อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1261 สัตว์วิเศษโบราณ
ปัง…..
ฮัวอิ่งสะบัดเสื้อคลุมมังกรที่สกปรกทิ้งไป
โกรธ
โกรธโมโหอย่างผลักภูเขาพลิกทะเล
บรรยากาศโดยรอบลดลงถึงจุดเยือกแข็งทันที รัศมีแห่งการสังหารระเบิดขึ้นมา
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือสัตว์อสูรล้วนสั่นเทา
รัศมีแห่งการสังหารรุนแรงอย่างมาก
พวกเขารู้สึกเหมือนฟ้าจะถล่มลงมาแล้ว
เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานตะโกนออกมาพร้อมกันว่า “ระวัง รีบหนีไป”
“ตูม….”
แรงฝ่ามือมหาศาลพร้อมกับพลังที่กัดกร่อนพุ่งมาปกคลุมกู้ชูหน่วนไว้
พลังฝ่ามือนั้นครอบคลุมพื้นที่กระจายออกไปอย่างกว้างใหญ่มาก ต่อให้กู้ชูหน่วนใช้วิชาตัวเบา เพิ่มความเร็วให้เร็วที่สุดแต่ก็ไม่สามารถหลบหนีทัน
เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหาน คนหนึ่งเอาขลุ่ยหยกขาวออกมา คนหนึ่งเอาพิณหิมะออกมาอย่างรู้ใจกัน
ขลุ่ยกับพิณบรรเลงร่วมกัน ใช้การโจมตีทางเสียงต้านทานฝ่ามืออันทรงพลังไว้
“พัฟ…..”
คนที่อยู่ใกล้ ล้วนกลายเป็นพายเนื้อ
ท้องฟ้ามืดครึ้ม เต็มไปด้วยรัศมีแห่งความอาฆาต
ทุกคนไม่มีอารมณ์ที่จะฟังเสียงฉินและขลุ่ยที่ไพเราะอีกต่อไป แต่ละคนเพียงต้องการเอาชีวิตตนเองให้รอด
เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานคิดว่ากู้ชูหน่วนจะวิ่งหนีไป แต่กู้ชูหน่วนไม่เพียงไม่หนีไป มุมปากกลับกระตุกเผยให้เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
ในใจพวกเขาต่างเต้นแรง รู้สึกเหมือนผู้หญิงคนนี้มีแผนร้ายแน่
ซุ่ม…..
ทั้งสองคนต่างรวบเก็บขลุ่ยพิณ มาอยู่ด้านข้างซ้ายขวาของกู้ชูหน่วน หิ้วตัวกู้ชูหน่วนแล้วหนีออกไป
ไม่มีเสียงขลุ่ยพิณคอยควบคุม ฝ่ามืออันทรงพลังฟาดกระแทกอย่างแรง โชคดีที่พวกเขาวิ่งเร็ว ไม่อย่างนั้นทั้งสามคนคงตายคาฝ่ามือแน่
บนพื้นปรากฏหลุมลึกขนาดใหญ่
ไม่นาน เสียงดังกระหึ่มดังขึ้นมาอีก
พลังอานุภาพไม่เล็กไปกว่าฮัวอิ่ง
แผ่นดินกว้างใหญ่สั่นไหวอย่างต่อเนื่อง นูนๆบูดๆ จนผู้คนอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ
รอเมื่อหมอกควันจางลงบ้างแล้ว ทุกคนลืมตาขึ้นมาค่อยมองเห็นฮัวอิ่งถูกระเบิดจนขนผมตั้งตรง ย่ำแย่อย่างมาก
เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีคิดไม่ถึงว่า อาวุธลับนี้จะมีอานุภาพร้ายแรงขนาดนี้
ระดับเจ็ดยังถูกระเบิดกลายเป็นเช่นนี้
กู้ชูหน่วนกลับตะลึงอย่างมาก
นี่เป็นไฟระเบิดที่นางคิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด รุนแรงกว่าระเบิด นางใช้ปริมาณเยอะมาก ตามหลักแล้วเพียงแค่โยนไป ไม่ว่าอะไรก็ล้วนถูกระเบิดตาย
ตอนนี้นางกลับไม่ตาย กระทั่งไม่เห็นเหมือนได้รับบาดเจ็บ
น่าหวาดกลัวมาก
“เจ้าสมควรตาย”
ใบหน้าฮัวอิ่งบูดเบี้ยว ดวงตาเบิกโต ในสถานที่ทำพิธีบวงสรวงเต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย ลมคลื่นยักษ์พัดมาแรงมาก
อากาศทำให้หายใจไม่ออก ร่างกายไร้เรี่ยวแรง
ความมีชีวิตชีวาดูเหมือนจะถูกลิดรอนไปทีละน้อย
โดยเฉพาะหญ้ากับดอกไม้ เหี่ยวเฉาไปอย่างรวดเร็วจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“เคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ เป็นเคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ”
คนที่มีวิทยายุทธ์ ต่างใช้กำลังภายในต่อต้านการจู่โจมของเคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ เพื่อไม่ให้พลังในร่างกายถูกนางดูดไปจนหมด
คนที่ไม่มีวิทยายุทธ์ ส่วนใหญ่เลือดออกทั้งเจ็ดทวาร ขาดใจตายทันที เหลือเพียงโครงร่างที่เหี่ยวเฉา
กู้ชูหน่วน เย่จิ่งหาน เวินเส้าหยีถูกเคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจตราตรึงอยู่ตรงกลาง เห็นได้ชัดว่า เป้าหมายหลักของนางคือพวกเขาทั้งสามคน
พลังชีวิตถูกลิดรอนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งสองคนใช้ขลุ่ยพิณต่อต้าน พยายามที่จะทำลายเคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจของนาง
แต่เคล็ดวิชาวิญญาณปีศาจ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งแข็งแกร่ง กดดันจนพวกเขาแทบหายใจไม่ออก
ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงต่อต้านอย่างสุดชีวิต
ขั้นสูงสุดระดับหกสองคน กับขั้นสูงสุดระดับห้าคนหนึ่ง เผชิญกับขั้นกลางระดับเจ็ดคนหนึ่ง กลับยังคงถูกครอบงำไว้อย่างรุนแรง
หากไม่ใช่เพราะเผชิญด้วยตนเอง พวกเขาแทบไม่อยากเชื่อ
กู้ชูหน่วนสงบสุขุม ใช้ขลุ่ยหยกวาดเขียนอยู่บนพื้น ไม่นานสิ่งที่นางวาดเขียนอยู่บนพื้นก็กลายเป็นแก่นสาร สัตว์วิเศษโบราณแต่ละตัว พุ่งทะยานร้องขึ้นสู่ท้องฟ้า ต่างพุ่งเข้าหาฮัวอิ่งอย่างมีพลังวิเศษ
โฮ่ง…..
ทั่วทั้งพระนครเต็มไปด้วยเสียงร้องของสัตว์อสูร ฟ้าดินเปลี่ยนสีอีกครั้ง
เวลานี้ ต่อให้เป็นรองหัวหน้าเผ่า เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานต่างตกตะลึง
เป็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
นางสามารถทำได้อย่างไร?