ตอนที่ 1086 ทำลายจิตวิญญาณ

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ภายในข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพ พลังมายาของฮวาฟางเฟยค่อย ๆ หมดลงและไม่มีพลังที่จะต้านทานอีกต่อไป

“โร่ววว !”

เสียงคำรามดังสนั่นขึ้นอีกครั้งเมื่อมังกรตัวหนึ่งโจมตีทะลุหัวใจของนางและทำให้นางชะงักนิ่งไป

“พรวดดด ! ฉินอวี้โม่ เจ้าไม่มีทางฆ่าข้าได้ !”

ฮวาฟางเฟยกระอักเลือดคำโตและล้มลงบนพื้นทว่าใบหน้ายังเผยให้เห็นรอยยิ้มเยือกเย็น

ภายใต้การควบคุมของฉินอวี้โม่ ข่ายอาคมเก้ามังกรทลายพิภพก็หยุดการโจมตีในขณะที่นางเดินตรงเข้าไปยังศูนย์กลางของมันอย่างช้า ๆ

“ฮวาฟางเฟย สิ่งใดกันที่ทำให้เจ้ามั่นใจว่าข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ ?”

นางยกยิ้มมุมปากและย่อตัวนั่งลงข้าง ๆ ฮวาฟางเฟยที่ไม่มีพลังตอบโต้อีกต่อไป แววตาของฉินอวี้โม่ในตอนนี้แสดงจิตสังหารอย่างไม่ปิดบัง

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าก็ลองดูสิ!”

ฮวาฟางเฟยหัวเราะอย่างเสียสติ ทันใดนั้นร่างของนางก็ค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นได้ชัดว่านางกำลังจะระเบิดตัวเอง

ฉินอวี้โม่คาดการณ์สิ่งนี้ไว้ก่อนแล้วและเพียงขยับมือเบา ๆ เพื่อดึงร่างของอีกฝ่ายเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัว

ตูมมมมม !

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวในขณะที่พลังทำลายล้างจากการระเบิดตัวเองของฮวาฟางเฟยทำลายภูเขาขนาดใหญ่ที่ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่ข้างในคฤหาสน์เฟิงหัวไป อย่างไรก็ตาม ฉินอวี้โม่และอสูรทั้งหมดไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

พลังระเบิดตัวเองของจอมยุทธ์ผู้ทรงพลังในขอบเขตเทพยุทธ์สามดาราถือว่าน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง ทว่าหากอยู่ภายในคฤหาสน์เฟิงหัวของฉินอวี้โม่ มันย่อมไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อนาง

“ยังคิดจะหนีอีกรึ ?”

เมื่อเห็นร่างจิตโปร่งแสงขนาดเท่าฝ่ามือที่พุ่งตัวออกไปในระยะไกล ฉินอวี้โม่ก็โบกมือออกไปและคว้ามันกลับมาทันที

“ที่นี่คือที่ใดกัน ?”

ร่างจิตดังกล่าวคือจิตวิญญาณของฮวาฟางเฟยนั่นเอง นับตั้งแต่ต้น นางวางแผนที่จะระเบิดร่างกายของตัวเองและใช้จิตวิญญาณหลบหนีออกไป

พลังทำลายล้างจากการระเบิดตัวเองของนางจะทำให้ฉินอวี้โม่บาดเจ็บสาหัสได้อย่างแน่นอน และหากฉวยโอกาสนั้นเพื่อหลบหนี ฉินอวี้โม่ก็ไม่มีทางที่จะขัดขวางนางได้

ไม่คิดเลยว่านางจะลืมพิจารณาถึงสมบัติที่วิเศษอย่างคฤหาสน์เฟิงหัว

ถึงแม้ว่านางระเบิดตัวเองได้สำเร็จและร่างจิตมีโอกาสหลบหนีจริงดังที่วางแผนไว้ อย่างไรก็ตาม ภายในคฤหาสน์ล่องหนแห่งนี้ ไม่ว่าจะพยายามหนีไปที่ใด ฮวาฟางเฟยก็ไม่มีทางรอดพ้นไปจากเงื้อมมือของฉินอวี้โม่

“ฮวาฟางเฟย มิใช่เจ้าบอกว่าข้าไม่มีทางฆ่าเจ้าได้รึ ?”

ฉินอวี้โม่จับเข้าไปที่ลำคอเล็ก ๆ ของร่างจิตของฮวาฟางเฟยพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน ตราบใดที่ออกแรงบีบเพียงเล็กน้อย นางก็จะทำลายจิตวิญญาณของฮวาฟางเฟยได้โดยสมบูรณ์และมิให้โอกาสอีกฝ่ายได้ฟื้นคืนชีพอีกต่อไป

“ไม่ ! ไม่นะ อย่าฆ่าข้าเลย !”

ฮวาฟางเฟยส่ายหน้าอย่างรวดเร็วและความหวาดกลัวเกาะกุมในหัวใจ

“ฮ่า ๆ ๆ เจ้าก่อกรรมทำชั่วมามากมายและยังสมคบคิดกับจอมยุทธ์ปีศาจ อยากรู้นักว่ามีสาเหตุใดกันที่ข้าไม่ควรฆ่าเจ้า ?”

