ตอนที่ 2394

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,394 : ทยอยกันเข้าไปในแดนลับต่างสวรรค์

 

 

 

กุญแจเปิดแดนลับต่างสวรรค์นั้น มีทั้งสิ้น 5 ดอก และแยกย้ายกระจัดกระจายกันไปในระนาบโลกียะที่แตกต่างกัน 5 ระนาบ

 

ตราบใดที่พบกุญแจและใช้มัน จะปรากฏทางเข้าออกของแดนลับต่างสวรรค์ขึ้น

 

แน่นอนว่าก่อนที่กุญแจทั้งหมดจะถูกเปิดใช้งาน ดอกไหนที่ใช้ไปแล้ว…ทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์แม้เปิดออกทว่าจะมีม่านพลังฉาบเอาไว้ไม่ให้ผู้ใดล่วงล้ำเข้าไป…

 

มีเพียงกุญแจทุกดอกเปิดใช้งานเท่านั้น ม่านพลังที่ฉาบคลุมทางเข้าออกแดนลับต่างสวรรค์เอาไว้จะหายไป…และในเมื่อตอนนี้อยู่ๆม่านพลังฉาบทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์ในอีก 4 ระนาบโลกียะพลันอันตรธานหายไปอย่างพร้อมเพรียง…

 

ย่อมหมายความว่า กุญแจเปิดทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์ได้ถูกใช้หมดแล้ว!

 

และคราวนี้กุญแจเปิดแดนลับต่างสวรรค์ที่ต้วนหลิงเทียนใช้ มันก็คือกุญแจเปิดแดนลับต่างสวรรค์ดอกสุดท้ายที่ยังไม่ได้ใช้งานนั่นเอง…

 

พอต้วนหลิงเทียนเปิดใช้มัน แดนลับต่างสวรรค์จึงเปิดออกอย่างสมบูรณ์!

 

แน่นอนว่าต้วนหลิงเทียนในปัจจุบันย่อมไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย

 

ณ หุบเขาแห่งหนึ่งในภาคเหนืออันหนาวเหน็บ

 

“แดนลับเซียนกระบี่…ในที่สุดก็เปิดออกเสียที! คราวนี้ 7 ทวาราเที่ยงแท้ของพวกเราจักหวนคืนสู่ความยิ่งใหญ่ครั้งในอดีต!”

 

มองไปยังหลุมดำเบื้องหน้า ผู้เฒ่าพยากรณ์ก็แลดูตื่นเต้นจริงจังนัก!

 

ในฐานะผู้สืบทอดความลับสวรรค์รุ่นก่อน และเป็นผู้ที่มีลำดับอาวุโสสูงที่สุดในตอนนี้ มันย่อมตื่นเต้นยิ่งกว่าใครเมื่อพบว่าในที่สุด 7 ทวาราเที่ยงแท้ก็มีความหวังแล้ว…ความหวังที่จะหวนกลับไปยิ่งใหญ่ดั่งในอดีต!

 

เรียกว่าพอเห็นแดนลับเซียนกระบี่เปิดออกตรงหน้า ประหนึ่งมันได้เห็นช่องทางอันนำไปสู่อนาคตที่สดใส ยังทำราวกับได้เห็น 7 ทวาราเที่ยงแท้ที่เข้าไปแล้วกลับออกมาแต่ละคน ทะยานขึ้นฟ้าในคราเดียว…!

 

อนิจจามันไม่ได้รู้เลย

 

หลุมดำมหึมาตรงหน้าหาใช่ทางเข้าแดนลับเซียนกระบี่อันใด หากแต่เป็นประตูเข้าสู่แดนลับต่างสวรรค์!

 

นอกจากนั้น ทุกกสิ่งทุกอย่างด้านในยังไม่ใช่อะไรที่ฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้!

 

ที่สำคัญผู้ที่เข้าไปได้ไม่ใช่แค่คนกลุ่มเดียว กระทั่งไม่ใช่แค่คนในระนาบโลกียะแห่งเดียว…ยังมียอดฝีมือทั้งหลายจากระนาบโลกียะอื่นๆอีกด้วย!

