บทที่ 1348 ผิดแผน

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

เมื่อได้ยินคำกล่าวของเฉิงหลิงจื่อ เสินหลูเต้าก็หรี่ตา มองไปทางหนวดนับร้อยเส้นที่ลอยลู่อยู่กลางอากาศ รวมทั้งหวังเป่าเล่อและศพเหี่ยวแห้งจำนวนมากที่อยู่ด้านบนของเขา จากนั้นก็มองเฉิงหลิงจื่อ แล้วร้องคำรามก้องอยู่ในใจ

เขามองออกว่าเฉิงหลิงจื่อไม่ได้กล่าวจากใจจริง และมองออกว่าฝ่ายตรงข้ามต้องการยืมมือตนเองต่อต้านเฟิงตี๋ แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากนัก เดิมทีนี่ก็เป็นจุดประสงค์เดียวกับเขา

ส่วนเรื่องกลอุบายลับพวกนั้น พลังตรงหน้าระหว่างกันและกัน ไม่มีนัยสำคัญใดให้กล่าวถึง และถึงแม้จะไม่ได้มีภูมิหลังของเฉิงหลิงจื่อก็ตาม เวลานี้เกรงว่าก็ได้ถูกตนกำราบไว้นานแล้ว

อีกอย่างในคำพูดของเฉิงหลิงจื่อ ยังแฝงความหมายบางอย่างที่ช่วยเหลือปิงหลิงจื่อเอาไว้ เสินหลูเต้าก็สังเกตเห็นในเรื่องนี้ ในใจก่อเกิดความสงสัย แต่ความสงสัยก็อยู่ในความคิดของเขาได้ไม่นานนัก มันหายไปในไม่ช้า เขาเข้าใจว่านี่เป็นไปไม่ได้ แม้มันจะเร็วเกินไป และไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่าเฉิงหลิงจื่อและปิงหลิงจื่อกลางอากาศเมืองปรารถนารสด้วยตาตนเอง แต่ด้านหนึ่งเขารู้ว่าบิดาของเฉิงหลิงจื่อเป็นปฏิปักษ์ต่อปิงหลิงจื่อ ทั้งสองฝ่ายมีข้อขัดแย้งกัน

อีกด้านหนึ่ง เขาก็อยู่ในงานเลี้ยงล่าสัตว์นี้ เมื่อถามข่าวคราวของปิงหลิงจื่อจากสาวกเนื้ออื่นๆ ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกปากทางเข้าวังวน ดังนั้นไม่ว่าจะลงมือในด้านไหน เขาก็ไม่คิดว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เฉิงหลิงจื่อและปิงหลิงจื่อจะร่วมมือกัน

เรื่องในตอนนี้ หนวดนับร้อยเส้นที่กลางอากาศ ในความคิดของเสินหลูเต้านั้น เขาคิดว่ามีความเป็นไปได้มากว่าเฟิงตี๋ร่วมมือกับเฉิงหลิงจื่อเพื่อช่วยกันปราบปิงหลิงจื่อ และหลังจากที่ปิงหลิงจื่อถูกปราบแล้ว ระหว่างเฉิงหลิงจื่อและเฟิงตี๋อาจเกิดความขัดแย้งขึ้นมาใหม่ นำไปสู่ความแค้นเคืองในใจของเฉิงหลิงจื่อ จึงปรารถนาจะยืมมือตนทำลายเฟิงตี๋

หลังจากความคิดต่างๆ ล่องลอยอยู่ในจิตใจของเสินหลูเต้า ร่างของเขาก็พุ่งออกตรงไปที่ท้องนภาทันที พริบตาเดียวร่างก็มาถึงหนวดสีดำที่ขยับอยู่

เฉิงหลิงจื่อมองร่างเสินหลูเต้าที่อยู่ไกลๆ ยิ้มเย้ยหยันอยู่ในใจ พึมพำด้วยเสียงโง่เง่า

“การโกหกขั้นสุดยอด คือจริงเป็นลวง ลวงเป็นจริงในเวลาเดียวกัน ตั้งใจทิ้งข้อบกพร่องเอาไว้ ทำให้อีกฝ่ายครุ่นคิดเชื่อมโยงอยู่ในใจตนเอง แล้วจึงนำทั้งหมดประกอบสำเร็จด้วยตนเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ใช่ข้าหลอกเขาเพียงผู้เดียว แต่เป็นข้าและเขาร่วมกันโกหกตัวเขาเอง”

เฉิงหลิงจื่อภูมิใจอยู่ในใจ รู้สึกได้ว่าใต้หล้ามีเพียงไม่กี่คนที่จะสามารถเทียบเคียงกับเขาได้

