“เรื่องที่ข้าน้อยไปสืบมาไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน” คนผู้นั้นกล่าวด้วยความมั่นใจ

“หึ ๆ ๆ! ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย มาก็ดี!”

หญิงสาวผู้นี้ยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่ภายในแววตาคู่นั้นกลับเผยความอันตรายออกมา

สามารถพาโอรสศักดิ์สิทธิ์มาที่หอคณิกาได้ ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยท่านนี้ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก

เพียงแต่…ไม่ว่าจะยอดเยี่ยมเพียงใดก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานอยู่ดี!

“พระภิกษุ รีบ ๆ ดื่มสิ!”

“ดื่มอีก!”

“นี่ยังมีความเป็นชายอยู่หรือไม่ คอไม่แข็งเอาซะเลย!”

มู่เฉียนซียังคงรินเหล้าให้อินรั่วเฉินต่อเนื่องอย่างไม่รู้สึกผิดใด ๆ เลย ส่วนอินรั่วเฉินเองก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน ยังคงดื่มต่อ…

จนกระทั่ง…

ตุบ! อินรั่วเฉินฟุบหน้าลงบนโต๊ะและผล็อยหลับไป

หญิงสาวผู้ปรนนิบัติทั้งสี่ยิ้มพลางกล่าวว่า “คุณชาย พวกเราไม่รบกวนคุณชายแล้ว เชิญคุณชายทั้งสองตามสบายเลยนะเจ้าคะ…”

คุณชายรูปหล่อท่านนี้บอกแล้วว่าตนไม่ชอบสตรี ตอนนี้ก็จงใจมอมเหล้าให้คุณชายท่านนี้เมา เกรงว่าเขาคงจะฉวยโอกาสที่คุณชายท่านนี้เมาลักหลับ…

สีหน้าของมู่เฉียนซีดำคล้ำขึ้น สมองของแม่นางเหล่านี้คิดมากเกินไปแล้ว

มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าว “คนสวย กลับมาก่อน ช่วยข้าจัดการเรื่องบางอย่างหน่อยสิ”

หนึ่งในสี่สาวงามเดินอรชรอ้อนแอ้นกลับมา เมื่อได้ยินคำสั่งของมู่เฉียนซีแล้ว ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ

“คุณชาย จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือเจ้าคะ?”

มู่เฉียนซีเอาหยกวิญญาณจำนวนมากออกมา และกล่าวว่า “นี่เป็นรางวัลของเจ้า หากเจ้าทำได้ดี ข้าจะมีรางวัลใหญ่ให้”

ถึงแม้ว่าพวกนางจะเป็นนางคณิกาของจุ้ยเมิ่งชวน แต่ต่อให้พวกนางรับแขกทั้งชีวิตก็ไม่มีทางได้สัมผัสหยกวิญญาณมากมายเช่นนี้แน่นอน

คุณชายท่านนี้ใจกว้างมากจริง ๆ!

ใจกว้างก็จริง แต่ก็ใจร้ายเกินไปเหมือนกัน!

มอมเหล้าคนอื่นให้เมาแล้วยังไม่พอ แถมยัง…

มีความแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางใดกันนะ?

“คุณชายวางใจได้ พวกเราทำสำเร็จแน่นอนเจ้าค่ะ”

ทันทีที่นางคณิกาทั้งสี่เดินออกไป ก็มีคนไปรายงานกับแม่นางชุดสีชมพูผู้นั้นทันที

“แม่นาง ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะ…”

พรวด! หญิงสาวผู้นี้ตกใจจนสำลักอีกครั้ง

“เจ้าแน่ใจนะว่าฟังไม่ผิด”

“แน่ใจเจ้าค่ะ!”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” หญิงสาวยิ้มดุจดั่งบุปผาผลิบาน

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยช่างพิเศษจริง ๆ! ข้าเสียดายยิ่งนักหากเขาต้องตายไป”

สิ่งที่หญิงสาวพึมพำนั้นทำให้สาวใช้ของนางอดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้

“ไปทำตามที่ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยบอกเถอะ”

“เจ้าค่ะ!”

มู่เฉียนซีโยนร่างของอินรั่วเฉินที่หลับราวกับหมูตายลงบนเตียง

ไม่ใช่ว่าอินรั่วเฉินจะคออ่อน เพียงแต่ว่านางแอบใส่บางอย่างลงไปในเหล้าก็เท่านั้นเอง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก! เสียงเคาะประตูดังขึ้น

“คุณชาย!”

มู่เฉียนซีกล่าว “เข้ามา!”

