เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1658
มีผู้อาวุโสเคราขาวเอาสองมือไพล่หลังยืนอยู่ตรงทางเข้าหมู่บ้าน
ลู่ฝานมองออกทันทีว่าคนคนนี้คือเงาคนสายฟ้าเมื่อครู่
ลู่ฝานรีบเดินเข้าไปคำนับผู้อาวุโสแล้วพูดว่า “คารวะผู้อาวุโส”
ผู้อาวุโสมองลู่ฝานอย่างประเมิน จู่ๆ เขาชี้กระบี่หนักไร้คมด้านหลังลู่ฝานแล้วพูดว่า “นายเก็บกระบี่นี้ไว้ทำไม อย่าบอกนะว่านายใช้กระบี่เป็นด้วย”
ลู่ฝานรีบเก็บกระบี่หนักไร้คมแล้วพูดว่า “นี่เป็นของที่ได้จากอสูรอาวุธวิเศษที่สวรรค์ชั้นเจ็ด ฉันคิดว่ามันไม่เลว ไม่แน่ต่อไปอาจหลอมเป็นเครื่องรางได้ เลยเก็บไว้”
ลู่ฝานพูดพลางเอากระบี่ปีศาจไฟและอาวุธอื่นออกมาจากแหวนแล้วแกว่งไปมา
ผู้อาวุโสพูดอย่างเข้าใจทันที “ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง ของพวกนี้หลอมเป็นเครื่องรางยากนะ ช่างเถอะ นายอยากทำก็ทำ ฉันชื่อหั่วยู่เฉิน เป็นผู้อาวุโสคนที่สิบของตระกูลหั่ว ต่อไปนายเรียกฉันว่าผู้อาวุโสสิบก็พอแล้ว ประมุขประเทศตันเซิ่งบอกหรือเปล่าว่านายอยู่ในสวรรค์ชั้นเจ็ดได้นานเท่าไร”
ลู่ฝานพูดว่า “สิบวัน”
ผู้อาวุโสสิบพูดว่า “อืม พอแล้วล่ะ ตามฉันมาสิ พวกตาเฒ่าได้ยินว่าตระกูลหั่วของเราได้ที่หนึ่งในการต่อสู้ห้าปี พวกเขายังไม่เชื่อเลย มาสิๆๆ ให้พวกไอ้แก่ตายยากได้เปิดหูเปิดตาหน่อย”
พูดพลาง ผู้อาวุโสสิบเดินนำลู่ฝานเข้ามาในหมู่บ้าน
ลู่ฝานแอบถอนหายใจในใจ อันตรายมาก!
เขาลืมเก็บกระบี่หนักไร้คม โชคดีที่เขาไหวพริบดี รีบพูดโกหก ไม่งั้นคงอธิบายยากแน่ๆ ต่อไปห้ามให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
เดินตามผู้อาวุโสสิบเข้ามาข้างใน ลู่ฝานเพิ่งรู้ว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้มีบ้านแค่ห้าหลัง
ท้ายหมู่บ้านมีภูเขาเล็กๆ มีสิ่งก่อสร้างเล็กๆ สว่างไสวอยู่บนยอดเขา เหมือนศาลบรรพบุรุษแห่งหนึ่ง
เดินได้ไม่กี่ก้าว ผู้อาวุโสสิบชะงักฝีเท้าลงทันที
ด้านหน้ามีผู้อาวุโสสี่คน แต่งตัวแตกต่างกันออกไป
“นี่คือศิษย์ตระกูลหั่วของพวกนายเหรอ”
“นี่คือคนที่นายบอกว่าได้ที่หนึ่งในการต่อสู้ห้าปีครั้งนี้เหรอ”
“นายกำลังล้อเล่นหรือเปล่า วิทยายุทธของไอ้เด็กนี่แค่เพิ่งเข้าสู่วิถี จะเทียบกับสุ่ยหมิงคงที่ใกล้จะสัมผัสกับวิถีแห่งฟ้าดินได้ยังไง!”
“หั่วยู่เฉิน นายนี่ยิ่งแก่ยิ่งไร้เหตุผลนะ นายคิดว่าคำโกหกแบบนี้จะหลอกเราได้เหรอ”
ผู้อาวุโสทั้งสี่คนกวาดตามองลู่ฝานเพียงแวบเดียว แล้วเริ่มพูดคุยกัน
ลู่ฝานดูเสื้อผ้าบนตัวพวกเขาอย่างละเอียด เขารู้เลยว่าสี่คนนี้เป็นผู้อาวุโสของอีกสี่ตระกูลใหญ่
มิน่าล่ะพวกเขาถึงไม่เชื่อว่าลู่ฝานได้ที่หนึ่ง
ลู่ฝานมองผู้อาวุโสทั้งสี่ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสทั้งสี่ ลู่ฝานขออนุญาต”
เมื่อผู้อาวุโสทั้งสี่คนได้ยินก็เงียบลง ผู้อาวุโสสิบพูดกับลู่ฝานว่า “ไม่ต้องพูดไร้สาระ ลู่ฝานโชว์ให้พวกเขาเห็นหน่อย พวกเขาจะได้ไม่หัวรั้นอีก”
ผู้อาวุโสทั้งสี่คนล้อมลู่ฝานไว้ทันที “ไอ้หนุ่ม โชว์ให้ฉันดูหน่อยสิ”
“หึ ฉันคิดไม่ออกเลยจริงๆ ว่านายมีวิธีไหนเอาชนะสุ่ยหมิงคง ให้ฉันได้เห็นหน่อยสิ”
“ไอ้หนุ่ม ไม่ต้องกลัว ทำอะไรได้ก็โชว์ออกมาเลย ถ้านายทำให้เรายอมรับในพละกำลังของนายได้ สองสามวันนี้เราจะมอบประโยชน์อันยิ่งใหญ่ให้นาย ให้นายได้รับผลประโยชน์ไปตลอดชีวิต”
“เร็วสิ อย่ามัวเงอะงะอยู่ ถ้านายโชว์ความสามารถที่ฉันคาดไม่ถึงออกมาได้ ฉันจะรีบพานายไปดูของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างเลย นายมาเพราะสิ่งนี้ใช่ไหม!”
ทั้งสี่คนเบิกตาโตมองลู่ฝาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความอยากรู้
ลู่ฝานได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสทั้งสี่คนแล้วหัวเราะเบาๆ