ทว่าภายนอก กลับไม่เผยความคิดในใจออกมาแม้แต่น้อย แต่จ้องไปที่ซากศพของเฟิงตี๋ สายตาราวกับจะพยายามระงับพิษแค้นอย่างสุดความสามารถ นี่ทำให้เสินหลูเต้าที่อยู่กลางอากาศกวาดสายตามองเห็น หลังจากลอบสังเกตได้แล้ว ก็ยิ่งมั่นใจในการสันนิษฐานของตนยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงละสายตาจากดวงจิตเทพบนร่างเฉิงหลิงจื่อ จดจ้องไปที่ซากศพของเฟิงตี๋อย่างเงียบงัน

แม้ร่างอีกฝ่ายจะไร้ซึ่งกลิ่นอาย ไม่ต่างไปจากซากศพ แต่ด้วยความอคติ แม้เฉิงหลิงจื่อจะยังสนใจทางด้านหวังเป่าเล่ออยู่ในเวลานี้ แต่จุดสำคัญสุดท้ายก็ถูกเฉิงหลิงจื่อชี้นำผิดทางมุ่งความสนใจไปที่ร่างเฟิงตี๋ ดังนั้นหลังจากดวงจิตเทพกำลังกวาดผ่าน เสินหลูเต้าก็ยกมือขวาขึ้นสะบัดอย่างแรง ตอนนั้นเองคลื่นความผันผวนก็ระเบิดขึ้นทันที

ความผันผวนนี้กระจัดกระจายไปรอบด้านก่อน จากนั้นเสินหลูเต้าก็กำหมัดขวาไว้ทันที ความผันผวนที่กระจายออกไปพลันม้วนกลับ สุดท้ายรวมตัวเข้าด้วยกัน ก่อเกิดเป็นมวลไอก้อนกลมๆ สีดำ

มวลไอดำทมิฬนี้กระจายกลุ่มควันจำนวนนับไม่ถ้วนออกมา มันมีเสียงคำรามอยู่ในนั้นด้วย ราวกับมีปัญญาวิญญาณที่ถูกเสินหลูเต้าโยนเข้าไป ตรงเข้าปะทะกับหนวดเส้นดำนับร้อยนั้นอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังพุ่งออกไป ไอหมอกสีดำก็เริ่มขยาย ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นมดดำขนาดมหึมาตัวหนึ่ง พร้อมด้วยความดุร้ายและโหดเหี้ยม ตรงเข้าไปใกล้เส้นหนวดสีดำ

หากเปลี่ยนเป็นหวังเป่าเล่อไม่ได้เผชิญกับนิ้วแห่งเทพดาวตกนี้มาก่อน ทันทีที่มดดำตัวนี้เข้ามาในอาณาบริเวณของหนวดเส้นสีดำ จะต้องถูกหนวดพวกนี้กำราบรัดพันอย่างแน่นอน แต่เวลานี้พลังแห่งการดูดกลืนทั้งหมดของนิ้วมือเทพดาวตก ล้วนวางอยู่ด้านหวังเป่าเล่อ สมดุลกับคุณสมบัติของเขาพอดี

ดังนั้นการมาของมดดำ จึงไม่ได้ดึงความสนใจของหนวดเส้นสีดำเลย มองไประหว่างหนวดที่ขวักไขว่ กำลังขยับเข้าใกล้เฟิงตี๋ เหตุการณ์นี้ทำให้เฉิงหลิงจื่อที่อยู่ด้านล่างมองตาไม่กะพริบ ขณะเดียวกันก็ทำให้เสินหลูเต้ายิ่งมั่นใจในการตัดสินใจของตน

ผลสุดท้ายวิญญาณเทพของเขาก็ละกายเนื้อ ใช้ทุกวิธีไม่ให้ผู้ใดรู้ หลอมรวมเข้าไปภายในนิ้วมือเทพดาวตก… “วิธีนี้ หากข้าสามารถควบคุมได้ล่ะก็…” ในสายตาเสินหลูเต้ามีความโลภแวบผ่าน ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เข้าควบคุมมดดำในชั่วอึดใจเดียว และกระแทกไปบนร่างเฟิงตี๋

เสียงหนึ่งดังก้อง ด้วยการปะทะของทั้งสองฝ่ายรวมทั้งการระเบิดตัวเองของมดดำ การบุกจู่โจมเกิดขึ้นทันที

