บทที่ 733
เย่เฉินก็กำลังครุ่นคิดปัญหา เซียวชูหรันก็รีบถามอย่างทนไม่ได้ว่า “คุณกับพ่อเป็นอย่างไรบ้าง? มีวี่แววไหม?”
“เอ่อ….” เย่เฉินมองกองปิ้งย่างและเบียร์ตรงหน้า แล้วก็พูดอย่างผิดต่อความในใจว่า “พวกเราตามหาแถวสถานที่เล่นไพ่นกกระจอกแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววอะไร”
เซียวชูหรันก็ถอนหายใจ พูดว่า “งั้นพวกคุณก็ตามหาต่อไปเถอะ ฉันกับรั่งหลินก็จะไปหาต่อ”
“ได้เลย” เย่เฉินรีบพูดต่อ “วางใจเถอะ ผมกับพ่อจะช่วยกันหาเอง!”
“ได้” เซียวชูหรันพูดว่า “งั้นฉันวางสายแล้วนะ ได้ความอะไรก็รีบติดต่อมา”
“ไม่มีปัญหา!”
ทางเย่เฉินก็วางสาย เซียวฉางควนก็กำลังเจริญอาหาร กินปิ้งย่างอย่างหนำใจ
เขากระดกเบียร์ยกแก้ว แล้วก็รินให้เย่เฉิน กินไปพูดไปว่า “ไอ้ลูกเขย วันนี้ไม่มีใครมาขัดอารมณ์เราแล้ว พวกเราก็ดื่มเยอะๆ หน่อย มา พ่อดื่มก่อนเลย”
เย่เฉินก็หัวเราะในใจ หม่าหลันไม่อยู่ พ่อตาก็เหมือนได้ปลดปล่อย แล้วก็พยักหน้าพูดออกมาว่า “พ่อก็อย่าดื่มเยอะครับ ดื่มเยอะแล้วสุขภาพไม่ดี”
เซียวฉางควนก็หัวเราะลั่น พูดว่า “มีข่าวดีก็มีความสุขจริงๆ ตอนนี้พ่อหวังว่าแม่ยายแกจะถูกพวกแก๊งต้มตุ๋นหลอกไปเสีย ถึงอย่างไรเข้าไปรับความทุกข์ก็ไม่ถึงกับตาย ขังเธอไว้สัก3ปี5ปี ให้พวกเราได้อยู่อย่างสงบๆ หน่อย”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วก็ถอนหายใจพูดว่า “ผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน แต่กลัวว่าเซียวชูหรันจะรับไม่ได้”
เซียวฉางควนก็ถอนหายใจพูดว่า “จะพูดไปก็ใช่อยู่ เซียวชูหรันเป็นเด็กกตัญญู กตัญญูมาก กตัญญูจนโง่ไปหน่อย!คนอย่างแม่ยายแก คู่ควรให้กตัญญูด้วยหรือไง? แกกับเธอไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แกว่า ว่าถ้าแม่แท้ๆ แกเป็นแบบนี้ แกจะยังกตัญญูอยู่ไหม?”
เย่เฉินก็ทำตัวไม่ถูก แล้วก็พูดอย่างเศร้าๆ ว่า “ถ้าหากว่าแม่ผมยังอยู่ ต่อให้เธอมีนิสัยแย่กว่าแม่ยาย ผมก็ยอมครับ”
“ก็ใช่อยู่” เซียวฉางควนก็พูดอย่างเกรงใจว่า “โทษทีนะ พ่อไม่ได้อย่างจะพูดถึงเรื่องนี้ ก็ลองเอาพ่อเป็นตัวอย่างแล้วกัน ดูย่าของชูหรันสิ มีนิสัยไม่ต่างกับแม่ของเธอเท่าไร พูดตรงๆ เลย ก็เป็นผู้หญิงปากมากกันทั้ง2คน อีกคนแก่หน่อย อีกคนสาวหน่อย”
พอคิดถึงจุดนี้ เซียวฮางควนก็ดื่มเบียร์ แล้วตั้งใจพูดว่า “ดังนั้นแกก็ดูสิว่าคนอย่างพ่อไม่ได้กตัญญูแบบโง่ๆ แม่แท้ๆ ทำเรื่องไม่ดี ต่อให้ไปเร่ร่อนตามท้องถนนก็ไม่ยอมให้เข้ามาอยู่ด้วย มันเป็นเพราะอะไร? เราจะต้องมีมุมมองที่ถูกต้อง ไม่อาจจะมองเพียงเพราะเธอเป็นแม่ของแก เธอไปฆ่าคนแล้วยังจะปกป้องเธออีก มันถูกต้องไหม?”