 

ที่สำคัญที่สุด ยอดฝีมือในระนาบโลกียะอื่นๆ ก็มีจำนวนมหาศาลนัก!

 

ในระนาบโลกียะอื่นๆเมื่อรู้ว่าทางเข้าแดนลับต่างสวรรค์ได้เปิดออก ผู้คนมากมายหลายพันก็ได้แห่กันมาจากทั่วสารทิศ…

 

ในบรรดาคนเหล่านี้ก็มีเซียนอมตะเสเพลที่ทรงพลังมากมาย

 

“ซานเตา หลุมดำที่เห็นสมควรเป็นทางเข้าแดนลับเซียนกระบี่…อาจารย์ลุงพยากรณ์กล่าวไว้ว่า จากบันทึกที่ 7 ทวาราเที่ยงแท้บอกเล่าสืบต่อกันมา ผู้ที่มีอายุเกินร้อยปีสมควรเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ไม่ได้ เจ้าลองเข้าไปดูว่าเรื่องที่กล่าวบอกต่อกันมาในบันทึก 7 ทวาราเที่ยงแท้ใช่เป็นความจริงหรือไม่”

 

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองกล่าวกับเฉินอี้หรู

 

“ขอรับนายท่านน”

 

เฉินอี้หรูพยักหน้าขานรับ ก่อนที่จะเหินร่างไปยังหลุมดำ

 

เมื่อร่างมันเหินมาถึงเบื้องหน้าหลุมดำ มันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังอันน่ากลัว

 

กลิ่นอายพลังน่กลัวที่ว่ามาจากวังวนพลังอันร้ายกาจรอบๆหลุมดำ!

 

มันมีความรู้สึกว่าหากมันเผลอไปแตะถูกกวังวนพลังบริเวณขอบหลุมดำซี้ซั้ว มันอาจจะถูกพลังมหาศาลป่นร่างจนสาบสูญไปจากสวรรค์และโลกทันที!!

 

“ดูเหมือน…มันจักมิขับไล่ข้า”

 

เฉินอี้หรูที่เข้าใกล้หลุมดำมากขึ้นทุกขณะ ก็ไม่พบว่าจะมีพลังใดผลักไสมันออกไปเลย ยิ่งมาความกล้าของมันก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างค่อยๆเคลื่อนไปข้างหน้า สุดท้ายก็หยุดลงเบื้องหน้าหลุมดำ

 

ครู่ต่อมามันก็ลองยืนมือข้างหนึ่งเข้าไปในหลุมดำ ก็พบว่ามือมันสามารถจมหายลงไปได้อย่างไร้ติดขัด

 

“นายท่าน ข้าน่าจักเข้าไปได้ขอรับ…ตอนนี้ข้ายังสัมผัสได้ถึงพลังดูดรั้งประการหนึ่ง แถมยิ่งมายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับมันจะดูดข้าเข้าไปให้ได้”

 

ขณะที่กล่าวเรื่องนีร่างเฉินอีหรูที่ลอยอยู่หน้าหลุมดำในตอนแรกตอนนี้ก็ได้ถูกพลังดูดรั้งในหลุมดำดูดเข้าไปเกือบครึ่งตัวแล้ว!

 

“งั้นเจ้าเข้าไปก่อนเลย”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้า ขณะเดียวกันก็ยินดีกับเฉินอี้หรู

 

เพราะสุดท้ายแล้วในฐานะเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ การได้เข้าสู่แดนลับเซียนกระบี่ที่อาวุโสฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้ ก็น่าจะได้รับประโยชน์ไม่น้อย

 

“นายท่าน เช่นนั้นข้าจักเข้าไปรอท่านด้านในขอรับ”

 

ก่อนที่ร่างเฉินอี้หรูจะถูกหลุมดำดูดจนจมหายไปทั้งตัว มันก็มีเวลาเพียงกล่าวประโยคนี้เท่านั้น

