เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1673

หลังผ่านไปสองวัน ที่ตระกูลหั่ว

อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง วันนี้เป็นวันที่อากาศดีซึ่งหาได้ยากมาก

ใต้เขาเทียนนู่ หินแร่รับแสงอาทิตย์ แสงสะดุดตากะพริบอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันยังสะท้อนเงาของหั่วหลงจู้ด้วย

หั่วหลงจู้คุกเข่าอยู่ที่ตีนเขา ตะโกนแทบขาดใจว่า “ฉันไม่ไป ฉันคือลูกหลานตระกูลหั่ว ฉันไม่ไปนอกอากาศเวิ้งว้าง ฉันจะอยู่ตระกูลหั่ว!”

ลูกหลานตระกูลหั่วที่อยู่รอบๆ มองด้านหลังของหั่วหลงจู้แล้วถอนหายใจไม่หยุด

ด้านหน้าหั่วหลงจู้ ผู้อาวุโสห้ามองเขาอย่างเฉยเมยแล้วพูดว่า “หั่วหลงจู้ นี่ไม่ใช่แค่คำสั่งของผู้อาวุโสใหญ่ ยังเป็นคำสั่งของเจ้าบ้านด้วย นายรีบไปซะเถอะ ถ้านายทำผลงานนอกอากาศเวิ้งว้างได้ดี ไม่แน่อาจได้กลับมาก็ได้!”

หั่วหลงจู้กัดฟันพูดว่า “ฉันไม่เชื่อ ทำไมพ่อถึงไล่ฉันออกจากตระกูลหั่ว ฉันเป็นลูกแท้ๆ ของเขา ฉันคือคุณชายรองตระกูลหั่ว!”

นัยน์ตาผู้อาวุโสห้าฉายประกายเฉยเมย หลังจากนั้นก้มหน้าเล็กน้อย มองหั่วหลงจู้แล้วพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “นายยังรู้เหรอว่าตัวเองคือคุณชายรองตระกูลหั่ว แล้วนายทำลายชื่อเสียงตระกูลหั่วทำไม ทำไมต้องทำให้ตระกูลหั่วเสียหน้า นายรู้ไหมว่าถ้าลู่ฝานไม่ได้ที่หนึ่งมา ตอนนี้ตระกูลหั่วคงโดนคนทั้งประเทศตันเซิ่งหัวเราะเยาะไปแล้ว นายบอกฉันมาสิคุณชายรองตระกูลหั่ว ทำไมต้องทำเรื่องแบบนี้”

หั่วหลงจู้พูดอะไรไม่ออก เขากำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ

ผู้อาวุโสห้าถอนหายใจแล้วพูดว่า “เรื่องถึงขั้นนี้แล้ว ฉันทำได้แค่นี้ ทำเรื่องผิดก็ต้องรับโทษ หั่วหลงจู้ จำไว้ว่าตอนนี้นายยังแซ่หั่ว อย่าทำให้ขายหน้าอีก!”

ผู้อาวุโสห้าพูดเน้นคำว่าขายหน้า

หั่วหลงจู้เถียงไม่ได้ แล้วก็ไม่รู้จะตอบยังไง

ผ่านไปนาน หั่วหลงจู้ลุกขึ้นด้วยสีหน้าเศร้าสลด จากนั้นหันหลังเดินไปข้างนอก

ฝีเท้าเขาโงนเงน เขาสติหลุดไปแล้ว

ลูกหลานตระกูลหั่วรอบๆ หลีกทางให้ หั่วหลงจู้เดินผ่านข้างตัวพวกเขา

ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ แต่หั่วหลงจู้รู้สึกว่าแววตาพวกเขาแหลมคมและเย็นยะเยือกมาก เหมือนตกลงไปในเหวลึกอย่างไรอย่างนั้น

คนรวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาคุยกับหั่วหลงจู้สักคน

ลูกหลานตระกูลหั่วที่สนิทกับหั่วหลงจู้ก็หลบอยู่ในกลุ่มคน ไม่กล้าออกมา

หั่วหลงจู้เห็นพวกเขา แต่ไม่พูดอะไรออกมา

ความอบอุ่นและเย็นชาของผู้คน ชาวโลกไร้น้ำใจต่อกัน คงเป็นแบบนี้สินะ

หั่วหลงจู้ค่อยๆ เดินไปถึงหน้าประตูหมู่บ้านตระกูลหั่ว ตอนนี้มีคนรออยู่ที่นี่ไม่น้อย

ผู้ฝึกชี่สวมชุดคลุมสีม่วงสิบสามคนยืนตระหง่าน ด้านหน้าพวกเขาคือหัวหน้าเก้าหั่วตันซู

ส่วนข้างๆ หั่วตันซูคือผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นก็คือหลิงเหยา!

