บทที่ 1356 อิสระ

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

“ดี!” ด้วยการคำนับของหวังเป่าเล่อ ร่างเจ้าปรารถนาที่ราวกับภูเขาเนื้อนั้น ดวงตาฉายแววประหลาดใจ เขาพยักหน้าน้อยๆ พวกโจวฮั่วต่างก็ประสานหมัดคำนับไปทางหวังเป่าเล่อ

ในหมู่พวกเขาแม้ถัวหลิงจื่อจะมีสีหน้าไม่สู้ดี แต่ดวงตากลับฉายความสงสัย เพราะเห็นบุตรชายของตน เวลานี้ยืนอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อ แม้กลิ่นอายจะอ่อนลงไปไม่น้อย ทว่าร่างกายและวิญญาณเทพกลับไม่เสียหายแม้แต่น้อย และสิ่งที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกประหลาดใจก็คือ สายตาของเฉิงหลิงจื่อขณะที่มองหวังเป่าเล่อนั้นมีความเทิดทูนบูชา

นี่ทำให้ถัวหลิงจื่อระงับความไม่พอใจที่มีต่อหวังเป่าเล่อก่อนหน้านั้นเอาไว้ แล้วจึงคำนับกลับไปด้วยสีหน้าไม่ยินยอม

หวังเป่าเล่อไม่ได้สนใจถัวหลิงจื่อ ยังไม่กล่าวถึงที่เฉิงหลิงจื่อสามารถเกลี้ยกล่อมได้หรือไม่ก่อน ลำพังความแตกต่างของกฎเกณฑ์ปรารถนารสระหว่างคนสองคน เจ้าสวาปามกว่าครึ่งก็ไม่อยู่ในสายตาของเขาแล้ว

ในหมู่เจ้าสวาปามอีกแปดคน มีเพียงสองคนที่เขาให้ความสำคัญ สองท่านนี้เมื่อครั้งเทศกาลสวาปามในตอนแรก ร่างแห่งปรารถนาที่ปรากฏ ต่างมีขนาดกว่า 500 จั้ง ยิ่งกว่านั้นอีกท่านหนึ่งขนาดถึง 700 กว่าจั้ง

หวังเป่าเล่อทำความเคารพกลับ สายตากวาดไปที่เจ้าสวาปามทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ประชาชนที่มาจากภายในเมืองปรารถนารส เวลานี้เมื่อรู้ว่าภายในเมืองปรารถนารส ได้ปรากฏเจ้าสวาปามคนที่เก้าแล้ว ต่างก็ตอบสนองส่งเสียงร้องเซ็งแซ่ ดังนั้นในไม่ช้าจึงมีเสียงวุ่นวายโกลาหลส่งออกมา สุดท้ายกลายเป็นเสียงน้อมคำนับดังขึ้นเป็นระลอกเนิ่นนานกว่าจะจางหายไป

สำหรับเมืองปรารถนารสแล้ว หลายปีมานี้ไม่มีเจ้าสวาปามปรากฏขึ้นเลย ดังนั้นการเลื่อนขั้นของหวังเป่าเล่อจึงมีความหมายอย่างยิ่ง ในไม่ช้าเจ้าปรารถนาของเมืองปรารถนารสก็กล่าวออกมา ประกาศให้วันนี้เพิ่มเทศกาลสวาปามอีกครั้ง

คำประกาศนี้ ทำให้ทั่วทั้งเมืองปรารถนารสบรรยากาศครึกครื้นขึ้นอีกครั้ง ในหมู่คนเหล่านั้นผู้ที่ยินดีที่สุดก็คือทุกคนภายในร้างปิงหลิง ช่วงเวลานี้กระทั่งคนแคระที่เคี้ยวลูกตาอยู่ในปากซึ่งผูกพยาบาทกับเด็กหนุ่มในร้านมาโดยตลอด พลอยปลาบปลื้มยินดีไปด้วย

เขารู้สึกว่าการกระทำก่อนหน้านี้ของอีกฝ่ายล้วนถูกต้อง เมื่อทำให้ตนได้เป็นเจ้าสวาปามก็เท่ากับเป็นที่พึ่งพิง ทำให้คนของร้านปิงหลิงทั้งหมด ต่างได้ดีไปด้วย ได้เลื่อนขึ้นเป็นสายตรงของเจ้าสวาปาม

ดังนั้น คนแคระที่อยู่ในอารมณ์ยินดีปรีดา ถึงกับนำลูกตาที่อยู่ในปากออกมา คืนให้แก่เด็กหนุ่ม ฝ่ายหลังก็ตื่นเต้นเช่นกัน หลังจากได้รับก็รีบวางไว้ในดวงตาที่กลวงโบ๋

