างก็เริ่มขยายตัวอย่างรุนแรง

ในเวลาเดียวกันความผันผวนป่าเถื่อนก็แทรกซึมออกมาจากร่างกายของพวกเขา

“พวกมันกำลังจะระเบิดตัวเอง!”

บรรดาจอมยุทธ์ที่เข้าใกล้ต่างรู้สึกครั่นครามกับภาพนี้ นักรบเผ่าเสียหลิงล้วนเทียบได้กับระดับเทียนจื้อจุน มิหนำซ้ำยังมีเจียงหยาที่อยู่ในขั้นเซิ่งระยะกลาง

ถ้าพวกมันระเบิดตัวเองจะน่ากลัวขนาดไหน?

แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนขั้นเซิ่งระยะปลายก็ยังต้องเลี่ยงไปให้ไกล!

ดวงตาของมู่เฉินหดลง เขาไม่คิดว่าเผ่าเสียหลิงจะบ้าคลั่งถึงขนาดนี้

ตู้ม!

ทว่าไม่รอให้เขาได้มีความคิดอื่น ทันใดนั้นลำแสงปีศาจก็พุ่งออกมาจากร่างนักรบเผ่าเสียหลิง ร่างเหล่านี้ก็ระเบิดตัว…

เมฆสีดำขนาดมหึมาทรงคล้ายเห็ดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ปกคลุมผืนฟ้าและผืนโลกพร้อมกับคลื่นกระแทกที่น่าสะพรึง แม้ว่ามู่เฉินกับคนอื่นๆ จะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังต้องกระเด็นออกไปจากแรงกระแทก

ฟิ้ว!

ขณะที่เมฆลอยขึ้น ลำแสงปีศาจก็ดิ่งลงมาบนพื้นเจาะทะลวงลงไป ปล่อยพลังที่น่าสะพรึงกลัว ทำลายภูเขาลูกแล้วลูกเล่าให้กลายเป็นหน้ากลอง…

“นรกเอ้ย!”

หัวใจของมู่เฉินสั่นสะท้านกับฉากนี้ เนื่องจากเขาเห็นลำแสงฉีกรูขนาดใหญ่บนตาข่ายและขวางไม่ให้ฟื้นตัว

ตู้ม ตู้ม!

ทั้งดินแดนวั้นมู่สั่นสะเทือนรุนแรง เสียงคำรามดุร้ายดังสะท้อนจากใต้พิภพ รัศมีปีศาจสีดำรวมตัวกันบริเวณรอยฉีกบนตาข่าย

“เร็ว! เร็วเข้า! หมุนค่ายกล เทพปีศาจจักรพรรดิกำลังจะหนีไปแล้ว!” เมื่อหมัวเฮอเทียนและจอมยุทธ์คนอื่นๆ เห็นภาพนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที

คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระเบิดออกเทลงในค่ายกล หอกก่อตัวขึ้นอีกครั้งพุ่งลงมาที่ช่องโหว่ของตาข่าย

โฮก!

เสียงปีศาจหอนก้อง หมอกปีศาจลอยขึ้นไปในอากาศ ขณะที่ผันแปรก็กลายเป็นกะโหลกขนาดใหญ่พลางปะทะกับหอก

ปัง!

การปะทะครั้งใหญ่ทำให้ภูมิภาคสั่นสะเทือน กะโหลกแตกร้าวแต่หอกก็โปร่งใสมากขึ้น แม้ว่าสุดท้ายจะซัดลงในใต้พิภพ ทว่าพลังอ่อนแอกว่าแต่ก่อนมาก

“หืม นั่นอะไรน่ะ?!”

มู่เฉินมองฉากนี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ทันใดนั้นม่านตาก็หดลง เพราะเห็นบนรอยแตกที่พื้นมีเลือดไหลลงสู่ใต้พิภพ

ภายในเลือดเอิบอาบด้วยรัศมีปีศาจ

“นั่นคือแก่นโลหิตปีศาจ! เวรเอ้ย บนร่างนักรบเผ่าเสียหลิงมีแก่นโลหิตจำนวนมาก!” เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ใบหน้าของเหล่าจอมยุทธ์ก็เขียวคล้ำพลางคำราม

“พวกมันพยายามใช้แก่นโลหิตเพื่อฟื้นฟูพลังของเทพปีศาจจักรพรรดิ!”

