บทที่ 1142 คุณไร้ความปรานีฉันก็จะไร้ความยุติธรรม + ตอนที่ 1143 เกิดแผนการใหม่

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1142 คุณไร้ความปรานีฉันก็จะไร้ความยุติธรรม + ตอนที่ 1143 เกิดแผนการใหม่ โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1142  คุณไร้ความปรานีฉันก็จะไร้ความยุติธรรม

 จ้าวอิงสยงคิดอย่างดิบดี ต่อให้วันหลังคุณพ่อรู้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว คุณพ่อก็คงจะไม่เอาเขาซึ่งเป็นลูกชายแท้ๆถึงตายเพื่อหลานสาวที่ไม่มีค่าหรอก!

ตอนกินมื้อกลางวัน ในที่สุดจ้าวอิงสยงก็กลับบ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับมานาน คุณพ่อไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าไปไหน

จ้าวอิงสยงไหนเลยจะมีกะจิตกะใจกินข้าว พอเขากลับถึงบ้านก็ไปห้องคุณแม่ สองแม่ลูกกระซิบพูดคุยกันอยู่นาน จ้าวอิงสยงถึงได้จากไป ดวงตาแดงก่ำ มุมปากกระตุกยิ้ม แตกต่างจากท่าทางไม่มีชีวิตชีวาในตอนที่มาเป็นอย่างมาก

“คุณลุงรอง ไม่กินข้าวกลางวันหรอคะ?”

เหมยเหมยตั้งใจเรียกจ้าวอิงสยงให้หยุด เสแสร้งทำท่าทางเหมือนไม่รู้อะไรทั้งนั้น มองเขาอย่างไร้เดียงสา ดวงตาโตกระพริบตาปริบๆ

จ้าวอิงสยงไม่กล้าที่จะมองเข้าไปในดวงตาของหลานสาวของเขาโดยตรง ก้มหัวเล็กน้อย เขาไม่ใช่คนโหดร้ายโดยธรรมชาติ เมื่อตอนยังวัยรุ่น เขาก็เป็นพี่ชายที่แสนดีที่รักพี่น้องของเขา แม้ตอนที่พบเจอกับอันตราย เขายังก้าวขึ้นมาข้างหน้า เพื่อปกป้องพี่น้องที่อยู่เบื้องหลัง ยอมโดนตีเสียเอง

แต่พี่ชายและลุงที่แสนดีคนนี้ เวลานี้กลับลงมือทำร้ายหลานสาวแท้ ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ถ้าหากเป็นเมื่อยี่สิบปีก่อน ภายใต้การล่อลวงของหานซู่ฉิน การที่จ้าวอิงสยงจะขายน้องสาวของเขาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองแล้วล่ะก็ มันคงจะเป็นทางเลือกสุดท้าย

และตำแหน่งของเขาตอนนั้นก็ยังไม่มั่นคง หลังจากที่จ้าวอิงหัวหนีออกเมืองหลวงพร้อมกับจ้าวอิงหนาน เขาก็ยับยั้งความคิดที่จะทำร้ายคน ถึงกับยังรู้สึกโชคดี โชคดีที่น้องสาวหนีไปแล้ว

แต่จ้าวอิงสยงตอนนี้ กลับขี้อิจฉาตาร้อน กลายเป็นคนที่ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล

ในใจของเขา ความมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองสิถึงจะสำคัญที่สุด

เสพสุขไปกับผู้ประโยชน์ที่คิดกับมาจากอำนาจจนติดเป็นนิสัย จ้าวอิงสยงไม่ต้องการมีชีวิตทุกข์ลำเค็ญที่ต้องทนดูอารมณ์คนอื่นไปทั่ว เพื่อที่จะสามารถรักษาความมั่งคั่งมหาศาลของเขาไว้ได้ เขาไม่ลังเลที่จะยอมทุ่มเททุกอย่าง

อย่าพูดถึงหลานสาวเลย ต่อให้เป็นลูกสาวแท้ ๆ เขาก็ไม่ใจอ่อนเหมือนกัน!

ถึงแม้ว่าจ้าวอิงสยงจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว แต่ดวงตาของเหมยเหมยนั้นใสกระจ่างจนเกินไป มันเหมือนกระจกบานหนึ่งที่ส่องให้เห็นหัวใจที่น่าเกลียดของเขา เขาจึงไม่กล้ามองเหมยเหมย ทำได้แค่เพียงหลบสายตาหลานสาว พูดอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ว่า “ไม่กิน มีเรื่องเร่งด่วนต้องจัดการ เหมยเหมยอยู่เป็นเพื่อนกับคุณย่าที่บ้านนะ อย่าทำให้คนแก่ต้องโมโหล่ะ”

“คุณลุงรองรีบไปเถอะ วางใจได้ หนูจะตามใจคุณย่าไม่ทำให้คุณย่าโมโหแน่นอน”

เหมยเหมยเน้นน้ำเสียงตรงคำว่าคุณย่า เหมือจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มและมองไปที่จ้าวอิงสยงที่มือถือสากปากถือศีล

สองแม่ลูกคู่นี้ไม่รู้ว่าเตรียมกับดักอะไรไว้ให้เธอกันนะ?