ภายในเมืองปรารถนารสก็เป็นเช่นนี้ เทศกาลสวาปามที่เพิ่มขึ้นชั่วคราวในครั้งนี้ จึงเริ่มขึ้นด้วยประการฉะนี้ และในเวลาเดียวกัน หวังเป่าเล่อก็ได้รับคำเชิญที่มาจากเจ้าปรารถนา

“ปิงหลิงจื่อ ตามข้ามา”

ขณะที่กล่าว เจ้าปรารถนาในร่างภูเขาเนื้อก็ยกมือขวาขึ้นโบก ทันใดนั้นรอบด้านพลันพร่าเลือน ร่างของเขาและหวังเป่าเล่อหายไปในอากาศของเมืองปรารถนารสทันที

เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง ก็ได้มาอยู่ภายในตำหนักลึกลับของเจ้าเมืองแล้ว

ตำหนักเจ้าเมืองตั้งอยู่ใจกลางเมืองปรารถนารส สร้างเป็นรูปหอคอยสูงหลังหนึ่ง ราวกับตั้งอยู่ระหว่างความจริงและความลวง คล้ายจะอยู่ในเมืองเมืองปรารถนารส แต่ก็ไม่ใช่

ตำแหน่งที่อยู่ในภาพลวงตาคือแท่นบูชาที่อยู่กลางคูเมือง และพื้นที่ที่มีอยู่จริง เป็นอีกชั้นหนึ่งซึ่งเป็นที่ว่างทับซ้อนกับเมืองปรารถนารส

ที่แห่งนี้กว้างขวางไร้ขีดจำกัด มองไปแล้วอาณาเขตไพศาลมาก มีหม้อทองสัมฤทธิ์ยักษ์ใบหนึ่ง ภายในหม้อนี้ดูเหมือนต้มอาหารบางอย่างไว้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันก็ส่งเสียงออกมา และยังส่งกลิ่นหอมตลบอบอวล แผ่กระจายภายในพื้นที่ว่างทั้งหมดไปทั่วตำหนักเจ้าเมือง

นอกจากนี้แล้ว ไม่มีการตกแต่งอื่นใดในพื้นที่นี้อีก มีเพียงเจ้าปรารถนาที่ปรากฏอยู่ที่นี่ ร่างขัดดสมาธิอยู่บนหม้อยักษ์ ก้มหน้าลงมองหม้อยักษ์ที่ด้านล่าง มองหวังเป่าเล่อที่ถูกเขาพามา

หวังเป่าเล่อเพิ่งจะปรากฏตัว ก็ถูกหม้อยักษ์นั้นดึงดูดสายตาทันที เมื่อมองหม้อใบนี้ เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกแห่งกาลเวลาบุพกาล ความเสื่อมโทรมบนตัวมันราวกับวัตถุครั้งโบราณกาล ทั้งยังมีกลิ่นหอมขจรขจายที่ปิดไม่มิด

ไม่นานสายตาที่ทอดมองหม้อยักษ์ ก็เบนไปทางเจ้าปรารถนาที่ลอยอยู่ตรงนั้น ประสานหมัดคำนับ

“กฎเกณฑ์หกปราถนา มาจากเทพเจ้า…” หลังจากหวังเป่าเล่อคำนับแล้ว เสียงทุ้มต่ำที่สะท้อนออกมาคล้ายอัสนีสวรรค์ ก็ดังออกมาจากภายในภูเขาเนื้อที่อยู่บนหม้อยักษ์

“เพียงแต่ว่าจิตเทพเจ้าหลับใหล ดังนั้นพวกข้าจึงเป็นตัวแทนของกฎเกณฑ์”

“และเจ้า…ไม่ว่าจะในสถานะใด ไม่ว่ามาจากแห่งหนใด ไม่ว่าจะมีจุดประสงค์ใด ในเมื่อกลายเป็นเจ้าสวาปามแล้ว เชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดกฎเกณฑ์ปรารถนารส เช่นนั้น…เจ้าก็เป็นส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์ปรารถนารส” เมื่อก้อนเนื้อกล่าวออกมา ภายในหม้อยักษ์ที่อยู่ด้านล่าง เสียงต้มเดือดปุดๆ ก็ยิ่งดังขึ้น ไอหมอกก็กระจัดกระจายออกมาจากภายใน ห่อหุ้มเจ้าปรารถนาเอาไว้

หวังเป่าเล่าทอดสายตามอง ดวงตาพลันหรี่เล็กลงทันที เพราะเขาเห็นว่าร่างของเจ้าปรารถนาที่ห่อหุ้มด้วยไอหมอก กำลังละลายไปจริงๆ หยดเลือดนั้นสาดออกมาจากภายในร่าง หยดลงสู่…ภายในหม้อ

