ตอนที่ 1089 กิเลนอัคคีแสดงพลัง

คุณหนูสี่ สตรีเปื้อนเลือด

ผู้มาใหม่คือบุรุษหนุ่มสวมอาภรณ์สีดำซึ่งกำลังยืนประจันหน้ากับเหออวี่ด้วยแววตาเย้ยหยันและรอยยิ้มเยือกเย็น

“หึ เจ้านั่นวางมาดใหญ่โตเสียจริง !”

ซิวผู้ซึ่งต่อสู้กับมังกรกระดูกดำอยู่กลางอากาศก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มขณะยังคงโจมตีต่อไป กระบวนท่าของมันก็ดุเดือดมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่าตอนนี้การต่อสู้ในหลาย ๆ คู่ได้สิ้นสุดลงแล้ว เพราะเหตุนั้นมันจึงต้องการจบการต่อสู้โดยเร็วที่สุดเช่นกันเพื่อเข้าไปช่วยฉินอวี้โม่อีกแรง

บุรุษชุดดำผู้นั้นมิใช่ใครอื่น หากแต่เป็นกิเลนอัคคี—อสูรคู่กายของหานโม่ฉือนั่นเอง

ความทรงจำของหานโม่ฉือฟื้นฟูกลับมาอย่างต่อเนื่องและความแข็งแกร่งของกิเลนอัคคีก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกันโดยที่ก่อนหน้านี้มันก็เข้าสู่สภาวะเก็บตัวบ่มเพาะพลัง

อย่างไรก็ตาม เป็นเพียงเมื่อครู่นี้เองที่มันทะลวงพลังได้สำเร็จและสัมผัสได้ว่าเหออวี่กำลังข่มขู่ทุกคนอยู่ เพราะเหตุนั้น มันจึงปรากฏตัวขึ้นมาในสมรภูมิรบแห่งนี้ทันที

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของกิเลนอัคคีเหนือชั้นกว่าหานโม่ฉือด้วยซ้ำและสามารถรับมือกับเหออวี่ได้อย่างไม่เป็นปัญหา

“เจ้าเป็นใครกัน ?”

สีหน้าของเหออวี่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเนื่องจากพลังของบุรุษชุดดำตรงหน้าล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะรับรู้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้มาใหม่นี้ก็มีแรงกดดันที่คล้ายคลึงกับหานโม่ฉือ หากแต่เป็นแรงกดดันที่ทรงพลังยิ่งกว่าซึ่งแม้แต่เขาก็รู้สึกว่าจะต้านทานไม่ได้

“ข้าคือบรรพบุรุษของเจ้า !”

กิเลนอัคคีมองเหออวี่ด้วยแววตาเหยียดหยามทว่าสิ่งที่กล่าวออกไปก็เป็นความจริง

มันเป็นอสูรแห่งโชคชะตาของหานโม่ฉือและมีชีวิตอยู่มานานหลายหมื่นปี ในเมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็ถือเป็นบรรพบุรุษเก่าแก่ของเผ่าปีศาจมิใช่หรือ ?

น่าเสียดายที่เหออวี่คิดเพียงว่าสาเหตุที่กิเลนอัคคีกล่าวเช่นนี้ก็เพียงเพื่อจะทำให้เขาอับอายเท่านั้น

“กล่าววาจาได้อย่างหน้าไม่อายว่าเป็นบรรพบุรุษของผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้า รนหาที่ตายเสียแล้ว !”

เหออวี่ตะโกนกร้าวอย่างฉุนเฉียวก่อนโบกมือปล่อยพลังตรงไปที่กิเลนอัคคี

“ไสหัวไปให้พ้น !”

กิเลนอัคคีกล่าวเพียงสั้น ๆ ขณะปล่อยพลังตอบโต้เหออวี่จนร่างของเขากระเด็นออกไปและขยับเขยื้อนไม่ได้ชั่วขณะ

“เป็นเพียงมดปลวกแต่กล้าขึ้นเสียงกับบรรพบุรุษอย่างข้ารึ ? เห็นทีเผ่าปีศาจทุกวันนี้คงจะตกต่ำลงมากจริง ๆ จึงได้มีเด็กรุ่นหลังที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเช่นนี้ !”