 

สำหรับคนอื่นๆที่อยู่ในจุดเกิดเหตุ จนเมื่อร่างเฉินอี้หรูจมหายไปทั้งตัวจึงค่อยฟื้นสติ

 

“อ่าว…ไม่ใช่ว่าต้องมีอายุน้อยกว่า 100 ปีรึไรถึงจะเข้าแดนลับเซียนกระบี่ได้…แต่ข้ารับใช้ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นเหมือนจะเป็นเซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์มิใช่รึไง? แล้วไฉนเฒ่าประหลาดที่สมควรมีอายุไม่น้อยกว่า 5,000 ปีเช่นมันกลับเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ได้เล่า?”

 

หนานกงยี่โพล่งถามออกมาด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

“นิ…นี่มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”

 

ผู้เฒ่าพยากรณ์เองก็งุนงงไม่น้อยเช่นกัน

 

เพราะจากคำเตือนที่สืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ได้กล่าวบอกไว้อย่างชัดเจนว่า…มีเพียงผู้ที่อายุไม่ถึง 100 ปีเท่านั้นจึงจะเข้าไปได้!

 

ที่สำคัญคือคำเตือนเหล่านี้ไม่ใช่คนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้กล่าวเพิ่มเติมภายหลัง แต่เป็นคำเตือนที่ออกมาจากปากของฟงชิงหยางเอง…

 

“บางที…การจำกัดอายุคงใช้กับเซียนอมตะเสเพลไม่ได้ผล?”

 

ตอนนี้เองต้วนหลิงเทียนพลันกล่าวคาดเดาออกมา “วิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบอายุผู้คน ก็คือการตรวจสอบอายุกระดูกไม่ใช่วิญญาณ…อาจเป็นเพราะร่างของเซียนอมตะเสเพลแตกต่างจากร่างมนุษย์ปกติ จึงอยู่นอกเหนือข้อจำกัดดังกล่าว”

 

อันที่จริงต้วนหลิงเทียนกล่าวถูกแล้ว

 

แดนลับเซียนกระบี่ในสายตาพวกเขา หรือแดนลับต่างสวรรค์ในสายตาผู้รู้ อันที่จริงไม่ได้จำกัดเหล่าเซียนอมตะเสเพลไม่ให้เข้าไป และผู้ที่อายุเกิน 100 ปีแต่เข้าไปได้…ก็ล้วนเป็นเซียนอมตะเสเพลหมดทั้งสิ้น!

 

เพราะหากไม่ใช่เซียนอมตะเสเพล ถ้ามีอายุเกิน 100 ปี ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเข้าไปในแดนลับต่างสวรรค์!

 

กล่าวได้ว่า…

 

ตอนนี้ผู้ที่สามารถเข้าไปในแดนลับต่างสวรรค์ได้ หากไม่ใช่ตัวประหลาดเฒ่าอายุเป็นพันๆปีอย่างพวกเซียนอมตะเสเพล ก็มีเพียงชนชั้นรุ่นเยาว์อัจฉริยะเท่านั้น…

 

เพราะสุดท้ายแล้วการเข้าไปในแดนลับต่างสวรรค์ หากพลังฝึกปรือไม่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนก็ไม่ต่างอะไรจากเข้าไปหาที่ตาย!

 

“เฮ่ เจ้าต้วน…พวกเราพี่น้องเข้าไปลุยก่อนนะ เจ้าเองก็รีบตามมาล่ะ!”

 

ตอนนี้เองหนานกงยี่ก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงคึกคักกล่าวบอกต้วนหลิงเทียน ก่อนที่จะเหินร่างทะยานเข้าหลุมดำไปพร้อมหนานกงเฉิน

 

“อาจารย์ลุงพยากรณ์ ระยะเวลาในการเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่ตามปกติมันอยู่ที่เท่าไหร่?”

