บทที่ 720

สถานที่กักกันทั้ง 3 แห่งในเมืองจินหลิงประกอบด้วย หนึ่งแห่งมีไว้สำหรับกักขังผู้ต้องสงสัยชาย อีกหนึ่งแห่งมีไว้เพื่อกักขังผู้ต้องสงสัยที่เป็นหญิง และอีกแห่งมีไว้เพื่อกักขังผู้ต้องสงสัยที่เป็นที่เป็นเยาวชน

หลังจากที่สมาชิกทั้ง 4 คนของตระกูลเซียวถูกจับกุมในช่วงบ่าย พวกเขาถูกส่งไปยังสถานกักกันสองแห่ง

คุณหญิงใหญ่เซียวกับเซียวเวยเวยถูกส่งไปที่สถานกักกันหญิง เซียวฉางเฉียนกับเซียวไห่หลงถูกส่งไปที่สถานกักกันชาย

เมื่อเธอเข้าไปในห้องขังครั้งแรก คุณหญิงใหญ่เซียวยังรู้สึกไม่ชิน หลังจากถูกขัง เธอก็นั่งลงบนเตียงเรียบๆ และนึกถึงเคราะห์กรรมที่เธอประสบในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ช่วงเวลานี้ ถือเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุด สำหรับคุณหญิงใหญ่เซียวและตระกูลเซียว สิ่งที่คุณหญิงใหญ่เซียวสร้างด้วยแรงกายแรงใจมาทั้งชีวิต และเงินบำนาญถูกศาลยึดไปจนหมด ลูกชายแท้ ๆปฏิเสธที่จะให้เธออาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ Tomson Riviera และยังแจ้งตำรวจจับเธอเข้าคุก สิ่งเหล่านี้ทำให้เธอยิ่งคิดยิ่งโมโหมากขึ้น

เธอนั่งไขว่ห้างบนเตียง เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เจ็บปวด เธอตบเตียงด้วยความสิ้นหวัง ร้องไห้เสียงดัง “ฉันทำกรรมอะไรไว้? ตระกูลล้มละลาย ลูกชายก็ไม่ยอมเลี้ยงดูฉัน และยังร่วมมือกับลูกสะใภ้แจ้งตำรวจจนฉันต้องเข้าสถานที่กักกัน ลูกชายเนรคุณคนนี้! ต้องการให้ฉันตายในสถานกักกันใช่ไหม!”

เซียวเวยเวยที่นั่งข้าง ๆ ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ร้องไห้แล้วกล่าวว่า “คุณย่า เมื่อก่อนลุงรองไม่เป็นแบบนี้ เมื่อก่อนเขาเชื่อฟังคุณย่า และไม่เคยกล้าขัด แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงโหดร้ายขนาดนี้…..”

คุณหญิงใหญ่เซียวกล่าวด้วยความโมโหว่า “ก็เพราะคนชั่วร้ายปากเสียหม่าหลัน! อีคนปากเสียตั้งแต่แต่งงานเข้ามาตระกูลเซียว ก็ไม่เคยมีความคิดที่ดี คราวนี้ถ้าไม่ใช่ว่าเธอขัดขวาง ลุงรองตกลงให้พวกเราเข้าไปอยู่ตั้งนานแล้ว!”.

ขณะพูด คุณหญิงใหญ่เซียวก็เศร้าอีกครั้ง เธอเช็ดน้ำตาและร้องไห้ “ชีวิตฉันมันรันทดมาก หากฉันตายไป แล้วพบกับตาแก่ ถ้าเขารู้ว่าฉันถูกลูกสะใภ้บีบจนตาย ไม่รู้ว่าเขาเสียใจมากขนาดไหน…..”

สองย่าหลานอยู่ในห้องขัง รู้สึกโศกเศร้าเสียใจมาก จึงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

เนื่องจากคุณหญิงใหญ่เซียวอายุมากแล้ว ไม่บ่อยที่จะมีผู้ต้องขังอายุมากในสถานกักกัน พวกเขาจึงเข้ามาสอบถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ในหมู่พวกเขามีหญิงวัยกลางคนที่ทั้งสูงบึกบึน ซึ่งอยู่ในห้องขังนี้เป็นเวลา 3 เดือนแล้ว เธอเป็นขาใหญ่ในของห้องขังนี้ เธอเดินมาข้างหน้า แล้วถามว่า “ยายแก่ ลูกสะใภ้คุณเลวขาดนี้เลยหรือ? ที่ทำให้คุณถูกส่งตัวมายังสถานกักกันแห่งนี้ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“ใช่แล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ฉันจะเล่าให้พวกคุณฟัง?”