หั่วหลงจู้ไม่ได้จำหลิงเหยาได้ทันที แค่รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้คุ้นตาเท่านั้น

เขามองซ้ายมองขวา พบว่าคนที่ควรมาส่งที่สุดกลับไม่มา

หั่วหลงจู้พูดด้วยเสียงแหบพร่า “พี่ไม่มาส่งฉันเหรอ”

หั่วตันซูพูดว่า “คุณชายรอง คุณชายใหญ่โดนขังไว้ ตอนนี้อยู่ในถ้ำไฟเซียน ไม่สามารถออกมาได้จริงๆ ดังนั้นจึงขอให้ฉันมาส่งคุณชาย นี่คือของที่เขาฝากให้คุณชาย!”

พูดพลาง หั่วตันซูเอาสมุดออกมาให้หั่วหลงจู้

เมื่อเพ่งมอง หั่วหลงจู้ยกยิ้มมุมปาก แค่นยิ้มน่ากลัวออกมา “เนื้อหาวิชาไฟถ้ำเซียน ทำให้พี่ต้องหนักใจแล้ว”

เมื่อเก็บสมุดเรียบร้อย หั่วหลงจู้มองผู้ฝึกชี่ชุดคลุมสีม่วงแล้วพูดว่า “พวกนายมาคุ้มตัวฉันไปส่งใช่ไหม ไปกันเถอะ รีบผนึกฉันแล้วพาไปนอกอากาศเวิ้งว้างเถอะ!”

ผู้ฝึกชี่ชุดคลุมสีม่วงทั้งสิบสามคนมองหน้ากันไปมา แต่ไม่มีใครเข้ามาสักคน

หั่วตันซูพูดว่า “คุณชายรอง ไม่มีใครผนึกคุณชายทั้งนั้น พวกเขาแค่นำทางให้คุณชายเท่านั้น แล้วก็หลิงเหยาด้วย เธอมาส่งคุณชายเหมือนกัน”

หั่วหลงจู้มองหลิงเหยาอย่างประหลาดใจ “ส่งเหรอ”

เมื่อมองหน้าหลิงเหยาอย่างละเอียดอยู่นาน หั่วหลงจู้จำได้แล้ว “เธอคือสาวใช้ข้างกายลู่ฝานใช่ไหม!”

หลิงเหยาตอบด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ฉันมาส่งคุณชายรองแทนลู่ฝาน ยังไงครั้งหนึ่งก็เคยรู้จักกัน”

หั่วหลงจู้ใบหน้ากระตุก คิ้วกระตุกไม่หยุด “ลู่ฝานให้เธอมาเหรอ ทำไมลู่ฝานถึงให้เธอมาส่งฉัน!”

หลิงเหยาพูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่เหรอ”

จู่ๆ หั่วหลงจู้หัวเราะออกมา หัวเราะอย่างอ้างว้างมาก

“คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายคนที่มาส่งฉันคือคนที่ฉันเคยล่วงเกิน หลิงเหยาใช่ไหม เธอบอกลู่ฝานด้วยว่าถ้าฉันได้กลับมา จะดื่มและพูดคุยกับเขาแน่นอน!”

หลิงเหยายิ้มแล้วพูดว่า “ต้องมีวันนั้นอยู่แล้ว เชิญคุณชายหั่วหลงจู้ ฉันจะพยายามส่งคุณชายให้เต็มที่ นี่คือความปรารถนาของลู่ฝาน”

หั่วหลงจู้พยักหน้าหงึกๆ จากนั้นก้าวไปข้างหน้า

ผู้ฝึกชี่ชุดคลุมสีม่วงทั้งสิบสามคนแยกเป็นสองทาง จู่ๆ มีเรือสีม่วงปรากฏออกมา

หั่วหลงจู้ขึ้นไปยืนด้านบน เรือขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกคนขึ้นไปบนเรือตามลำดับ หลิงเหยาก็เดินขึ้นไปเหมือนกัน

หั่วตันซูกำลังจะตามขึ้นไปเหมือนกัน หลิงเหยาขวางเขาแล้วพูดว่า “หัวหน้าเก้าไม่ต้องมาหรอก ฉันไปส่งคุณชายรองแทนหัวหน้าเอง หัวหน้าต้องไปรายงานคุณชายใหญ่ไม่ใช่เหรอ อย่าทำให้เรื่องล่าช้าเลย!”

หั่วหลงจู้ก็พูดว่า “ใช่ นายไปรายงานพี่ชายฉันเถอะ บอกว่าฉันสบายดีมาก ต้องมีสักวันที่ฉันกลับมา”