บทที่ 1353 เสียงเพรียก

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

เมื่อเข้าใกล้ นิ้วเทพดาวตกราวกับถูกปลุกให้ตื่น หนวดดำทั้งหมดที่เดิมทีส่ายไปมาอย่างไร้ระเบียบอยู่บนนิ้ว ทันใดนั้นก็ยื่นตรงออกมาทันที มองไปก็คล้ายตัวเม่น

ในขณะที่หนวดดำที่ยืดตรงเหล่านั้นเผชิญหน้ากับหวังเป่าเล่อ ราวกับจะทะลวงความว่างเปล่าด้วยความเร็วยิ่งยวด มันก็ส่งเสียงหวีดแหลมตรงมาที่ร่างของเขา

ราวกับจะทะลวงผ่านร่างของเขา แต่ขณะที่เข้าใกล้…ดวงตาหวังเป่าเล่อก็ส่องประกาย เขายกมือขวาขึ้นโบกสะบัดทันที ทันใดนั้นกฎเกณฑ์ปรารถนารสภายในร่างก็ระเบิดออก ก่อเป็นพลังห่อหุ้มบนนิ้วเทพดาวตก

พริบตาต่อมาก็ส่งผลต่อหนวดดำเหล่านี้ แต่ละเส้นราวกับมีปัญญาวิญญาณของตนเอง มันบิดตัวเข้าด้วยกัน กลืนกินกันและกัน สถานการณ์ตรงหน้าดูวุ่นวาย

ร่าง 300 กว่าจั้งของหวังเป่าเล่อหยิบยืมช่วงเวลาวิกฤตนี้ ขณะที่ก้าวย่างร่างกายไหววูบ เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นก็อยู่บนนิ้วพันจั้งนี้แล้ว มือขวายกขึ้น กำหมัดกระแทกลงไปที่นิ้วมือที่อยู่ด้านล่าง

หมัดนี้กระแทกลงไปก็ราวกับอสนีสวรรค์แผดเสียงร้องร้อง มันดังก้องสะท้อนไปรอบด้าน ยิ่งกว่านั้นยังเข้าปะทะกวาดรอบด้าน ทำให้เส้นหนวดดำที่กำลังกลืนกินกันและกันที่บริเวณหนึ่ง ถูกถอนรากถอนโคนโดยตรงไปกว่าครึ่งและขาดสะบั้นไปทีละเส้น ไอหมอกแดงทั่วสารทิศล้วนม้วนตัวกระจายออกไป

ที่สำคัญที่สุดก็คือนิ้วพันจั้งนี้ ภายใต้หมัดของหวังเป่าเล่อ ตามด้วยการรบกวนจากพลังชั้นกายเนื้อและกฎเกณฑ์ปรารถนารส นิ้วนี้พลันดำดิ่งทันที และตกลงไปบริเวณนับพันจั้ง

นั่นยังไม่สิ้นสุด ดวงตาหวังเป่าเล่อเกิดประกายแสงประหลาด ส่งหมัดไปอีกครั้ง

ตามด้วยหมัดสาม หมัดสี่ และหมัดห้า!

แต่ละหมัดที่ลงไป ล้วนทำให้นิ้วนี้ดำดิ่งลงลึกในอากาศ สุดท้ายพริบตาที่หวังเป่าเล่อส่งหมัดที่ห้าลงไป นิ้วนี้ก็ร่วงหล่นจนถึงขีดสุด ทะลุผ่านหมอกแดงบนท้องนภา หล่นลงไปทางแผ่นดินสีดำ

นิ้วพลันกระแทกลงกับแผ่นดิน ขณะแผ่นดินสั่นไหว ตามด้วยเสียงก้องกังวาน จนพื้นแตกแยก ก่อเกิดเป็นแอ่งเว้าลงไปบนพื้น ดินโคลนสีดำจำนวนมากทะลักขึ้นและลอยไปทั่วสารทิศ

หนวดเส้นสีดำบนนิ้วล้วนขาดสะบั้น มองจากไกลๆ หนวดเส้นสีดำที่แหลกลาญกระจายไปทั่วจากท้องฟ้าสู่แผ่นดิน