ฉินอวี้โม่ยิ้มเย็นและแสดงจิตสังหารออกมาอย่างเปิดเผย

“ข้าทราบว่ามารดาของเจ้าอยู่ที่ใด เจ้าไม่อยากทราบรึว่าข้าจัดการกับเรื่องมารดาของเจ้าอย่างไร ?”

ฮวาฟางเฟยกลอกตาเล็กน้อยและรวบรวมความกล้าก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงข่มขู่

“ฉินอวี้โม่ หากเจ้าฆ่าข้า เจ้าจะไม่มีทางได้รับรู้ถึงเรื่องเหล่านี้”

ฮวาฟางเฟยคิดว่าฉินอวี้โม่จะสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ตราบใดที่เปิดเผยข้อมูลเพียงเล็กน้อย อีกฝ่ายก็จะไม่กล้าสังหารนางอีก และเมื่อถึงตอนนั้น นางก็จะมีโอกาสหลบหนีเอาตัวรอดในที่สุด

แต่ทว่า…นางไม่ทราบเกี่ยวกับ ‘วิธีการพิเศษ’ ของฉินอวี้โม่เลยสักนิด

“จริงรึ ?”

ฉินอวี้โม่ยกยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาและคลื่นพลังรุนแรงก็เจาะตรงเข้าไปที่จิตของฮวาฟางเฟยทันที

ภาพความทรงจำต่าง ๆ ในความคิดของนางถูกส่งต่อไปในความคิดของฉินอวี้โม่เสมือนกระจกสะท้อน และในเวลานี้ฉินอวี้โม่ก็ทราบถึงสาเหตุที่ฮวาฟางเฟยจับตัวมารดาของนางไปตั้งแต่แรก

“เป็นไปได้อย่างไร ?! นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน ! เจ้ามีวิชาขุดคุ้ยจิตวิญญาณของโลกปีศาจได้อย่างไร ?!”

ฮวาฟางเฟยเรียกสติกลับคืนมาและสีหน้าถอดสีขณะมองฉินอวี้โม่ด้วยแววตาตกตะลึง

“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจ้ายังไม่ทราบ หากข้าเดาไม่ผิด บุรุษผู้นั้นก็คงจะมาจากโลกปีศาจสินะ”

ฉินอวี้โม่เปิดมุมมองเพื่อให้ฮวาฟางเฟยมองเห็นสถานการณ์ข้างนอกคฤหาสน์เฟิงหัวได้อย่างชัดเจนและเอ่ยถามขณะชี้นิ้วไปยังบุรุษลึกลับผู้มีสีหน้าเรียบเฉยซึ่งยืนอยู่ไม่ไกล

“เจ้าทราบได้อย่างไร ?”

สีหน้าของของฮวาฟางเฟยเปลี่ยนไปอีกครั้ง เดิมทีนางคิดว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของจอมยุทธ์ปีศาจ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือเพียงจงใจแสร้งทำเป็นไม่รับรู้เรื่องราวและปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปเท่านั้น

“เพราะว่าคนที่เขาตามหาก็อยู่ที่นี่อย่างไรล่ะ !”

ฉินอวี้โม่ยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนกลุ่มเพลิงเล็ก ๆ ปรากฏที่ปลายนิ้วมือและแผดเผาร่างจิตโปร่งแสงของฮวาฟางเฟยจนสลายหายไป

ฮวาฟางเฟยไม่มีโอกาสได้ต่อต้านขัดขืนแม้แต่น้อยและจิตวิญญาณของนางก็ถูกทำลายไปโดยสมบูรณ์ นางไม่เหลือโอกาสในการฟื้นคืนชีพได้อีกต่อไป

“คิดไว้ไม่มีผิด เป็นคนพวกนั้นจริง ๆ ด้วย !”

ฉินอวี้โม่สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์นัก จากความคิดของฮวาฟางเฟย นางได้ทราบถึงตัวตนของผู้ที่จับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋นแล้ว

คนเหล่านั้นต้องการบางอย่างจากนาง แต่มิใช่จากตัวตนในปัจจุบันของนาง หากแต่เป็นตัวตนในอดีตเมื่อครั้งยังเป็นชิงเหอ

ในภพก่อน ตัวตนที่แท้จริงของนางคงจะพิเศษเหนือธรรมชาติมาก แม้ยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด ฉินอวี้โม่ก็พอจะเดาได้อย่างเลือนราง

เกรงว่าคนที่จับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋นคงจะสัมผัสถึงกลิ่นอายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตภพก่อนของฉินอวี้โม่ได้จากร่างของอวี๋เสี่ยวอวิ๋น เพราะเหตุนั้น พวกเขาจึงยอมทุ่มเททรัพยากรและเผชิญความวุ่นวายมากมายเพียงเพื่อจับตัวสตรีธรรมดา ๆ จากดินแดนระดับต่ำไป