 

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองถามชายชรา

 

“เห็นว่า 10 ปี…”

 

ผู้เฒ่าพยากรณ์กล่าวตอบ และนี่เป็นคำพูดจากปากฟงชิงหยางที่สืบทอดกันมาในบันทึกจากสมัยนั้นอีกด้วย…

 

“10 ปี…”

 

ต้วนหลิงเทียนหันไปมองก่านหรูเยี่ยนทันทีที่ได้ยินคำตอบของผู้เฒ่าพยากรณ์ และเขาก็พบว่า

 

สองตาของก่านหรูเยี่ยนพลันทอประกายจ้าขึ้นมาวับวาว หลังได้ยินคำตอบของผู้เฒ่าพยากรณ์

 

ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็เอ่ยขึ้นกับก่านหรูเยี่ยนว่า “ด้วยศักยภาพของเจ้าตอนนี้ คิดทะลวงให้ถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนอย่างมากก็ใช้เวลาแค่ปีสองปี…”

 

“พอถึงตอนนั้นเจ้าก็ตัดสินใจเอาเองเลยว่าจะเข้าไปหรือไม่เข้าไป…แต่ข้ารู้สึกว่าหากเป็นผู้ที่มีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน แม้เข้าไปจะไม่ถึงกับต้องตายแน่นอน แต่ให้กล่าว 9 ตาย 1 รอด ก็ไม่น่าจะเกินเลย…”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวเตือน วาจาท้ายประโยคยังมีน้ำเสียงจริงจังนัก

 

“แล้วไฉนคู่แฝดหนานกงที่มีพลังฝึกปรือแค่ เซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนถึงเข้าไปได้ แต่ทำไมพอเป็นข้าบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนบ้างจะเข้าไปไม่ได้?”

 

ก่านหรูเยี่ยนกล่าวออกมาเสียงแข็ง “คอยดูเถอะ ข้าทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนเมื่อไหร่ข้าจะเข้าไปทันที!”

 

“แม่นางหรูเยี่ยน…”

 

ตอนนี้เองผู้เฒ่าพยากรณ์ได้หันไปมองก่านหรูเยี่ยนพลางกล่าวว่า “ที่ผู้นำกล่าวกับเจ้าแบบนั้นล้วนแล้วแต่หวังดีและเป็นห่วงความปลอดภัยของเจ้า…คู่แฝดหนานกงนั้นต่างมีภาระหน้าที่ในกอบกู้ชื่อเสียงของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ทำให้แม้หนทางเบื้องหน้าจักเป็นภูเขามีดทะเลไฟ พวกมันก็ยินดีตะลุยฝ่า…”

 

“เพราะนั่นมิใช่แค่เพียงความรับผิดชอบต่อฐานะของพวกมัน ยังป็นภารกิจชั่วชีวิตของพวกมันอีกด้วย…”

 

ขณะกล่าวถึงท้ายประโยค สีหน้าท่าทีของผู้เฒ่าพยากรณ์ก็เคร่งขรึมจริงจังนัก

 

ครู่ต่อมาความเคร่งขรึมจริงจังบนใบหน้าผู้เฒ่าพยากรณ์ก็ค่อยๆคลี่คลาย “แต่แม่นาง เจ้านั้นต่างออกไป…เจ้ามิได้เกี่ยวข้องอันใดกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้ของพวกเรา…ในแดนลับเซียนกระบี่สมควรเต็มไปด้วยอันตราย ข้าก็ขอแนะนำแม่นางว่าต่อให้ทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนแล้ว เจ้าก็อย่าได้เสี่ยงเข้าไปเลย…”

 

“ฮึ! ใครบอกว่าข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ 7 ทวาราเที่ยงแท้เล่าลุง!?”

 

ก่านหรูเยี่ยนขมวดคิ้ว พลางหันไปมองเค่อเอ๋อเอ่ยออกมา “ผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ของท่านเป็นน้องเขยข้า…และข้าในฐานะพี่สาวภรรยาของมัน ไหนเลยจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อกับการช่วยฟื้นฟู 7 ทวาราเที่ยงแท้? ไม่รู้ล่ะ ข้าทะลวงถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนข้าจะพุ่งเข้าไปเลย!!”