ใบหน้าของมู่เฉินเคร่งขรึมอย่างน่ากลัวขณะพุ่งตัวลงไป ในเวลาเดียวกันเขาก็อ้าปาก เพลิงสีม่วงพุ่งออกมาก่อนที่จะเริ่มแผดเผาแก่นโลหิตเหล่านี้

แต่เมื่อมู่เฉินเคลื่อนไหว ดวงตาชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นในเหวจับจ้องไปที่มู่เฉิน

“กลิ่นแมลงสาบของแกทำให้ข้าขยะแขยง ไสหัวไป!”

เสียงปีศาจแหลมคมดังก้องออกมาพร้อมกับรัศมีปีศาจน่าสะพรึงกระทบบนร่างกายของมู่เฉิน

ปัง!

ด้วยแรงปะทะทุกข์ทรมาน มู่เฉินถลาออกไปพร้อมกับรอยเลือดที่มุมปาก ใบหน้าเขาฉาบความหวาดผวา เขาไม่คิดว่าหลังจากหลอมรวมกับร่างมหาเทพนิรันดร์แล้ว ก็ยังไม่สามารถรับลมหายใจปีศาจได้แม้แต่ครั้งเดียว

ฟู่ ฟู่

พายุปีศาจเย็นเยียบพัดมาดับเพลิงม่วงไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันแก่นโลหิตเหล่านั้นก็ฝังตัวลงไปในพื้นโลก เหมือนจะมีปากมหึมากลืนกินเข้าไปทั้งหมด

เมื่อเทพปีศาจจักรพรรดิกลืนกินเลือดกลั่นเข้าไป ดินแดนวั้นมู่ก็โยกคลอนรุนแรง ราวกับว่าใกล้จะพังทลาย

“เสริมคลื่นหลิงลงไป! อย่าปล่อยให้เทพปีศาจจักรพรรดิหนีพ้นไปได้!” หมัวเฮอเทียนคำรามขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ

ทว่าเมื่อสิ้นเสียงคำรามของพวกเขา เสาปีศาจขนาดมหึมาก็ทะยานขึ้นจากช่องโหว่ของตาข่าย รัศมีปีศาจสร้างหายนะพร้อมกับแรงกดดันปีศาจที่ไม่สามารถอธิบายได้แผ่ออกมา

ปัง ปัง ปัง!

โลงศพสัมฤทธิ์บางส่วนถูกกระทบและระเบิดออก รัศมีปีศาจกวาดล้างเหล่าจอมยุทธ์ที่นั่งอยู่ ไม่รอให้พวกเขาร้องเสียงหลง เลือดของพวกเขาก็ถูกดูดจนแห้งกรัง ร่างสลายเป็นฝุ่น…

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า!”

ใบหน้าเหล่าจอมยุทธ์ถอดสี รัศมีปีศาจในเสากลั่นตัวเป็นรูปร่างคลุมเครือ เมื่อยืนอยู่บนท้องฟ้าร่างพร่ามัวนั้นก็ทำให้ทั้งสวรรค์และโลกมืดลงพร้อมกับแรงกดดันที่อธิบายไม่ได้กลืนกินทุกสรรพสิ่ง เมื่อมองจากระยะไกลก็ประหนึ่งเทพปีศาจยาตรามาเลยทีเดียว

เสียงหัวเราะเสียดแทงดังก้องไปทั่วภูมิภาค ร่างนั้นมองไปที่ค่ายกลดับแสงพันปีศาจ เสียงของเขาดังก้องออกไปนอกดินแดนวั้นมู่ กระจายไปยังทวีปโดยรอบ…

“เทพจักรพรรดินิรันดร์ความพยายามทั้งหมดของแกล้มเหลวหลังจากผ่านไปสี่หมื่นเก้าพันปี สุดท้ายข้าคือผู้ชนะ!”