คนเหล่านั้นจับตัวอวี๋เสี่ยวอวิ๋นไปเพื่อใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่ฉินอวี้โม่ จนกว่าจะทำสำเร็จ พวกเขาไม่มีทางสังหารอวี๋เสี่ยวอวิ๋นและนั่นหมายความว่านางจะยังปลอดภัยดี

เพียงได้ทราบเช่นนี้ ฉินอวี้โม่ก็โล่งใจขึ้นมาก สิ่งที่นางต้องทำคือสะสางความวุ่นวายที่นี่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดและเดินทางไปช่วยศิษย์พี่ที่โลกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นนางก็จะไปที่นั่นเพื่อตามหามารดาให้พบ…

ด้วยความคิดเพียงแวบเดียว ฉินอวี้โม่ก็ปรากฏตัวตรงหน้าทุกคนในสมรภูมิรบอีกครา

นับตั้งแต่ที่นางจับตัวฮวาฟางเฟยที่กำลังจะระเบิดตัวเองเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวและกลับออกมา เวลาก็ผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจเท่านั้นและคนอื่น ๆ ยังคงต่อสู้อย่างดุเดือดโดยไม่ทันสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น มีเพียงผู้ที่สังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดไม่กี่คนเท่านั้นที่มองเห็นการกระทำของนาง และบุรุษลึกลับจากโลกปีศาจก็คือหนึ่งในนั้น

“นายหญิง แล้วหงส์ฟ้านี่ล่ะ ?”

ฮวาฟางเฟยเสียชีวิตไปแล้วและจิตวิญญาณก็ดับสลายไป หงส์ฟ้าเองก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน มันยังคงถูกแช่แข็งอยู่กับที่และความรู้สึกทั้งหมดเฉื่อยชาเต็มที

มารยาโบกมือเล็กน้อยเพื่อทำลายน้ำแข็งเยือกเย็นบนร่างของหงส์ฟ้าและทำให้มันขยับเขยื้อนได้อย่างอิสระขณะเอ่ยถามฉินอวี้โม่

“โร่ววว !”

ก่อนที่ฉินอวี้โม่จะได้เอ่ยตอบ หงส์ฟ้าก็กลับคืนร่างอสูรและส่งเสียงคำรามแหลม จากนั้นทั้งร่างของมันก็ระเบิดออกมาโดยเลือกที่จะตายตามฮวาฟางเฟยไป

“มันเป็นอสูรที่ซื่อสัตย์และภักดีจริง ๆ”

ฉินอวี้โม่ถอนหายใจด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม หากไม่นึกถึงเรื่องที่มันเป็นอสูรประจำตัวของฮวาฟางเฟย หงส์ฟ้าตนนี้ก็เป็นอสูรที่ควรค่าแก่ความชื่นชมอย่างแท้จริง

อย่างน้อยที่สุด เมื่อผู้เป็นนายตายไป มันก็ไม่เลือกที่จะมีชีวิตอยู่และแปรพักตร์ไปหาผู้ใด หากแต่เลือกจุดจบที่น่าเศร้าทว่าถูกต้องเช่นนี้

เมื่อตระหนักว่าฮวาฟางเฟยและอสูรคู่กายถูกฉินอวี้โม่สังหารไปแล้ว บรรดาสมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจต่างก็ตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ขวัญและกำลังใจของฝ่ายดินแดนมหาเทพก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ฝ่ายดินแดนมหาเทพที่เดิมทีได้เปรียบอยู่แล้วก็เริ่มบุกโจมตีอย่างหนักจนทำให้จอมยุทธ์ปีศาจไม่มีพลังที่จะต้านทานได้อีกและถูกควบคุมโดยสมบูรณ์

ฉินอวี้โม่กวาดสายตามองสถานการณ์การต่อสู้รอบตัวและกำลังจะเข้าไปช่วยหานโม่ฉือ ทว่าจู่ ๆ ร่างหนึ่งก็เข้ามาขวางหน้าเสียก่อน

“แม่สาวน้อย ส่งมิติที่สองของเจ้ามาให้ข้า !”

น้ำเสียงเรียบเฉยเย็นชาดังมาจากบุรุษผู้นั้นพร้อมกับแรงกดดันรุนแรงที่กดข่มฉินอวี้โม่ในทันที

ผู้ที่เข้ามาขวางหน้าฉินอวี้โม่มิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นบุรุษผู้นั้นของเผ่าปีศาจนั่นเอง

เดิมทีเขาไม่เคยคิดสนใจคนธรรมดาต่ำต้อยจากดินแดนระดับต่ำและไม่มีความคิดที่จะเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย

อย่างไรก็ตาม คฤหาสน์เฟิงหัวของฉินอวี้โม่ดึงดูดความสนใจของเขายิ่งนัก เพราะถึงอย่างไร แม้แต่ในโลกปีศาจก็ยังไม่มีมิติที่สองที่สมบูรณ์แบบมากเช่นนี้

ด้วยจิตใจที่ต้องการจะแย่งชิงสมบัติของผู้อื่น เขาจึงตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าฉินอวี้โม่ทันที ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องได้มิติที่สองของนางมาครองให้ได้ !

.