บทที่ 1263 เลือดขั้วหัวใจมีเพียงสามคำ

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1263 เลือดขั้วหัวใจมีเพียงสามคำ

เสียงกระหึ่มดังขึ้นอีก

ทุกคนยังไม่ได้สติกลับมาจากขั้นสูงสุดระดับเจ็ด เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหาน ก็กระอักเลือดบาดเจ็บสาหัสทั้งคู่

รองหัวหน้าเผ่าใจเต้นรัว

ขั้นสูงสุดระดับเจ็ด?

นั่นก็เท่ากับว่าใกล้ถึงระดับคนแล้วไม่ใช่หรือ?

หากไม่กำจัดนางในวันนี้ ต่อไปใครจะสามารถกำจัดนางได้?

เมื่อเห็นสีหน้าหัวหน้าเผ่าตนเองขาวซีด มือขวายันพื้น นานสักพักก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้

รถเข็นของเย่จิ่งหานก็ถูกสะเทือนพังทลาย

กู้ชูหน่วนก็หายใจรวยริน ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้

รองหัวหน้าเผ่ากัดฟัน

เขาบีบคั้นเพิ่มพูนวิทยายุทธ์ ระเบิดพลังอันแข็งแกร่งออกมา พุ่งโจมตีไปยังฮัวอิ่งอย่างยอมพังพินาศลงพร้อมกัน

เวินเส้าหยีรีบพูดขึ้นมาว่า “รองหัวหน้าเผ่า ถอยออกไป”

“หัวหน้าเผ่า ท่านรีบหนีไป เผ่าเทียนเฟิ่นต้องการท่าน”

“ปังๆ…..”

รองหัวหน้าเผ่าใช้ไฟแห่งสายฟ้า ผ่าไปยังฮัวอิ่ง ในขณะเดียวกันก็เผาผลาญพลังชีวิตของตัวเองไปพร้อมๆกัน กลายเป็นม่านอันหนึ่ง ปกคลุมฮัวอิ่ง ต่อให้ต้องตายก็ต้องกำจัดนางให้ได้

ด้วยความร้อนใจ เวินเส้าหยีกัดฟันลุกขึ้นมา แต่เพราะใช้พลังมากเกินไป ก็กระอักเลือดออกมาอีกจนเปื้อนบนเสื้อผ้าสีขาว

เขาพยายามปรับลมหายใจที่กระสับกระส่าย หยิบขลุ่ยหยกขึ้นมาเป่าอย่างสั่นเทา

เสียงขลุ่ยดังขึ้น บรรยากาศเยือกเย็นลงทันที น้ำใสกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง พุ่งไปหาฮัวอิ่งอย่างท่วมท้น

ฮัวอิ่งรวดเร็วมาก ก้อนน้ำแข็งไม่สามารถที่จะทำอะไรนางได้

เพราะรองหัวหน้าเผ่าอยู่ใกล้นางมาก ถูกทำร้ายอย่างทรมาน

ฝ่ามือแล้วฝ่ามือเล่าฟาดตบบนร่างกายรองหัวหน้าเผ่า แล้วรองหัวหน้าเผ่าก็ไม่ยอมไปไหน คิดแต่อยากจะถ่วงเวลาเพื่อให้เวินเส้าหยีได้หนีไป

เวินเส้าหยีจะไปได้อย่างไร

เขาช่างไม่เข้าใจเลย

วันนี้พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หากยังไม่สามารถที่จะฆ่าทำลายล้างนาง ต่อไปคิดอยากที่จะรวมตัวกันอีกครั้งนั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก

สายตาเวินเส้าหยีโหดเหี้ยมขึ้นมา

เป่าขลุ่ยหยกรวดเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิในอากาศจับตัวเป็นน้ำแข็ง

เกล็ดหิมะร่วงโรย โบยบินเหมือนจิงหลิงอยู่ในอากาศ

ทุกคนหนาวเหน็บจนสั่นเทา

อุณหภูมิต่ำลงอย่างรวดเร็วเกินไป ทันใดนั้นบริเวณสถานที่ทำพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดินล้วนกลายเป็นน้ำแข็ง