แต่นิ้วนี้ไม่ธรรมดาเลย ในขณะที่หวังเป่าเล่อโจมตีไม่หยุด แม้มันจะร่วงหล่นจากท้องนภา แม้หนวดบนตัวขาดสะบั้นไปเป็นส่วนมาก แต่ตัวของมันกลับไม่เสียหายแม้แต่น้อย กระทั่งหลังจากตกลงสู่พื้น ก็ยังคงดิ้นรน แรงกดดันที่น่าหวาดผวาปะทุออกมาจากภายในตัวมัน ราวกับต้องการต่อต้านหวังเป่าเล่อ

หวังเป่าเล่อคำรามเสียงเย็น พลังที่มาจากคุณสมบัติของตนก็ปะทุออกมาในเวลานี้ เวลาเดียวกับที่ต่อต้านนิ้ว กฎเกณฑ์ปรารถนารสก็กระจายออกมาเช่นกัน ดูดรับกลิ่นอายของมันอย่างบ้าคลั่ง

กลิ่นอายนี้สำหรับกฎเกณฑ์ปรารถนารสแล้วราวกับยาชูกำลัง ทำให้กฎเกณฑ์ปรารถนารสของหวังเป่าเล่อเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ร่างกายพลันขยายจาก 330 จั้ง ไปถึง 380 จั้ง

หวังเป่าเล่อเลียริมฝีปาก แล้วกระแทกลงไปอีกครั้ง แต่การดิ้นรนของนิ้ว เวลานี้กลับรุนแรงขึ้น เมื่อหมัดของหวังเป่าเล่อลงไปเป็นครั้งที่ 11 นิ้วก็โค้งงอทันที ราวกับกำลังจะดีด เสียงคำรามดังลั่น มันเข้าปะทะหวังเป่าเล่อ ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกโยนออกไปกลางอากาศ

หลังจากโยนหวังเป่าเล่อออกไปแล้ว นิ้วนี้ก็ยกขึ้นทันที ตำแหน่งปลายนิ้วชี้ส่ายไปทางหวังเป่าเล่อ กระโจนจู่โจม ทั้งเร็วทั้งแข็งแกร่ง ราวกับจะเจาะท้องฟ้าออกเป็นรู เพื่อตรงไปที่หวังเป่าเล่อ

แม้ร่างของหวังเป่าเล่อในตอนนี้จะใกล้ 400 จั้ง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนิ้วนี้ก็ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่ง เวลานี้แม้จะสามารถหลบซ่อนได้ แต่เขาเข้าใจกระจ่าง หากหลบออกไปแล้ว นิ้วมือต้องปะทะเข้าไปในหมอกแดง และหากคิดอยากจะเสาะหาก็ไม่รู้ว่าจะสูญเสียเวลานานเท่าใด คิดได้ดังนั้นใบหน้าก็ฉายแววดุดัน ไม่แม้แต่จะหลบหลีก ยกสองมือขึ้นขณะคำรามเสียงต่ำ ในตอนฝ่ามือนี้กดลงมา เขาก็รีบโอบกอดปลายนิ้วไว้ทันที

เมื่อเสียงคำรามดังก้อง ร่างของเขาถูกนิ้วผลักพุ่งตรงไปท้องนภา เจาะเข้าไปในหมอกแดง รับรู้ได้ถึงไอหมอกแดงที่เคลื่อนผ่านไปตรงหน้าด้วยความเร็ว รับรู้ว่าร่างตนสั่นเทารวมทั้งความเจ็บปวดจนแทบแหลกสลาย

ขณะคำรามกฎเกณฑ์ปรารถนารสแผ่ออกไปไม่ขาดสาย ดูดรับกลิ่นอายที่มาจากนิ้วอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังกัดกร่อน

ร่างกายฟื้นฟูไปพลางกลืนกินไปพลาง ร่างของเขาค่อยๆ ขยายออกอีกครั้ง หลังจากขยายไปถึง 420 จั้งแล้ว ภายในหมอกแดงบนท้องนภานี้ ในที่สุดนิ้วพันจั้งนี้ก็เหี่ยวลีบ พลังอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่กำลังจะสิ้นเรี่ยวแรง หวังเป่าเล่อก็คำรามพุ่งตัวออกไป นิ้วที่ตนกอดเอาไว้พลันเหวี่ยงออกและกระแทกอย่างดุเดือด ความเร็วของมันคล้ายดั่งสะเก็ดดาว ก่อนจะทะลุไอหมอก แล้วกระแทกพื้นดิน

เสียงดังก้องกระจายไปทุกหนแห่ง ที่แห่งนี้ห่างจากที่ที่พวกเฉิงหลิงจื่ออยู่ไม่ไกลนัก ดังนั้นพวกเขาที่รออยู่ที่เดิมย่อมได้ยินเสียง ยิ่งกว่านี้ยังเห็นเหตุการณ์ที่นิ้วมือร่วงหล่นผ่านไอหมอกที่ห่างไกล