เมื่อได้ยินคนถาม นักโทษคนอื่น ๆ ในห้องขัง ก็มารวมตัวกันอยู่ต่อหน้าคุณหญิงใหญ่เซียว

เพราะพวกเธอเป็นกลุ่มผู้หญิงที่ชอบซุบซิบนินทา และเรื่องที่พวกเธอชอบคือเรื่องภายในครอบครัว ดังนั้นพวกเธอจึงรีบมาร่วมวง ล้างหูรอฟังเรื่องราว

คุณหญิงใหญ่เซียว ที่อัดอั้นตันใจไม่มีที่ระบาย

เมื่อได้ยินคนจำนวนมากมาสอบถาม เธอจึงร้องไห้และกล่าวว่า “ฉันบอกพวกคุณ ชีวิตของฉันขมขื่นจริงๆ! ลูกสะใภ้ของฉันเหมือนไม่ใช่คน เธอกับลูกเขยขยะไร้ยางอาย คอยใส่ร้ายพวกเราตลอด ทำให้ตระกูลใหญ่ของพวกเราที่มีหน้ามีตาอยู่ในเมืองจินหลิงถึงขั้นล้มละลาย แล้วยังทำให้เราเป็นหนี้มากมาย แม้แต่บ้านของเราก็ถูกศาลยึดไป”

หญิงอ้วนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ทำไมถึงมีคนเลวเช่นนี้ได้?”

คุณหญิงใหญ่เซียวที่หน้าตาแดงก่ำ ก็ด่าว่า “พวกเขาเป็นคนเลวจริง ๆ เลวจนถึงกระดูก!”

“หลานชายและหลานสาวของฉัน ถูกศาลขับไล่จนไม่มีที่อยู่อาศัย แต่ครอบครัวของพวกเขากลับซื้อคฤหาสน์ของ Tomson Riviera ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าหนึ่งร้อยกว่าล้าน!”

“ครอบครัวของเราไม่มีที่จะไป แต่ครอบครัวพวกเขา 4 คน มีห้องนอนมากกว่าสิบห้อง ซึ่งยังมีห้องว่างอีก!”

“ฉันคิดว่ายังไงพวกเขาเป็นลูกเขยและลูกสะใภ้ของฉัน ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกเขาคงไม่อยากเห็นว่าฉันใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่ข้างถนน? ดังนั้นฉันจึงไปหาพวกเขา ใครจะไปรู้ พวกเขาไม่เพียงแต่ทุบตีทำร้ายฉัน ด่าว่าฉัน ขับไล่ฉัน แล้วยังโทรแจ้งตำรวจว่าฉันบุกเข้าไปในบ้านเพื่อสร้างปัญหา ทำให้พวกเราทั้งหมดถูกตำรวจจับ!”

เมื่อหญิงอ้วนได้ยินดังนั้น เธอก็กำหมัดแน่นและกล่าวอย่างโมโหว่า “ฉันจางกุ้ยเฟินเกลียดไอ้เชี้ยที่อกตัญญูต่อผู้สูงอายุที่สุดในชีวิต! ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เชี้ยน้องสะใภ้ แม่ของฉันคงไม่ฆ่าตัวตายด้วยการดื่มยาฆ่าแมลง! หลังจากแม่เสียชีวิต ฉันจึงได้ทุบตีทำร้ายน้องสะใภ้ ดังนั้นฉันจึงถูกตัดสินให้กักขัง 10 เดือน!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของจางกุ้ยเฟินก็เต็มไปด้วยความโกรธและน้ำตา เธอกัดฟันแล้วกล่าวว่า “ยายแก่ อย่าร้องไห้ ถ้าหากฉันมีโอกาสพบเห็นลูกสะใภ้ของคุณ ฉันจะแก้แค้นให้คุณเอง!”