ตั้งหน้าตั้งตารออยู่นะเนี่ย!

จ้าวอิงสยงเหลือบไปมองรอยยิ้มที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้ของเหมยเหมยอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง ความงามนั้นสวยงามมากจนเขารู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย จนถึงตอนนี้เขาถึงเพิ่งจะตระหนักได้ว่า หลานสาวของเขาสวยแค่ไหน ไม่แปลกใจที่เฮ่อเหลียนเช่อจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้จ้าวเหมย!

เวลานี้อยู่ดี ๆ เขาก็รู้สึกเบิกบานขึ้นมาอีกครั้ง โชคดีที่จ้าวอิงหัวหาลูกสาวคนนี้กลับมาได้ ถ้าหากว่าไม่ล่ะก็ตอนนี้เขาคงต้องไร้หนทางเอาตัวรอดได้!

หวังว่าคุณแม่ของเขาจะมีความพยายามมากกว่าหานซู่ฉินหน่อย เขาเหลือเวลาอีกเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น!

มองตามหลังของจ้าวอิงสยงจนลับไป มุมปากของเหมยเหมยก็มีรอยยิ้มเยาะออกมา ตั้งแต่แรกจนจบเธอยังไม่เห็นความละอายใจแม้แต่เศษเสี้ยวในตัวของคุณลุงรองผู้แสนดีคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว

ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็อย่าโทษว่าเธอไร้ความเมตตาไร้ความยุติธรรมก็แล้วกัน!

ไม่ต่างจากที่เธอคาดการณ์ไว้ หลังจ้าวที่จ้าวอิงสยงจากไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง คุณย่าก็เริ่มเคลื่อนไหว

“อยู่ในบ้านอึดอัดน่าเบื่อ เหมยเหมยออกไปเดินเล่นเป็นเพื่อนย่าหน่อย” คุณย่าเดินออกจากห้องด้วยตัวเอง ซึ่งเต็มไปด้วยท่าทางกระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวา

เหมยเหมยมองและยิ้มรับ “ได้สิคะ ถึงแม้ว่าอากาศจะร้อนไปหน่อย แต่คุณย่าเป็นผู้อาวุโส ผู้อาวุโสมีคำสั่ง หนูก็ไม่กล้าขัดหรอกค่ะ ไม่งั้นคนนอกจะหาว่าหนูอกตัญญู! “

…………………………………………..

 ตอนที่ 1143 เกิดแผนการใหม่

 ในเมื่อจ้าวอิงสยงยังไม่เลิกคิดยอมแพ้ งั้นเธอก็จะถือโอกาสสร้างแผนซ้อนแผน อยากจะดูว่าแม่ลูกน่ารังเกียจคู่นี้ คิดจะเล่นละครอะไรอยู่!

แต่ไม่ว่าจะยังไง เธอก็ไม่ยินดีที่จะให้คุณย่าได้ลำพองใจหรอกนะ เป็นการดีที่จะใช้ประโยชน์จากคำพูด ไม่อย่างนั้นมันก็ยากที่เธอจะวางใจ!

อีกอย่างตอนนี้เพื่อลูกชายแล้วคุณย่าคงจะไม่ด่าเธอในเวลานี้แน่นอน ไม่ถอนหงอกตอนนี้ให้รอถึงตอนไหนกันล่ะ?

เป็นจริงดั่งว่าคุณย่าทำแค่ทำหน้าบึ้งตึง จ้องเขม็งไปที่เหมยเหมย ไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว เรื่องของลูกรองนั้นต้องเร่งรีบ ให้นังเด็กสมควรตายนี่ลำพองใจไปก่อน วันหลังค่อยสั่งสอนเธอ

เพียงแต่ว่าเดิมทีคุณย่ายังรู้สึกผิดต่อเหมยเหมยอยู่บ้าง ถึงอย่างไรสำหรับคนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมและตรงไปตรงมาอย่างเธอ ตอนนี้กลับต้องใช้วิธีที่น่าละอายทำร้ายหลานสาวแท้ๆ อย่างไรเสียในใจของเธอยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี

ถ้าหากไม่ใช่เพราะความเป็นความตายของจ้าวอิงสยงแล้วล่ะก็ คุณย่าคงไม่รับปากทำให้จริงๆ แต่ถึงอย่างไรเมื่อเทียบลูกชายและหลานสาวแล้ว ลูกชายก็สำคัญกว่า

อีกประการหนึ่งลูกรองก็เคยสัญญากับเธอแล้ว เพียงแค่ให้หลานสาวแต่งงานเร็วขึ้นก็เท่านั้นเอง ครอบครัวลูกสาวไม่ช้าก็เร็วก็ต้องแต่งงาน จะช้าหรือเร็วก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ร้ายแรงอะไร ยิ่งไปกว่านั้นการแต่งงานก่อนเวลาก็ยังสามารถช่วยลูกชายของเธอได้อีก!