 

เนื่องจากได้รู้จักกับสตรีทั้งหลายของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ไม่ว่าจะเป็นเฟิ่งเทียนหวู่ หรือหานเฉวี่ยไน่ รวมถึงมู่อีอี ความรู้สึกหยิ่งผยองถือดีของก่านหรูเยี่ยนครั้งยังอยู่ในลัทธิบูชาไฟก็ไม่มีเหลืออยู่อีกเลย

 

เหลือก็แต่ความอยากเอาชนะตามธรรมชาติของมนุษย์เท่านั้น! ในเมื่อพบเห็นโอกาสที่จะทำให้นางแข็งแกร่งขึ้นได้วางอยู่ตรงหน้า นางไฉนจะไม่คว้า?!

 

แดนลับเซียนกระบี่!

 

นั่นมันแดนลับที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางเหลือทิ้งไว้เชียวนะ!!

 

และเซียนกระบี่ฟงชิงหยางนั่นก็คือตัวตนครึ่งก้าวเซียนอมตะที่เข่นฆ่าสังหารได้กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 8 ทัณฑ์ กระทั่งยังสู้กับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้!

 

ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าดูเหมือนว่าจะมีแต่ฟงชิงหยางเท่านั้น ที่ทำอะไรแบบนี้ได้!

 

ในเมื่อนี่คือแดนลับที่ตัวตนเช่นนั้นเหลือไว้ นางจะพลาดไปได้อย่างไร!!

 

“เอาล่ะ เจ้าอยากเข้าก็เข้าไปเถอะ…แต่ระวังให้มากเข้าล่ะ ปลอดภัยไว้ก่อน”

 

ต้วนหลิงเทียนเองก็ไม่ได้รู้จักก่านหรูเยี่ยนแค่วันสองวัน แม้จะไม่ได้สนิทชิดเชื้อกันซักเท่าไหร่ แต่เขาก็รู้นิสัยของก่านหรูเยี่ยนไม่น้อย จึงทำให้เขารู้ดีว่าลองก่านหรูเยี่ยนตัดสินใจไปแล้วก็ยากที่นางจะเปลี่ยนแปลงได้

 

อย่างไรก็ตามเขายังกล่าวเตือนก่านหรูเยี่ยนออกไป

 

“ถึงตอนนั้นข้าจะเข้าไปพร้อมหรูเยี่ยนเอง”

 

ตอนนี้เองผู้พิทักษ์ชิงหั่วพลันกล่าวออกมาอย่างประจวบเหมาะ

 

หากมีมันเพียงลำพัง แม้จะบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนก็คงไม่กล้าเสี่ยงเข้าไปในแดนลับเซียนกระบี่แน่นอน…

 

เพราะด้วยวัยของมัน ย่อมรู้ซึ้งถึงคุณค่าชีวิตดี…

 

อนิจจาสำหรับศิษย์สตรีนางนี้มันเห็นอีกฝ่ายไม่ต่างใดจากลูกสาวแท้ๆ จึงคิดที่จะเข้าไปช่วยเหลือดูแลด้วยหัวอกของคนเป็นพ่อตามธรรมชาติ

 

หากศิษย์ปิดสำนักนางนี้ตายตกไป และเป็นมันไม่ได้ติดตามไปช่วยเหลือนางทั้งๆที่มีโอกาส ต่อให้หลังจากนี้มันจะมีชีวิตอยู่ดีและปลอดภัย แต่ในใจคงต้องจมอยู่กับความรู้สึกผิดและโทษตัวเองไปตลอดแน่…

 

เช่นนั้นมันจึงคิดว่า

 

ไม่สู้ติดตามเข้าไปช่วยเหลือนาง อย่างน้อยก็อาจจะช่วยเหลืออะไรศิษย์ตัวได้บ้าง