กิเลนอัคคีกล่าวด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ โลกปีศาจในอดีตไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

หากเป็นครั้งอดีต ผู้ที่มีความแข็งแกร่งในระดับของเหออวี่ไม่ถือว่าเป็นจอมยุทธ์ระดับห้าของเผ่าปีศาจด้วยซ้ำและไม่มีผู้ใดเห็นหัวเขาอย่างแน่นอน ทว่าเขากลับกล้าเรียกตัวเองว่าผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้ อีกทั้งยังแสดงท่าทีที่หยิ่งผยองอย่างที่สุด

“เจ้าเป็นใครกันแน่…”

สีหน้าของเหออวี่เริ่มแสดงให้เห็นถึงความตื่นตระหนกเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะถูกอีกฝ่ายกดข่มได้อย่างง่ายดายและหมดหนทางตอบโต้ แรงกดดันอันทรงพลังนี้ก็ด้อยกว่าผู้อาวุโสสามผู้เป็นอาจารย์ของเขาเพียงไม่มากเท่านั้น

แน่นอนว่ากิเลนอัคคีทราบเรื่องนั้นเป็นอย่างดีเช่นกัน แม้ความแข็งแกร่งของมันจะฟื้นฟูกลับคืนมามากแล้ว มันก็ทำได้เพียงหลบหนีเพื่อเอาตัวรอดหากต้องประจันหน้ากับผู้อาวุโสสามและตอนนี้มันรับมือได้เพียงลิ่วล้อเช่นเหออวี่เท่านั้น หากต้องการต่อสู้เพื่อเอาชนะบรรดาผู้อาวุโสของเผ่าปีศาจ มันยังต้องใช้เวลาบ่มเพาะพลังอีกพักใหญ่

สาเหตุที่เหออวี่ถูกกดข่มได้อย่างง่ายดายในครานี้เป็นเพราะพลังทางสายเลือด ในฐานะอสูรแห่งโชคชะตาของนายน้อยแห่งเผ่าปีศาจ สายเลือดที่บริสุทธิ์ของมันจึงมีแรงกดดันที่ทำให้สมาชิกของเผ่าปีศาจหวาดหวั่นและยำเกรงได้

“ต้องให้ข้ากล่าวอีกกี่ครั้ง ข้าคือบรรพบุรุษของเจ้า !”

กิเลนอัคคีชายตามองเหออวี่ด้วยสายตาที่ราวกับกำลังมองคนโง่เขลาเบาปัญญาก็ว่าได้ ข้าประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าเป็นบรรพบุรุษของเขา เหตุใดเจ้าเด็กเหลือขอนี่จึงยังไม่เข้าใจเสียที ?

“หรือว่าจะเป็นอสูรแห่งโชคชะตาของนายน้อยแห่งเผ่าปีศาจ…ท่านกิเลนอัคคีอย่างนั้นหรือ ?”

ในที่สุดเหออวี่ก็นึกขึ้นได้ เพียงนึกถึงกิเลนอัคคี สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอีกครา ในฐานะสมาชิกของเผ่าปีศาจ เขาย่อมรู้จักกิเลนอัคคีผู้เป็นอสูรคู่กายที่มีพลังความแข็งแกร่งไม่ต่างจากนายน้อยแห่งเผ่าปีศาจดี มันเป็นอสูรที่ทำให้ทุกคนในโลกปีศาจหวาดหวั่นอย่างที่สุด

เมื่อนายน้อยแห่งเผ่าปีศาจล่มสลายไปในตอนนั้น กิเลนอัคคีก็หายสาบสูญไปพร้อมกับเขาเช่นกัน คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะยังมีชีวิตอยู่

“เหอะ ในที่สุดก็เข้าใจเสียที ด้วยสติปัญญาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเช่นนี้ อาจารย์ของเจ้าส่งเจ้ามาจับตัวนายท่านของข้าได้อย่างไรกัน ?”

