ตอนที่ 1656 ทำลายรูปแบบอาคม

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หลิงฮันพุ่งทะยานไปยังตำแหน่งของชายร่างกำยำ

ด้วยความเร็วอันน่าอัศจรรย์ของเขาทำให้สตรีนกอมตะและคนอื่นไล่ตามไม่ทัน สิ่งที่พวกนางเห็นมีเพียงหนึ่งหมัดของหลิงฮันที่สามารถบดขยี้สัตว์อสูรได้ในหมัดเดียว

ผลที่ตามมาคือจำนวนของสัตว์อสูรค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ถูกสังหาร

สัตว์อสูรแต่ละตัวที่ถูกสร้างขึ้นโดยรูปแบบอาคมมีพลังเทียบเท่าราชาเซียนขั้นต้น หากแค่ไม่กี่ตัวย่อมไม่เป็นปัญหา แต่หลังจากที่จำนวนของพวกมันเพิ่มขึ้นนับร้อย พลังต่อสู้โดยรวมก็เพิ่มขึ้นจนเทียบได้กับราชาเซียนสูงสุด ซึ่งแม้จะเป็นหลิงฮันก็ต้องพบกับความลำบากเล็กน้อย

แม้จะมาถึงจุดนี้แล้ว จำนวนของสัตว์อสูรก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ชายร่างกำยำที่ทำหน้าที่ควบคุมรูปแบบอาคมแสยะยิ้ม เจ้ามีสมองรึเปล่าถึงได้พุ่งมาหาข้าตรงๆ? ยังไม่ทันจะเคลื่อนที่ได้ถึงหนึ่งในสามของระยะทาง เจ้าก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยสัตว์อสูรจำนวนมากแล้ว

แต่พลังของหลิงฮันก็เหนือเกินกว่าการคาดการณ์ของชายร่างกำยำไปมากทีเดียว หลิงฮันสามารถเคลื่อนที่มาได้ราวๆสี่ในห้าของระยะทางแต่ก็ถูกสัตว์อสูรจำนวนมหาศาลราวกับมหาสมุทรห้อมล้อมเอาไว้

“ฮ่าๆๆ ข้าไม่เคยพบเจอคนที่โง่เขลาเช่นเจ้ามาก่อน!” ชายร่างกำยำแสยะยิ้ม

หลิงฮันไม่สนใจ เขายังคงปล่อยหมัดออกไปอย่างต่อเนื่อง ศีรษะของสัตว์อสูรระเบิดกระจุยทีละตัวแต่ก็ยังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

การกระทำของเขาทำให้สตรีนกอมตะและคนอื่นๆสับสนเป็นอย่างมาก

หลิงฮันสามารถใช้แสงอัสนีเคลื่อนที่ไปหาเป้าหมายได้ในพริบตาแท้ๆ ตอนนี้จำนวนของสัตว์อสูรได้เพิ่มขึ้นเกินกว่าหนึ่งแสนตัวแล้ว แม้พวกมันทุกตัวจะไม่สามารถโจมตีพร้อมกันได้ แต่เพียงแค่การโจมตีพร้อมกันของพวกมันนับพันก็สามารถทำให้จอมยุทธราชาเซียนสูงสุดเหงื่อตกแล้ว

ทำไมหลิงฮันถึงยังทำเช่นนี้? สตรีนกอมตะและคนอื่นๆสงสัย

หลิงฮันหยุดมือและกล่าว “รูปแบบอาคมนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ต้องมีขีดจำกัด หากพลังของมันถูกใช้จนเกินขีดจำกัดเมื่อใด รูปแบบอาคมจะพังทลายลงทันที”

ทันทีที่เขากล่าวอธิบายเสร็จ เสียงแตกร้าวก็ดังก้องไปทั่วพร้อมกับรูปแบบอาคมได้พังทลายทันที ร่างของสัตว์อสูรค่อยๆระเบิดออกทีละตัว

แม้หลิงฮันจะไม่เข้าใจรูปแบบอาคมของศาสตร์รูปแบบอาคมในโลกนี้ แต่เขาก็คือว่าเป็นปรมาจารย์รูปแบบอาคม สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าจะรูปแบบอาคมไหนๆก็ต้องมีคือขีดจำกัด

