ภาค 9 หนึ่งกระบี่ปราบโกลาหลในใต้หล้า บทที่ 882 สังหารให้หมดสิ้น!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ผู้วิเศษเซิงที่เคยสยบทะเลหวงเจีย กลับมากวาดล้างหอกระบี่ทะเลเหนือ เกาะมนุษย์สำริด และสำนักความมืด ใช้อำนาจบาตรใหญ่ในทะเลหวงเจียดุจดั่งภัยพิบัติสวรรค์ในไม่กี่ปีมานี้ วันนี้ถูกเยี่ยนจ้าวเกอฆ่าทิ้งที่เขากว่างเฉิง!

ท่ามกลางเสียงกู่ร้อง การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดลง ชายหนุ่มยกมือขึ้นใช้รอยตราพลิกนภากระแทกใส่นักพรตสือ

บนร่างของนักพรตสือมีแสงสว่างขึ้น ค่ายกลค่ายแล้วค่ายเล่าปรากฏขึ้นมา

ลวดลายค่ายกลขยายออกกลางอากาศอย่างรวดเร็ว ปกคลุมแผ่นฟ้า จากนั้นก็ทับซ้อนกัน ปกป้องเขาไว้เบื้องล่าง

กระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอไปถึงทั่วทุกที่ สภาวะกระบี่แปรเปลี่ยนครั้งหนึ่ง สับไปมาระหว่างกระบี่ลวงเซียนและกระบี่สังหารเซียนอย่างอิสระ

กระบี่ลวงเซียนที่ทำลายมิติกลายเป็นกระบี่สังหารเซียนที่ทำลายทุกสรรพสิ่งได้ในอึดใจเดียว

ประกายสีแดงสูญสลาย ปราณสีขาวปรากฏแวบขึ้น

ปราณกระบี่สังหารเซียนสีขาวโพลนกระจัดกระจาย สภาวะดุจทำลายไม้ไผ่ ค่ายกลมากมายที่ทับซ้อนกันหลายชั้นเริ่มพังทลายลง

เยี่ยนจ้าวเกอเอียงฝ่ามือ พลันกระแทกลวดลายค่ายกลที่แหลกสลายเหล่านั้นให้สลายราวฝุ่นควัน

เต่าปูลูที่อยู่ด้านล่างนักพรตสือแม้จะรู้สึกได้ถึงความหวาดกลัว ทว่าก็ยังลอยขึ้นมา ใช้กระดองอันหนาหนักของตัวเองช่วยปรมาจารย์ค่ายกลป้องกัน

ลำแสงสีดำแดงส่องระยิบระยับ กลายเป็นกำแพงแสงมากมาย กอปรกันเป็นข่ายอาคมกระดองเต่าอันใหญ่ยักษ์ผืนหนึ่ง มีพลังน่าทึ่งยิ่ง

ทว่าฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดลง ข่ายอาคมกระดองเต่าก็ปรากฏรอยร้าวถี่ยิบในทันที

“เปิด!” เยี่ยนจ้าวเกอตวาด เพิ่มแรงฝ่ามือ พลังอันยิ่งใหญ่ที่พลิกเปลี่ยนทิศทางพลิกคว่ำฟ้าดิน กดดันให้ข่ายอาคมกระดองเต่าค่อยๆ แหลกสลาย

รอยตราพลิกนภาซึ่งน่าพรั่นพรึงสุดเปรียบปาน ระเบิดบนหลังเต่าปูลูอย่างหักโหม

กระดองเต่าที่แข็งแกร่งสั่นไหวครั้งหนึ่ง ทว่าก็ไม่ได้แตกร้าวในทันที

ทว่าเต่าปูลูตัวนั้นส่งเสียงร้องโหยหวน เลือดพุ่งออกมาจากทวารทั้งเจ็ด!