คุณย่าผู้เลอะเลือนไม่เคยคิดสักนิดว่า ถ้าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคู่ครองที่ดี จ้าวอิงสยงจะใช้กลอุบายเช่นนี้ได้อย่างไร บังคับให้หลานสาวแต่งงาน?

หรือว่าเธอได้คิดหาเหตุผลแล้ว แต่เธอก็ไม่สนใจ ถึงอย่างไรในใจของเธอ ไม่ว่าจะยังไงหลานสาวก็ไม่สู้ลูกชายอยู่ดี

ภายใต้ความปากคอเราะร้ายของเหมยเหมย เดิมทีคุณย่าที่ยังมีความละอายใจรู้สึกผิดนิดหน่อย มันก็หายวับไปในทันที

“มาประคองฉันสิ มีตาแต่ไม่มีแววเลยจริงๆ” คุณย่าตำหนิ

เหมยเหมยเสแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เธอต้องการจะเล่นแผนซ้อนแผน แต่กลับไม่คิดจะให้ตัวเองต้องกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม ให้เธอไปประคองคุณย่า เชอะ ฝันไปเถอะ!

“คุณย่าสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรงไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอย่างนั้นอย่าออกไปเลย ข้างนอกร้อนมาก ถ้าคุณย่าเวียนหัวเป็นลมอีกครั้ง หรือว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น หนูรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ”

เหมยเหมยที่ก้าวปราดอย่างรวดเร็วก็เดินกลับมานั่งบนโซฟาอีกครั้ง หยิบหนังสือเล่มที่เธอพลิกอ่านไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วนขึ้นมา ทำท่าตั้งใจอ่าน

ความโมโหของคุณย่าพุ่งปรี๊ด โกรธจนหน้าดำทะมึนเหมือนก้นหม้อ เธอพยายามอดกลั้นต่อความโกรธของเธอ ไม่เรียกใช้เหมยเหมยอีกต่อไป เรื่องใหญ่ของลูกชายต้องรีบทำ วันหลังยังมีเวลาที่จะสั่งสอนนังเด็กสมควรตายนี่

ในตอนนี้ คุณย่ายังไม่รู้เลยว่าเฮ่อเหลียนเช่อเป็นคนแบบไหน เธอเพียงแค่เคยได้ยินว่าเฮ่อเหลียนเช่อใช้ชีวิตส่วนตัวไม่มีกฏไม่มีเกณฑ์เท่าไหร่ ส่วนเรื่องการฆ่าคนอย่างไร้ซึ่งความปราณี เธอไม่รู้เลยจริงๆ

แน่นอนว่าต่อให้เธอรู้จริง ๆ ก็คงจะไม่ใจอ่อนเพราะเหตุผลนี้ ถึงอย่างไรลูกชายก็สำคัญที่สุด!

เหมยเหมยรู้สึกดีใจที่ได้เห็นท่าทีเศร้าโศกของคุณย่า แต่ตอนนี้มันยังไม่เพียงพอ เธอยังต้องทำอะไรมากกว่านี้อีกหน่อย……

เพียงแต่เสียดายที่คุณปู่ไม่อยู่บ้าน ไม่อย่างนั้นเธอก็จะลากคุณปู่ไปด้วยกัน ให้เขาได้เห็นกับตาว่าลูกชายที่แสนดีของเขาว่าแท้ที่จริงแล้วเป็นคนอย่างไรกันแน่!

“เหมยเหมยเร็วๆหน่อย แกมัวชักช้าทำอะไรอยู่?” คุณย่าเร่งรัดอยู่ที่ลานบ้าน

เหมยเหมยรีบเขียนประโยคสุดท้าย วางกระดาษโน้ตไว้ในที่ที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด พอคุณปู่เข้ามาก็จะสามารถมองเห็นได้ทันทีที่เหยียบเข้าประตูถ้าไม่ตาบอดนะ

“แกเขียนอะไร?” คุณย่าถามอย่างสงสัย อารมณ์ไม่ดี

“เขียนโน้ตบอกคุณปู่ไว้ ไม่อย่างนั้นคุณปู่กลับบ้านมาไม่เห็นพวกเราเดี๋ยวจะเป็นห่วง หนูบอกกับคุณปู่ว่า พาคุณย่าออกไปเดินเล่นนะ!”

เหมยเหมยมองคุณย่าอย่างไร้เดียงสา ถามอีกครั้งว่า “คุณย่าจะไปเดินเล่นที่ไหน?”

“แม่ แม่แค่พาเหมยเหมยมาที่ภัตตาคารเหอผิงก็พอ……”

ข้างหูมีเสียงของจ้าวอิงสยงดังขึ้น สายตาของคุณย่าเปล่งประกาย พูดว่า “ไปเดินที่ไหนก็ได้แล้วแต่ ฉันไม่ได้ออกจากบ้านนานแล้ว”

…………………………………………