หากรูปแบบอาคมปลดปล่อยอำนาจเกินขีดจำกัด ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะต้องพังทลายไปเอง

‘ครืนน’ รูปแบบอาคมพลังทลาย ในระยะที่ไกลออกไปเล็กน้อยปรากฏชายร่างกำยำที่ท่อนบนเปลือยเปล่ายืนอยู่

ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความรู้สึกเหลือเชื่อ แม้จะได้ยินคำอธิบายของหลิงฮันเมื่อครู่แล้วเขาก็ยังอดตะลึงไม่ได้อยู่ดี

เจ้ามันสัตว์ประหลาด!

พูดน่ะมันง่าย แต่หากจะทำให้รูปแบบอาคมใช้พลังเกินขีดจำกัดได้ ก็ต้องต้านทานพลังที่ถึงขีดจำกัดของรูปแบบอาคมเสียก่อน เรื่องแบบนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสทั้งหลายของตระกูลเขาก็เท่าไม่ได้ หากจะมีใครสักคนที่ทำได้ก็คงมีเพียงประมุขเท่านั้น!

นั่นก็หมายความว่าจอมยุทธรุ่นเยาว์ที่เป็นคนนอกผู้นี้มีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งทัดเทียมกับประมุข!

น่าสะพรึงกลัวนัก…

หลิงฮันเคลื่อนที่ไปหาชายร่างกำยำและกล่าว “บางทีเจ้าอาจจะถูกสุนัขกัดมา? เพราะงั้นเจ้าถึงได้รังเกลียดคนนอกขนาดนั้น?”

ที่หลิงฮันคาดเดาคือเจ้าสุนัขตัวดำจะต้องเข้ามาที่นี่พร้อมกับคนอื่นๆแน่นอน ซึ่งด้วยนิสัยของสุนัขตัวดำก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรหากชายร่างกำยำผู้นี้จะถูกมันกัด

เมื่อคำพูดของหลิงฮันถูกกล่าวออกไป ใบหน้าของชายร่างกำยำก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำและโกรธเกรี้ยวทันที

เป็นแบบนั้นจริงๆ!

หลิงฮันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ห้ามขำ!” ชายร่างกำยำคำรามและปล่อยการโจมตีใส่หลิงฮัน

แต่ว่าด้วยพลังที่เทียบเท่าเพียงเซียนระดับสูงของเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหลิงฮันได้อย่างไร?

หลิงฮันปล่อยฝ่ามือออกไปลวกๆ ‘พลัก’ ชายร่างกำยำถูกกำราบลงไปนอนแผ่ที่พื้นทันที

“ปล่อยข้าไปถ้ายังไม่อยากตาย!” ชายร่างกำยำเกรี้ยวกราด ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลจ้าว ใครกันจะหวาดกลัวต่อศัตรูทั้งๆที่อยู่ในอาณาเขตของตัวเอง? ตระกูลของเขามีปรมาจารย์ระดับเก้าลวดลายสูงสุดอยู่ถึงยี่สิบเจ็ดคนซึ่งทั้งยี่สิบเจ็ดคนนี้ไม่ว่าคนไหนก็ล้วนแต่แข็งแกร่งเทียบเท่ารุ่นเยาว์ผู้นี้

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ยังกล้าอวดดีอยู่อีก ดูเหมือนว่าเจ้าควต้องได้รับความอัปยศที่มากกว่าเดิมเสียแล้ว!”

“เจ้ากล้า?” ชายร่างกำยำคำราม การที่รูปแบบอาคมถูกทำลายต้องดึงดูดปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งของตระกูลให้มาดูสถานการณ์แน่นอน เพราะงั้นเหตุใดเขาต้องเกรงกลัว?

หลิงฮันยิ้มไปยังสตรีนกอมตะและAnchorหลงอวี่ซาน “พวกเจ้าหันหน้าไปก่อน”

สตรีนกอมตะทำตามคำพูดหลิงฮันทันทีในขณะที่หลงอวี่ซานเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ทำไมกัน?”