นางคณิกาทั้งสี่เดินเข้ามาก่อน ส่วนด้านหลังพวกนางนั้นมีหญิงสาวยืนอยู่สองคน หนึ่งในสองคนนี้มีรูปร่างใหญ่เท่ากับพวกนางสี่คนรวมกัน

“คุณชาย นี่เป็นสาวใช้จุดไฟในห้องครัว นางพิเศษที่สุดในจุ้ยเมิ่งชวนของพวกเราแล้วเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณชายชื่นชอบหรือไม่”

สาวใช้สองคนนั้นมองมู่เฉียนซีแล้วสีหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายจึงก้มหน้าลงไปเล็กน้อย พวกนางทั้งสองเป็นเพียงแค่สาวใช้ที่ใช้แรงงานอยู่ในห้องครัวเท่านั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสใกล้ชิดบุรุษรูปงามเช่นนี้ด้วย อีกทั้งยังได้รางวัลเป็นการตอบแทนไม่น้อยเลย

มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย “ชอบ ข้าชอบมาก! ข้าชอบ สหายข้าก็ต้องชอบแน่นอน เข้ามา รีบมาปรนนิบัติดูแลคุณชายบนเตียงท่านนี้เร็วเข้า”

เมื่อหญิงสาวทั้งสองเห็นชายหนุ่มบนเตียง พวกนางก็ตกตะลึงขึ้นทันที

ตอนแรกคิดว่าคุณชายท่านนี้ก็รูปงามอย่างไร้ที่เปรียบแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าคุณชายชุดเหลืองที่นอนอยู่บนเตียงจะหน้าตาหล่อเหลาได้อย่างน่าทึ่งเช่นนี้!

ใบหน้าของพวกนางดูเหมือนจะลุกเป็นไฟก็มิปาน “คุณชาย พวกเราจะดูแลปรนนิบัติคุณชายท่านนี้เป็นอย่างดีแน่นอน คุณชายวางใจได้”

มู่เฉียนซีกล่าว “ดี! พวกเจ้าค่อย ๆ สนุกกันล่ะ พวกข้าไม่รบกวนแล้ว”

ครั้นแล้ว มู่เฉียนซีก็ปล่อยให้โอรสศักดิ์สิทธิ์และหญิงสาวผู้พิเศษสองคนอยู่ในห้องนี้ ส่วนเขาก็ออกไปทันที

และในขณะที่มู่เฉียนซีเปิดประตูออกไปนั้น ร่างในชุดสีชมพูร่างหนึ่งก็พุ่งเข้ามาตรงหน้า มู่เฉียนซีหลบหลีกอย่างรวดเร็ว

นางคณิกาทั้งสี่กล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “แม่นางเซียว แม่นาง…แม่นางมาได้อย่างไรเจ้าคะ”

มู่เฉียนซีก็เห็นร่างของสาวงามตรงหน้าผู้นี้แล้ว รูปร่างเพรียวบาง คิ้วโค้งโก่งดุจใบหลิว ดวงตาคมดุจพระจันทร์เสี้ยว

สดสวยแพรวพราวดุจดั่งดอกจอกน้ำทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะเด็ดขึ้นมา

“แม่นางเซียว!” มู่เฉียนซีกล่าวเสียงต่ำ

“หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งจุ้ยเมิ่งชวน ต่อให้มีหยกวิญญาณนับสิบล้านก็ยากที่จะซื้อตัวแม่นางเซียวได้”

ในฐานะที่เป็นหัวหน้าหอหมอปีศาจ และประมุขน้อยแห่งตำหนักเป่ยหาน เรื่องราวบางอย่างในเมืองเป่ยหานมู่เฉียนซีก็ย่อมรู้เป็นอย่างดี

แม่นางเซียวมองมู่เฉียนซี ภายในดวงตาคู่นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักอันลึกซึ้ง

“เอ่อ ข้า…ตั้งแต่คุณชายย่างเท้าเดินเข้ามาในจุ้ยเมิ่งชวน ข้าก็รู้สึกหลงรักคุณชายตั้งแต่แรกเห็นแล้ว”

นางคณิกาทั้งสี่ตกตะลึงตาค้าง ต้องรู้เอาไว้เลยว่าแขกที่มาจุ้ยเมิ่งชวนนั้นมีจำนวนไม่น้อยเลยที่ยอมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อที่จะได้เห็นเพียงรอยยิ้มของนาง แต่นางก็ไม่สนใจพวกเขาเหล่านั้นแม้แต่คนเดียว

นึกไม่ถึงเลยว่าจะมาต้องตาคุณชายท่านนี้ซะแล้ว อีกอย่าง คุณชายท่านนี้ก็เป็นคนที่ชอบไม้ป่าเดียวกันเสียด้วยสิ ช่างทำร้ายจิตใจแม่นางเซียวจริง ๆ

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ถึงกับทำให้แม่นางคนสวยปานนี้ชอบข้าได้ นับว่าเป็นเกียรติยิ่งนัก”

แม่นางเซียวยิ้มขึ้นด้วยความตื่นเต้นราวกับบุปผาที่กำลังผลิบานก็มิปาน “คืนนี้ ข้าอยากจะดูแลปรนนิบัติคุณชายสักคืน หวังว่าคุณชายจะไม่รังเกียจ”

เหล่านางคณิกาได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจขึ้น นี่พวกนางไม่ได้หูฝาดไปกระมัง!

นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางเซียวจะเป็นฝ่ายออกมาหาแขกเองเช่นนี้ แต่คุณชายท่านนี้ไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ! เขาชอบไม้ป่าเดียวกัน!

มู่เฉียนซีกล่าว “แต่วันนี้ข้าใช้หยกวิญญาณไปหมดแล้ว เกรงว่าไม่อาจให้แม่นางเซียวดูแลปรนนิบัติได้”

“ขอเพียงแค่คุณชายยอมให้ข้าดูแลปรนนิบัติเท่านั้น ข้าจะกล้าเรียกร้องของมีค่าจากคุณชายได้อย่างไรกัน ขอเพียงแค่ได้มองคุณชาย ข้าก็ดีใจมากแล้ว” ดวงตาคู่นั้นของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยความปลื้มปีติ

นึกไม่ถึงเลยว่าแม่นางเซียวจะทำเช่นนี้ ท่านผู้ดูแลไม่กล่าวว่านางเหรออย่างไร?

คุณชายท่านนี้รูปงามก็จริง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้กระมัง!

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ในเมื่อแม่นางเซียวใจดีเช่นนี้ งั้นข้าก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เพียงแต่ว่าห้องของข้าตอนนี้สหายข้ากำลังใช้อยู่!”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ห้องข้ายังว่าง!”

ครั้นแล้ว แม่นางเซียวก็พามู่เฉียนซีไปที่ห้องของนาง ทิ้งให้นางคณิกาเหล่านั้นยืนตกใจอยู่เช่นนั้น

ภายในห้องที่อินรั่วเฉินอยู่ ตอนนี้สาวใช้จุดฟืนรูปร่างอ้วนท้วนเป็นพิเศษสองคนนี้ก็กล่าวขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านพี่จะขึ้นก่อนหรือให้ข้าขึ้นก่อน?”

“เราสองพี่น้องก็ขึ้นพร้อมกันนี่แหละ!”

ขวั่บ! ในขณะที่กล่าวนั้น พวกนางก็เริ่มฉีกเสื้อผ้าอาภรณ์อินรั่วเฉินทันที

เป็นเพราะพิษยานอนหลับนั้น ลำแสงที่กั้นรอบตัวเขานั้นจึงใช้การไม่ได้แล้ว

“น้องสาว ข้าว่าชุดนี้มันหนาแล้วก็แข็งเกินไปแล้วนะ”

“จะหนาจะแข็งยังไงมันก็เป็นผ้า เรามีแรงเยอะ ตัดฟืนเราสองพี่น้องก็ยังตัดได้ จะฉีกกระชากเสื้อผ้าแค่นี้จะทำไม่ได้ยังไงกันล่ะ”

“หนึ่ง สอง สาม ออกแรง…”

ฉึก!

ตอนนี้อินรั่วเฉินอยู่ในสภาพที่ตกนรกทั้งเป็น ส่วนมู่เฉียนซีกลับได้หญิงงามอันดับหนึ่งไปครอบครอง

เมื่อมาถึงห้อง ทันทีที่ปิดประตู หญิงงามก็ยื่นแขนออกไปและกล่าวว่า “คุณชาย จะไม่กอดข้าหน่อยหรือเจ้าคะ?”

น้ำเสียงออดอ้อนนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลย

ทว่า มู่เฉียนซีกลับไม่ได้เข้าไปกอดนาง นางจึงทำตัวอ่อนพุ่งหมายจะเข้าไปซบมู่เฉียนซี

ครั้งนี้มู่เฉียนซีไม่ได้เอนตัวหลบหลีกแต่อย่างใด แต่จับไปที่หน้าอกของนาง

จากนั้นแม่นางเซียวผู้นี้ก็ตกตะลึงมากเสียจนตาค้าง มู่เฉียนซีกล่าวอย่างหยอกล้อว่า “แม่นางเซียวไปซื้อหมั่นโถวมากจากไหนเหรอ! ใหญ่ดีนะ!”

.