เย่เฉินพยักหน้า “พ่อพูดถูกครับ”
เซียวฉางควนก็ถอนหายใจพูดว่า “จริงๆ แล้วชีวิตแกดีกว่าพ่อมากเลย ที่ได้แต่งงานกับผู้หญิงดีๆ อย่างชูหรัน ต่อให้แกไม่เอาไหนมากกว่านี้ เธอก็ไม่หย่ากับแก ถ้าแกเป็นเหมือนพ่อนะ แต่งงานกับผู้หญิงปากมาก ชีวิตแกก็จะอนาถไปทั้งชีวิต”
เย่เฉินมองหน้าเซียวฉางควนที่กำลังเศร้า ในใจก็เห็นใจเขาอยู่บ้าง ตาแก่คนนี้ ทั้งชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่ง่าย เดิมทีมีความรักครั้งแรกที่หอมหวาน รักกันกับผู้หญิงอย่างดี สุดท้ายมาถูกหม่าหลันจับไว้ ช่างน่าอนาถจริงๆ
ในตอนนี้ เย่เฉินก็แกล้งถามว่า “พ่อครับ เล่าเรื่องความรักครั้งแรกให้ผมฟังหน่อยสิครับ? ครั้งก่อนที่พ่อนัดสังสรรค์กับเพื่อนๆ ผมได้ยินคุณอาเขาคุยกัน รู้สึกว่ามันน่าอัศจรรย์ดี”
“อัศจรรย์อะไรล่ะ!” เซียวฉางควนก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ตอนนั้น พ่อกับหานเหม่ยฉิงคิดกันไว้ว่า ถ้าเรียนจบก็จะแต่งงานกัน ตอนนั้นจะออกไปเมืองนอก มันยังทำได้ยาก แต่ว่าบ้านเธอมีเส้นสาย สามารถส่งพวกเราสองคนไปเรียนต่อที่อเมริกาได้ พวกเราก็เลยวางแผนว่าเรียนจบก็จะแต่งงาน แล้วก็ไปเรียนปริญญาโทกันที่อเมริกา…….”
พูดถึงจุดนี้ เซียวฉางควนก็พูดอย่างโมโหว่า “แต่ใครจะรู้ ว่าตอนที่ใกล้จะเรียนจบ ทุกคนมาฉลองกัน พ่อก็ดันดื่มไปเยอะ!พ่อตื่นขึ้นมา พ่อกับแม่ยายแกก็ได้……….”
“เฮ้อ……” เซียวฉางควนเอามือปิดหน้าพูดว่า “ผู้หญิงอย่างหม่าหลันหัวร้าย ตอนนั้นก็เลยเอาเรื่องไปบอกกับหานเหม่ยฉิง หานเหม่ยฉิงก็โกรธ หานเหม่ยฉิงไม่เหมือนกับหม่าหลัน หม่าหลันเป็นผู้หญิงปากมากชอบชวนทะเลาะ หานเหม่ยฉิงก็เลยเขียนจดหมายบอกเลิกกับพ่อ แล้วก็เก็บข้าวของไปอเมริกา ตั้งแต่นั้นพ่อก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย”
เย่เฉินก็ถามอย่างสงสัยว่า “ตอนนั้นพ่อไม่ได้อธิบายกับเธอหรือครับ?”