การฝึกตนของเสินหลูเต้า เดิมทีก็ไม่ธรรมดา ตอนนี้ห่างจากการเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าสวาปามเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเคล็ดวิชาลับที่กำลังจะเผยออกมาในตอนนี้ พลังย่อมน่าอัศจรรย์ ด้วยการระเบิดตัวเอง ความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ล้อมรอบทั่วร่างแรกที่เขาปะทะคือเฟิงตี๋ เพราะเดิมทีอีกฝ่ายก็เป็นซากศพ ปราณในตำนานภายในร่างและเลือดเนื้อทั้งหมดล้วนถูกดูดไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงเปลือกนอกที่ว่างเปล่า หากนิ้วมือเทพดาวตกไม่ถึงระดับสมดุลกับหวังเป่าเล่อ มันยังสามารถใช้จิตสำนึกไปควบคุมได้ ทำให้ซากศพมีพลังที่ระดับหนึ่ง ทว่าตอนนี้ไม่มีเวลาแยกร่างอีกแล้ว ศพของเฟิงตี๋พังทลายลงทันที ถูกฉีกแยกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเถ้าถ่านลอยละล่องทั่วอาณาเขตสามพันลี้ ทำให้ภายในอาณาเขตนี้เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง

พร้อมกับการพังทลาย ยังมีเส้นหนวดสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน ท่าทีของหนวดเหล่านี้ ล้วนไร้ซึ่งผู้ควบคุม ขณะซากศพอื่นๆ พังทลาย มันก็พังทลายไปด้วยไม่น้อย

เสินหลูเต้ารีบหลับตา เสียงตึกตักดังอยู่ภายในใจ เขาคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นเช่นนี้ ไม่คิดว่าเฟิงตี๋จะเปราะบางเช่นนี้ กระทั่งนิ้วเทพดาวตกก็เป็นเช่นเดียวกัน

เรื่องมหัศจรรย์นี้ต้องมีเงื่อนงำ แม้ก่อนหน้านั้นเขาจะถูกเฉิงหลิงจื่อสั่นคลอนไปบ้าง แต่ตอนนี้ฟื้นตื่นขึ้นอย่างฉับพลันแล้ว ความรู้สึกไม่พึงปรารถนาปะทุขึ้นในใจของเขาทันที

เสินหลูเต้าหน้าเปลี่ยนสี ร่างกายถอยกลับกะทันหัน ทว่า…ตอนที่ร่างกายถอยกลับนั่นเอง หวังเป่าเล่อที่หลับตาแขวนอยู่ใต้หนวดดำไม่ไหวติง ทันใดนั้น…ก็ลืมตาขึ้นแล้วมองไปทางเสินหลูเต้า

เสินหลูเต้าแหงนหน้าเช่นกัน ทันทีที่สบเข้ากับสายตาของหวังเป่าเล่อ จิตใจของเขาคำรามร้องก้อง ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน…เพราะเขาเห็นสิ่งที่อยู่รอบตัวหวังเป่าเล่อที่ไม่ได้ถูกตนทำลาย หนวดดำนับสิบเส้นที่เหลือ เวลานี้ไม่ได้นิ่งเฉยเช่นก่อนหน้า แต่เคลื่อนไหวอย่างพร้อมเพรียงล้อมรอบหวังเป่าเล่อ ราวกับเขาเป็นแกนหลัก

และสิ่งที่ทำให้เขาตระหนกที่สุด คือนิ้วมือที่ที่ผลุบๆ โผล่ๆ นิ้วนั้น เวลานี้กระจายพลังออกมาชัดเจนขึ้น ทว่า…พลังพวกนั้นกลับพุ่งเป้ามาที่ตนเอง

“เจ้า…ไม่ใช่เฟิงตี๋ที่เป็นผู้ควบคุมซากศพเทพดาวตกนี่ เป็นเจ้า!”

“เฉิงหลิงจื่อ เจ้าช่างกล้านัก!”

เสินหลูเต้าร้องคำรามเสียงต่ำ ร่างถอยกลับอย่างรวดเร็ว แต่หนวดเส้นสีดำเหล่านั้นที่มาจากรอบตัวหวังเป่าเล่อ ดูเหมือนแต่ละเส้นจะบ้าคลั่งไม่น้อย มันปะทะเข้ามาทันที ขยับยืดขยายตัวออกไม่หยุด พุ่งไปทางเสินหลูเต้า

ด้านล่าง เฉิงหลิงจื่อเผยศีรษะออกมา มองเหตุการณ์นี้อย่างตื่นเต้น และสังเกตได้ถึงการฟื้นตื่นของหวังเป่าเล่อ เขาตื่นเต้นน้ำตาจะไหล ตะโกนร้องออกมา

“ขอแสดงความยินดี ท่านผู้มีพระคุณออกจากการเก็บตัวแล้ว ได้ควบคุมซากเทพดาวตก กวาดล้างงานเลี้ยงล่าสัตว์!”

………………………….