น้ำแข็งรวมตัวกลายเป็นอาวุธร้ายแรงหลายชนิด เปลี่ยนแปลงอยู่อย่างต่อเนื่อง มุ่งโจมตีฮัวอิ่งอย่างรุนแรง

รองหัวหน้าเผ่าใจร้อนดุจดั่งไฟไหม้

พลิกเปลี่ยนจากร้อนเป็นหนาวด้วยกำลังเพียงคนเดียว นี่จะต้องสูญเสียกำลังภายในตั้งเท่าไหร่

เมื่อกี้เพื่อช่วยพวกเราขุนนางแล้ว เขาได้ใช้กำลังภายในไปกว่าครึ่งแล้ว

หากเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้หัวหน้าเผ่าของเขาไม่ตาย พลังครึ่งหนึ่งก็จะสูญหายไปหมดแล้ว

เย่จิ่งหานก็รู้สึกได้

แต่กู้ชูหน่วนล้มอยู่ห่างจากเขาไม่ไกล และหายใจอย่างอ่อนแรงมาก

เขาทำได้เพียงคลานมาหากู้ชูหน่วนอย่างยากลำบาก ใช้กำลังภายในของตนเองปกป้องลมหายใจของนางไว้

“มู่หน่วน เจ้าจะตายไม่ได้ ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย เจ้าก็จะตายไม่ได้ รู้ไหม”

“ตื่น รีบตื่นขึ้นมา เจ้าจะแก้แค้นให้กับตระกูลมู่ไม่ใช่หรือ? เจ้าจะตามหาเซียวหยู่เซวียนไม่ใช่หรือ หากเจ้าตายไปแล้ว ใครจะช่วยเจ้าแก้แค้น ใครจะช่วยเจ้าตามหาเซียวหยู่เซวียน”

เย่จิ่งหานแทบอยากที่จะเอาพลังทั้งหมดของตนเองถ่ายทอดให้กู้ชูหน่วน

เขากระวนกระวายใจอย่างมาก

กลัวอย่างมากว่ากู้ชูหน่วนจะตายอยู่ที่นี่

ทำไมเขาถึงได้เจ็บปวดใจขนาดนั้น

ทำไม

พวกกระทิงไฟเก้าเขาสัตว์อสูรต่างก็รีบมาถึง ถ่ายทอดพลังของตนเองให้กับกู้ชูหน่วน

“กูหน่ายนาย เจ้าตายไม่ได้ หากเจ้าตายไปแล้ว ต่อไปใครจะคอยปกป้องพวกเรา”

“หื้อๆ….ฟื้นตื่นขึ้นมา พวกเราสัตว์อสูรทั้งหมดล้วนต้องการท่าน”

เจ็บ

ปวดหัวมาก

ร่างกายของนางก็เจ็บปวดมาก เจ็บปวดเหมือนถูกรถม้าเหยียบทับอยู่อย่างต่อเนื่อง

ใครกันที่พูดอยู่ข้างหูนางอย่างหนวกหู?

กู้ชูหน่วนอยากลืมตาขึ้นมา แต่ยังไงก็ไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้

“ปัง….”

“พัฟ….”

รองหัวหน้าเผ่าหล่นตกลง ถอนหายใจเยอะกว่าสูดลมหายใจเข้า

เย่จิ่งหานเงยหน้ามองไป กลับเห็นเวินเส้าหยีรวบรวมกำลังอยู่อย่างต่อเนื่อง ใช้วิชาน้ำแข็ง ก่อให้กลายเป็นน้ำแข็งอย่างรวดเร็วพุ่งไปหาฮัวอิ่งอย่างพายุพัดกระหน่ำ

หวังอยากที่จะปิดผนึกฮัวอิ่ง

ก้อนน้ำแข็งสีขาวปรากฏรอยเลือด

นั่นคือเลือดขั้วหัวใจของเวินเส้าหยี

เลือดขั้วหัวใจมากที่สุดนั้นมีเพียงแค่สามคำ หากใช้จนหมดสิ้นแล้ว เวินเส้าหยีก็จะตายแน่