ด้วยความประหลาดใจ ด้านหลังของนิ้วนั่น พวกเขาเห็นหวังเป่าเล่อที่เป็นดั่งเทพเจ้า ย่างเท้าไปตามนิ้วมือและกระแทกมันลงกับพื้น

เหตุการณ์นี้ เฉิงหลิงจื่อยังรู้สึกว่าธรรมดาสามัญ อย่างไรนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้เห็นการต่อสู้ของหวังเป่าเล่อกับนิ้วเทพดาวตก ดังนั้นจึงได้เตรียมใจไว้แล้ว ทว่าหกคนที่เหลือราวกับเห็นปีศาจ ประหลาดใจขวัญหนีดีฝ่อ

พวกเขาล้วนเคยติดต่อกับเจ้าสวาปามมาก่อน รู้ว่าเจ้าสวาปามแข็งแกร่งมาก แต่พวกเขากลับรู้ซึ้งในโลกาชั้นแรก ซากเทพเจ้านั้นแข็งแร่งไร้ใดเทียม ทว่าเจ้าสวาปามคนใหม่ปิงหลิงจื่อ กลับกระแทกนิ้วซากเทพเจ้าลงแผ่นดิน นี่จึงทำให้ในใจของพวกเขาเกิดความเลื่อมใสอย่างที่สุด

ในขณะที่ร่างกายกำลังสั่นเทิ้มอยู่นี้ หวังเป่าเล่อก็ยังโจมตีดุเดือดอย่างต่อเนื่อง ดูดรับไม่หยุด กระทั่งเขาโยนนิ้วอย่างบ้าคลั่ง มันค่อยๆ หดลงอย่างเชื่องช้า และร่างของเขา ในที่สุดก็ทะลวงผ่าน 500จั้ง แต่แล้วในตอนนั้นเอง…

นิ้วเทพดาวตกพลันระเบิดแสงโลหิตหนาแน่นออกมา ขณะที่แสงโลหิตส่องประกาย สีหน้าหวังเป่าเล่อก็เปลี่ยนไป เขารับรู้ได้ถึงวิกฤตชีวิตรุนแรง แต่จะให้ละทิ้ง หวังเป่าเล่อย่อมไม่ยินยอม ดังนั้นยังคงดูดรับอย่างบ้าคลั่ง

มองจากไกลๆ พลังปราณมืดจำนวนมากบินออกมาจากปากแผลที่แตกของนิ้วนี้ มันตรงไปที่หวังเป่าเล่อ ถูกเขาดูดรับไปทั่วร่าง และแสงโลหิตบนนิ้วก็พร่างพรายขึ้นเรื่อยๆ ไปตามการแผ่ของพลังปราณมืด

ตอนนั้นเอง หมอกแดงบนท้องนภาพลันพลิกม้วน ดูเหมือนแสงโลหิตของนิ้ว จะเป็นเสียงเพรียกบางอย่าง ในขณะที่ไอหมอกบนท้องนภาพลิกม้วน ฝ่ามือมหึมาที่มีเพียงสี่นิ้วขนาดนับพันจั้งข้างหนึ่งก็ค่อยๆ ปรากฏออกมาจากภายในเมฆหมอก ครอบคลุมท้องนภาเอาไว้

ครั้นเห็นเหตุการณ์นี้เข้า หวังเป่าเล่อก็หน้าเปลี่ยนสี รู้ว่ามือมหึมาสี่นิ้วมาจากที่เดียวกันกับนิ้วนี้

“น้องสาวเจ้าไง ยังรู้จักขอความช่วยเหลือ…”

หวังเป่าเล่อชาไปทั้งศีรษะ รีบปล่อยมือที่จับนิ้วนี้ไว้ ความเร็วของร่างประทุ เขาถอยหลังอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ล่าถอย ฝ่ามือมหึมาบนท้องนภา ก็ส่งเสียงครืนโครมกระจายไอหมอกออก แล้วตรงเข้ามาทางหวังเป่าเล่อ

ขณะเดียวกัน นิ้วที่ถูกหวังเป่าเล่อดูดรับจนเหี่ยวลีบบนพื้นก็ดีดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไล่ตามหวังเป่าเล่ออย่างบ้าคลั่ง

…………