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ บินขึ้นด้านบน ไม่สนใจเต่าตัวนั้นอีก

เสวียนเฉิงอ๋องยามนี้ทรงรวบรวมสมาธิ ติดตามมาอย่างรวดเร็ว แม้ว่าเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ไม่อาจใช้ต่อสู้ได้อีก ทว่าพระองค์ก็ยังบากพระพักตร์พุ่งเข้ามาช่วยนักพรตสือ

เมื่อไม่มีความได้เปรียบจากชัยภูมิ พลังของนักพรตสือก็ยิ่งมีจำกัด แม้แต่พวกเฮ่อตงเฉิงกับกู้จางก็ยังเทียบไม่ติด

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะอย่างประหลาดพิกล ไม่ได้ปะทะกับเสวียนเฉิงอ๋อง เขาชักกระบี่ลวงเซียนออกมา ก่อนจะมีแสงสีแดงกะพริบ แล้วย้ายไปอยู่ที่อื่น

ส่วนสภาวะดาบอันน่าพรั่นพรึงชนิดฟันฟ้าขยี้ดินของเยี่ยนตี๋ ก็พุ่งใส่พวกเสวียนเฉิงอ๋องและนักพรตสือดุจดั่งภูเขาไท่ซานกดทับศีรษะ

ชายหนุ่มวูบไหวร่าง ขวางฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อแทนเยี่ยนตี๋

“อาวุธเซียนตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ข้ามีของอย่างอื่นจะมอบให้ท่าน” เยี่ยนจ้าวเกอมองฆราวาสเด็ดดาวกวนลี่เต๋อที่อยู่ด้านหน้า พร้อมกับกล่าวด้วยรอยยิ้มผ่าเผย

กวนลี่เต๋อมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ท่านคือเยี่ยนจ้าวเกอ? ไม่ธรรมดาจริงๆ แต่คิดจะครอบครองอาวุธเซียนที่จักรพรรดิประกายกาฬทิ้้งเอาไว้ ข้าท่านยังห่างชั้นนัก”

เขากางมือออก แล้วสะบัดนิ้วทั้งห้า เหมือนกับดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งผ่านท้องฟ้า

ดาวแต่ละดวงต่างมีแบบแผนและเส้นทางเป็นของตัวเอง งดงามเหลือประมาณ

ตอนแรกแม้ว่ากวนลี่เต๋อจะอาศัยความได้เปรียบของระดับพลังฝึกปรือ ใช้สภาวะกดดันคน ทว่าวิถีวรยุทธ์ก็ไม่ได้หยาบกระด้างขนาดนั้น

หัตถ์เด็ดดาววรยุทธ์ของเขา มีพร้อมทั้งความยิ่งใหญ่และความปราดเปรียว

ในตอนนี้ดาวตกกลุ่มนั้นบันดาลให้มิติที่กวนลี่เต๋ออยู่ดูราวกับกลายเป็นมิติจักรวาล

“คนที่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลาผู้นั้นมีพลังไม่ธรรมดาจริงๆ แม้ข้าอยากเอาชนะเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย”

กวนลี่เต๋อกล่าวอย่างเย็นชา “แต่ถ้าหากท่านคิดว่า ท่านสามารถฆ่าเขาได้ จึงสามารถเอาชนะข้าได้เช่นกัน ข้าว่าท่านออกจะได้ใจมากเกินไปแล้ว”

“ข้าไม่มีทางถูกกระบี่ลวงเซียนของท่านกดข่มหรอก”

เยี่ยนจ้าวเกอฟาดกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือใส่มงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันที่อยู่บนศีรษะของเขา ทว่าก็ยากจะจับเงาร่างของกวนลี่เต๋อ

ประกายกระบี่สีแดงของกระบี่ลวงเซียนสาดไปทั่วบริเวณ กระนั้นแสงของดวงดาวเต็มท้องฟ้าก็รวมกัน กั้นเยี่ยนจ้าวเกอไว้ด้านนอก

ด้านในทะเลดาวยิ่งมีดาวตกร่วงหล่น พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างหักโหม