กิเลนอัคคีไม่รีบร้อนโจมตีขณะเดินเข้าไปหาเหออวี่และกล่าวด้วยวาจาเหยียดหยามอย่างไม่ปิดบัง

“ฮ่า ๆ ๆ ดีเลย หากสังหารนายน้อยสำเร็จและจับตัวเจ้ากลับไปได้ ท่านอาจารย์จะต้องพึงพอใจมากเป็นแน่ เมื่อถึงตอนนั้น ข้าจะได้เป็นศิษย์เอกของเผ่าปีศาจและไม่ต้องทนมองหน้าคนพวกนั้นที่เหยียดหยามข้าอีกต่อไป !”

จู่ ๆ เหออวี่ก็หัวเราะราวกับเสียสติและลูกแก้วสีดำปรากฏในมือของเขาก่อนทั้งร่างจะปกคลุมไปด้วยม่านหมอกสีดำทะมึนซึ่งทำให้แรงกดดันของกิเลนอัคคีหายวับไปอย่างไร้ร่องรอย

“ลูกแก้วปราบปีศาจ ? อาจารย์ของเจ้าถึงขั้นให้ของสิ่งนี้มารึ ?”

เมื่อได้เห็นลักษณะของลูกแก้วในมือเหออวี่อย่างชัดเจน สีหน้าของกิเลนอัคคีก็ดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย

‘ลูกแก้วปราบปีศาจ’ คือสมบัติล้ำค่าของเผ่าปีศาจซึ่งมีพลังประหลาดที่สามารถควบคุมสายเลือดของจ้าวแห่งปีศาจได้ และกิเลนอัคคีก็มิใช่ข้อยกเว้น

เพื่อจัดการกับหานโม่ฉือ บุรุษผู้นั้นถึงกับมอบลูกแก้วปราบปีศาจให้กับเหออวี่ กล่าวได้ว่าพวกเขามีการเตรียมความพร้อมมาเป็นอย่างดี

น่าเสียดายที่ความแข็งแกร่งของเหออวี่ในตอนนี้ยังไม่สามารถใช้พลังของลูกแก้วปราบปีศาจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น คนของเผ่าปีศาจทราบเพียงว่าลูกแก้วปราบปีศาจนี้สามารถยับยั้งและควบคุมสายเลือดของจ้าวแห่งปีศาจได้ ทว่าพวกเขาไม่ทราบเลยว่ามันก็เป็นวัตถุที่ดีที่สุดที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาสายเลือดของจ้าวแห่งปีศาจเช่นกัน

“ขอบคุณสำหรับของขวัญจากอาจารย์ของเจ้า ข้ายินดีรับลูกแก้วปราบปีศาจนี้ไว้”

กิเลนอัคคีโบกมือออกไปเล็กน้อยก่อนที่จะมีคลื่นพลังพุ่งออกไปและถอนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นลูกแก้วปราบปีศาจในมือของเหออวี่ก็เข้ามาอยู่ในมือของมันทันที

“นายท่าน ด้วยลูกแก้วปราบปีศาจนี้ ความแข็งแกร่งของท่านจะฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว”

มันหันไปกล่าวกับหานโม่ฉือพร้อมรอยยิ้ม ในเมื่อมีสมบัติล้ำค่าเช่นลูกแก้วปราบปีศาจอยู่ในมือ พลังของหานโม่ฉือคงจะฟื้นฟูได้ถึงห้าในสิบส่วนของความแข็งแกร่งดั้งเดิมภายในเวลาเพียงไม่นาน

หลังจากสะสางความวุ่นวายที่ดินแดนมหาเทพเสร็จสิ้น หานโม่ฉือจะเดินทางไปที่โลกปีศาจเป็นอันดับแรก หากมีความแข็งแกร่งมากถึงห้าในสิบส่วนจากเดิมก็ถือว่าเขามีพลังมากพอที่จะปกป้องตัวเองได้แล้ว