นั่นเป็นสาเหตุทำให้ภายในหม้อเดือดขึ้นกว่าเก่า กลิ่นหอมกระจายอบอวลมากขึ้น

“เจ้าแห่งปรารถนาท่าน…” หวังเป่าเล่ออดรนทนไม่ได้

“ภายในหม้อปรารถนารส จึงเป็นร่างต้นของข้า ข้าที่เจ้าเห็นในตอนนี้ ก็เป็นเช่นเดียวกับเจ้า เป็นเพียงร่างแยก” เจ้าปรารถนาที่อยู่บนหม้อยักษ์ มองมาทางหวังเป่าเล่ออย่างล้ำลึก กล่าวช้าๆ

หวังเป่าเล่อนิ่งเงียบ ตอนที่เขาเข้าสู่โลกาชั้นแรกก่อนหน้านั้น ก็แอบคิดว่าอีกฝ่ายรู้สถานะของตนเองอยู่บ้างแล้ว เวลานี้เขายิ่งมั่นใจ สำหรับผู้เยี่ยมยุทธ์ การโกหกนั้นไร้ความหมาย

เมื่อเขานิ่งเงียบเช่นนี้ ภูเขาเนื้อบนหม้อยักษ์ก็คล้ายจะเอ่ยปากตามอำเภอใจ เนื้อหาคำพูดที่เอ่ยออกมานั้นทำให้จิตใจหวังเป่าเล่อสั่นไหวอย่างยิ่ง

“คราวที่แล้ววิญญาณของจักรพรรดิก็สั่นคลอน ยิ่งมีผู้พิทักษ์ลงมือ จากนั้นอาณาจักรด้านบนก็ออกคำสั่งว่ามีคนนอกเข้ามาในอาณาจักรนี้ ให้เหล่าเจ้าแห่งปรารถนาของข้าตรวจหาสถานที่อยู่ แล้วจะประทานรางวัลให้”

“เจ้ารู้หรือไม่ ของรางวัลคือสิ่งใด” ภายในไอหมอก ร่างเจ้าปรารถนายังคงหลอมละลายอย่างช้าๆ จ้องไปทางหวังเป่าเล่อ

“อิสระ!” ไม่รอให้หวังเป่าเล่อเอ่ยปาก เจ้าปรารถนาก็กล่าวออกมาช้าๆ

แม้สองคำนี้จะดังออกมา หวังเป่าเล่อยังคงเงียบสนิท ไม่ได้กล่าวตอบ

ด้านเจ้าแห่งปรารถนาก็ตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่งครู่ต่อมา เขาก็หัวเราะเยาะตนเอง

“อิสระ…น่าขันจริงๆ ที่มีบางคนยังมองไม่ออก อย่างเช่นเหล่าสตรีที่ฟังเจ้าปรารถนา ก็คือหนึ่งในผู้ที่มองไม่ออก”

“ในโลกใบนี้ ผู้ที่ทำงานอย่างหนักที่สุดเพื่อเสาะหาผู้ลึกลับที่มาจากภายนอกก็คือนาง”

“ในฐานะที่เป็นเจ้าปรารถนา ก็จะยิ่งอ่อนไหวต่อสัมผัสเชื่อมต่อจากโลกภายนอก ผู้ที่มาจากภายนอกนั้น ขอเพียงปรากฏต่อหน้านาง ก็จะถูกนางค้นพบ…นางไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง มีเพียงเสียงเพรียกวิญญาณจักรพรรดิและผู้พิทักษ์ ก็จะได้รับรางวัล”

“เจ้ารู้หรือไม่ จะแก้ไขการค้นพบนี้ได้เช่นไร” เจ้าปรารถนาหรี่ตามองหวังเป่าเล่อ ความเงียบของอีกฝ่ายตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เขาไม่อาจรู้ความคิดของอีกฝ่ายได้

“นั่นกลายเป็นความปรารถนาของเขา ก็เหมือนกับข้าอยู่ที่นี่เพื่อขึ้นเป็นเจ้าสวาปาม” หวังเป่าเล่อกล่าวอย่างสงบ

“นี่เป็นหนึ่งในนั้น ยังมีสิ่งหนึ่งก่อนหน้านั้น นั่นก็คือ… ผู้ที่ฟังเจ้าปรารถนาผู้นี้ ตนได้รับบาดเจ็บสาหัสจนหมดสติ จึงต้องรับการรักษา ด้วยวิธีนี้จึงไม่สามารถตรวจพบความผิดปกติในระยะเริ่มต้นได้” เจ้าปรารถนาเมืองปรารถนารส กล่าวออกมา ดวงตาของเขาที่จดจ้องหวังเป่าเล่อ ฉายประกายออกมาทันที ประกายนั้นคมปลาบราวกับกำลังรอคอยคำตอบของหวังเป่าเล่อ

แม้จะไม่ใช่คำถาม แต่เขาก็เชื่อว่า อีกฝ่ายเข้าใจว่าตนหมายถึงสิ่งใด

……………