ชายหนุ่มเปลี่ยนสภาวะกระบี่ กระบี่ลวงเซียนกลายเป็นกระบี่สังหารเซียน ปราณกระบี่สีขาวเติมเต็มทั่วบริเวณ ฟันดาวตกเหล่านั้น

ตราประทับตะวันลอยสูง อยู่ในทะเลดาวนี้ราวกับศูนย์กลางของจักรวาล

ทว่าขณะที่ฟากฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวเคลื่อนย้าย ก็มีแสงดาวสีทองที่ละลานตาถึงขีดสุดปรากฏขึ้น ขวางเส้นทางของตราประทับตะวัน เป็นแสงสว่างจากมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวัน อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงที่กวนลี่เต๋อครอบครองอยู่นั่นเอง

เสียงของกวนลี่เต๋อดังขึ้นทั่วบริเวณ “กระบองไม้ไผ่ของท่านไม่อาจกระทบถูกมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันของข้าได้ แม้ว่าท่านจะมีของวิเศษอย่างตราประทับตะวัน เมื่อแสดงพลังที่อยู่ด้านในออกมาถึงขีดสุดไม่ได้ แล้วจะทำอะไรข้าได้”

ขณะที่พูด ทะเลดาราที่กระจายอยู่ทั่วก็ค่อยๆ ถูกย้อมด้วยสีทองชั้นหนึ่ง

ฝนดาวตกสีทองปรากฏขึ้นเต็มไปหมด มิติทั้งมิติล้วนถูกกระแทกจนเป็นรูพรุน

นี่เป็นการประสานระหว่างจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย กับพลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงชิ้นหนึ่ง กล้าแข็งถึงขีดสุด

การโจมตีกินพื้นที่กว้าง แต่ไม่ว่าจะเป็นดาวตกสีทองด้านในดวงไหน ล้วนทำลายยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดได้ทั้งสิ้น

ฝนดาวตกที่มีขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้หล่นลง ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดหากไม่มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงคอยคุ้มครอง ก็ทนทานไม่ไหวเช่นกัน!

“เสียดายที่พวกท่านพ่อลูกล้วนเป็นอัจฉริยะฟ้าประทาน มีพลังฝึกปรือไม่ธรรมดา ข้าจะชี้แนะทางสว่างให้แก่พวกท่าน” กวนลี่เต๋อเอ่ยอย่างเฉื่อยชา “เมื่อฝึกสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน โลกซ้อนโลกก็ไม่มีที่ให้ท่านอยู่อีกแล้ว ฉวยโอกาสตอนนี้รีบมอบอาวุธเซียนให้แก่ข้า แล้วหนีเอาชีวิตรอดเถอะ”

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ ดึงตราประทับตะวันกลับมาไว้บนศีรษะของตัวเอง ก่อนจะกางม่านแสงอาทิตย์ออก ขวางการโจมตีจากฝนดาวตกสีทอง

ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นพลังที่กล้าแข็งและเป็นหยางถึงขีดสุด ปะทะกันไม่หยุดยั้ง

ชายหนุ่มใช้กระบวนท่ากระบี่สังหารเซียนออกมา ประสานกับตราประทับตะวัน รับการโจมตีจากกวนลี่เต๋อ

“คนที่กล้ามาบุกเขากว่างเฉิงของข้าในวันนี้ อย่าหมายคิดหนีแม้แต่คนเดียว” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าจะฝึกฝนสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนหรือไม่ ยังสำคัญอีกหรือไร”

เขาใช้มือซ้ายกระตุ้นท่าดัชนีหยินหยาง เคลื่อนย้ายดาวตกสีทองที่ร่วงหล่นจากทองฟ้าไปทางเสวียนเฉิงอ๋องและนักพรตสือที่อยู่ด้านข้าง

ณ ที่แห่งนั้น บรรพบุรุษแห่งราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋องสองคนที่สูญเสียเกราะห้าอัคคีเจ็ดวิหคและเต่าปูลู กำลังเผชิญกับการโจมตีสะท้านฟ้าสะเทือนดินของเยี่ยนตี๋ เกือบเอาชีวิตไม่รอดอยู่แล้ว!

ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายซัดโหมฟ้าดิน แม้แต่ทางถอยของพวกเขาก็ถูกปิดตายไปด้วย!

กวนลี่เต๋อกระชากเสียง “เด็กน้อยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

เขางอฝ่ามือเป็นกรงเล็บ ดวงดาวหมุนเวียน ต้านทานดัชนีหยินหยางของเยี่ยนจ้าวเกอไว้

นี่กลับเป็นการเปลี่ยนแปลงจากวิชาดาราเคลื่อนย้ายในวรยุทธ์หัตถ์คว้าดาวของเขา มีความน่าอัศจรรย์เหมือนกับดัชนีหยินหยางอยู่ในระดับหนึ่ง

แม้จะไม่พิเศษเท่าดัชนีหยินหยาง ทว่ากวนลี่เต๋อก็มีระดับพลังฝึกปรือเหนือกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ จึงสามารถควบคุมให้กลุ่มดาวปฏิเสธดัชนีหยินหยางได้

ในขณะเดียวกัน ทะเลสาบดวงดาวก็ไหลเวียน หมายจะสั่นไหวตราประทับตะวัน เพื่อให้ตราประทับตะวันหลุดไปจากศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ

ฝนดาวเหลือคณานับโคจรบนท้องฟ้า กลายเป็นวังวนยักษ์ แสงดาวสว่างไสว

วังวนกระจายไปทั่วทุกที่ กลืนกินทุกสิ่ง ทำลายทุกอย่าง กวาดล้างฟ้าดิน!

มิติเวลาราวกับสูญเสียความหมายไปในวินาทีนี้

กวนลี่เต๋อที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ากำลังโจมตีสุดกำลัง หมายจะจัดการเยี่ยนจ้าวเกอให้เร็วที่สุด

ไม่เช่นนั้นหากรอจนเยี่ยนตี๋จัดการพวกเสวียนเฉิงอ๋องที่อยู่อีกทางได้สำเร็จ เขาก็จะมาผนึกกำลังกับเยี่ยนจ้าวเกอเพื่อสู้กับตนแล้ว

กวนลี่เต๋อเห็นแล้ว ว่าหลังจากเยี่ยนตี๋ใช้ร่างมหาเซียนปัญจธาตุฝืนรับหอกของเสวียนเฉิงอ๋อง ดาบสวรรค์มังกรทะยานในมือก็ฟันใส่พระวรกายของเสวียนเฉิงอ๋องอย่างดุดัน!

“แต่…” กวนลี่เต๋อผลักสองมือออกพร้อมกัน กดดันลงล่าง วังวนทะเลดาวที่น่าสะพรึงนั้นโถมเข้าใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างหักโหม “ข้าก็เร็วกว่า!”

วังวนทะเลดาวบรรลุถึงเหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ แล้วระเบิดออกอย่างสะเทือนเลือนลั่น!

เหมือนกับดวงดาวรวมตัว แล้วบิดเบี้ยวถึงขีดสุด กลืนกินตัวตนทุกอย่างในมิติ ก่อนจะระเบิด!

อานุภาพที่น่าตกตะลึงนั้น ถึงกับมีสภาวะอันน่ากลัวราวกับการถล่มลงของความโกลาหล และการระเบิดครั้งใหญ่ของจักรวาลอยู่หลายส่วน!

ดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอกลับสาดประกายเย็นเยียบ

เขาหัวเราะเหอะๆ “ครั้งนี้ท่านหนีไม่พ้นแล้ว”

ชายหนุ่มเก็บกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้า จากนั้นก็ยื่นสองฝ่ามือออกไปบนศีรษะ

………………..