แรกเริ่มเดิมที สมาชิกส่วนใหญ่ของเผ่าปีศาจก็ยอมจำนนต่อหานโม่ฉืออยู่เป็นทุนเดิม ครานี้เขาจะกลับไปที่นั่นเพื่อยึดอำนาจเหล่านั้นกลับคืนมา ทว่าหากมีความแข็งแกร่งที่ไม่มากพอ เกรงว่าเขาคงไม่สามารถปกครองคนเหล่านั้นได้ กล่าวได้ว่าการที่ได้ลูกแก้วปราบปีศาจมาครอบครองในตอนนี้เปรียบดั่งการให้ถ่านกลางหิมะพอดิบพอดี

* 雪中送炭 ให้ถ่านกลางหิมะ เปรียบถึงการให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที

“เป็นไปได้อย่างไรกัน ?!”

รอยยิ้มมั่นอกมั่นใจบนใบหน้าของเหออวี่ชะงักไปทันทีและแววตาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ ผู้อาวุโสสามบอกเขาเพียงว่าลูกแก้วปราบปีศาจนี้สามารถควบคุมและยับยั้งสายเลือดจ้าวแห่งปีศาจได้เท่านั้น

หากจัดการกับเป้าหมายไม่ได้ เขาสามารถใช้ลูกแก้วปราบปีศาจนี้เพื่อเอาชนะนายน้อยที่ตามหาได้อย่างแน่นอน… แล้วเหตุใดสิ่งที่เกิดขึ้นจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เขาจะจัดการกับหานโม่ฉือไม่ได้เท่านั้น ทว่ายังต้องสูญเสียสมบัติล้ำค่าเช่นลูกแก้วปราบปีศาจไปอีกด้วย…

“ฮ่า ๆ ๆ สำหรับความเข้าใจเกี่ยวกับเผ่าปีศาจ เจ้ายังห่างไกลไปอีกมากนัก เจ้าหนูเอ๋ย ข้าจะให้ทางเลือกกับเจ้า…จะยอมจำนนแต่โดยดีและกลับไปบอกอาจารย์ของเจ้าว่าสังหารนายท่านและข้าสำเร็จแล้วเพื่อเป็นการถ่วงเวลาให้กับเรา หรือจะอยู่ที่นี่ต่อไปและถูกฝังอยู่ที่นี่ในสภาพเดียวกับพวกจอมยุทธ์ปีศาจ ?”

กิเลนอัคคีหัวเราะเบา ๆ และปล่อยพลังจากปลายนิ้วมือออกไปบีบรัดรอบตัวเหออวี่จนเขาขยับเขยื้อนไม่ได้อีกครั้ง

คำพูดของมันเจือไปด้วยคำข่มขู่อย่างชัดเจน และจิตสังหารแรงกล้าในแววตาก็ปรากฏชัดเช่นกัน

“ข้าไม่เชื่อ ความแข็งแกร่งของพวกเจ้าในตอนนี้อ่อนแอกว่าข้ามากนัก แล้วพวกเจ้าจะเอาชนะข้าได้อย่างไร !”

เหออวี่ส่ายศีรษะด้วยความไม่เชื่อขณะจดจ่อพลังไปยังจุดหนึ่งเพื่อพยายามฝ่าทะลวงออกจากพลังของกิเลนอัคคีที่กำลังบีบรัดตัวเขา น่าเสียดายที่แม้หลังจากพยายามอยู่หลายครา มันก็ยังไม่เกิดผลใด ๆ ในทางตรงกันข้าม พันธนาการดังกล่าวก็แน่นหนามากขึ้นเรื่อย ๆ และเหออวี่รู้สึกได้ว่าพลังมายาในร่างของตนเองกำลังหายไปอย่างต่อเนื่อง

“ข้าทราบดีว่าเจ้ามีของบางอย่างที่ช่วยให้ส่งข่าวกลับไปที่นั่นได้ ทว่าตราบใดที่ข้าไม่ต้องการ เจ้าก็ไม่มีทางส่งข่าวกลับไปได้ เลือกมาเถอะว่าจะยอมตายหรืออยากมีชีวิตต่อไป !”

กิเลนอัคคีกล่าวต่อและประกาศอย่างชัดเจนว่าเหออวี่ไม่มีทางใช้ไพ่ตายของตนเองได้