ปัง!

หลิงฮันชี้นิ้วออกไป คลื่นพลังได้ทำให้เสื้อผ้าช่วงล่างของชายร่างกำยำขาดกระจุย หลงอวี่ซานรีบหันหน้าหนีทันที ใบหน้าอันงดงามของนางแดงก่ำและอยากจะหยิกหลิงฮันแรงๆเสียเหลือเกิน

“จะ เจ้าจะทำอะไร?” ชายร่างกำยำใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว จอมยุทธเก้าลวดลายเช่นเขาต้องมาถูกฉีกเสื้อผ้าและเผยของลับช่วงล่างเช่นนี้ หากใครรู้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

“ช่างเล็กยิ่งนัก” หลิงฮันแสดงความเห็น

“ช่างเล็กยิ่งนัก” เสี่ยวกู่พูดเลียนแบบ

ชายร่างกำยำโมโหจนแทบจะเป็นลม เจ้าไม่อาจสร้างความอัปยศให้ข้าเช่นนี้!

นี่มันน่าอนาถยิ่งกว่าเมื่อตอนพบเจอสุนัขไร้ยางอายนั่นเสียอีก!

หลิงฮันยิ้ม “จะยอมตอบขำถามข้าดีๆรึเปล่า? เหอๆ หากยังคิดขัดขืน ข้าจะไม่เพียงแค่จะกล่าวแสดงความเห็น แต่ข้าจะนำร่างของเจ้าไปแขวนให้ทุกคนในตระกูลได้เป็นสักขีพยานถึงความเล็กในอาวุธลับของเจ้า!”

“ไม่!” ชายร่างกำยำสั่นสะท้านด้วยความกลัว หากถูกทำเช่นนั้นเขาจะมองหน้าใครติด?

“หากไม่อยากโดนแบบนั้นก็ตอบคำถามข้ามาแต่โดยดี” หลิงฮันกล่าว “เจ้าพบเจอคนนอกที่ผ่านมาทางนี้แล้วกี่คน?”

“เพียงแค่กลุ่มเดียว” เขาไม่เหลือความคิดที่จะต่อต้านและรีบตอบอย่างไว

“พวกเขาเป็นใคร?” หลิงฮันถามอีกครั้ง

“ข้าไม่รู้ พวกเขามีอย่างน้อยก็หนึ่งรอยคน”

“ช่วยเจาะจงลงมาหน่อย”

หลังจากไต่ถามชายร่างกำยำอย่างถี่ถ้วน หลิงฮันก็ได้รับรู้ว่าพวกจักรพรรดินีได้ผ่านมาที่นี่เมื่อสีปี่ก่อน แน่นอนว่าเหล่าราชาเซียนจากดินแดนต้องห้ามต่างๆก็มาด้วยพร้อมกับจอมยุทธที่อ่อนแอกว่านั้นอีกจำนวนหนึ่ง พวกเขาทุกคนรวมๆแล้วเป็นจำนวนคนราวๆหนึ่งร้อยคน

สุนัขตัวดำก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาเหมือนกับพวกหลิงฮันที่เดินผ่านมาถึงที่นี่ได้อย่างราบรื่นแต่ก็ถูกขวางทางเอาไว้ที่นี่ สุนัขตัวดำมีปัญหากับชายร่างกำยำและแอบลอบกัดก้นของอีกฝ่ายจนแยกออกเป็นสามแฉก

ต่อมาหลังจากเจรจากันได้ จักรพรรดินีและคนอื่นๆก็ได้รับอนุญาติให้ผ่านไป ด้วยเหตุนี้ชายร่างกำยำจึงเกลียดคนนอกเป็นอย่างมาก เมื่อพบพวกหลิงฮันเขาตั้งใจจะสร้างความลำบากให้แต่สุดท้ายกลับต้องมาได้รับความอัปยศที่สุดในชีวิตเสียเอง

“จอมยุทธจากภายนอก เจ้าทำเกินไป!” ทันใดนั้นเองปรมาจารย์ของตระกูลจ้าวก็มาถึง เขามองมายังพวกหลิงฮันด้วยแววตาเย็นชาและมืดมน