ตอนที่ 2,420 : สมบัติสถานระดับสวรรค์!
ในสายตาของต้วนหลิงเทียน
กวีโบราณ หลี่ไป๋ นั้น…เป็นตัวตนที่ดำรงอยู่ในชาติที่แล้วของเขาเมื่อไม่กี่พันปีก่อน
แต่แดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ยากที่จะมีใครล่วงรู้ว่ามันดำรงอยู่มานานเท่าไหร่แล้วกันแน่ ที่สำคัญยังพึ่งเปิดออกเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อราวๆแสนปีก่อน
ทว่าในเมื่อแดนลับต่างสวรรค์มันเปิดออกครั้งสุดท้าย ก็เป็นเมื่อแสนปีที่แล้ว…
แถมตอนนี้ก็พึ่งเป็นเวลาครึ่งปีเศษเท่านั้น ที่มันพึ่งเปิดออกอีกครั้ง…
เป็นเหตุทำให้ตัวตนอย่างหลี่ไป๋ไม่น่าจะเข้ามาในแดนลับแต่งสวรรค์แห่งนี้ได้เลย!
“ต้วนหลิงเทียนดูท่าเรื่องนี้เจ้าจะยังไม่รู้…แดนลับต่างสวรรค์นั้นนอกจากระนาบโลกียะทั้ง 5 ของพวกเราแล้ว เหล่าต้าหลัวจินเซียนจากระนาบเทวโลกก็สามารถเข้ามาได้เช่นกัน”
ได้ยินคำถามของต้วนหลิงเทียน จางยี่ก็อดไม่ได้ที่จะชะงักค้าง พอตระหนักใดได้ก็กล่าวอธิบายออกมา
“ต้าหลัวจินเซียนจากระนาบเทวโลก…สามารถเข้ามาในแดนลับต่างสวรรค์ได้งั้นหรือ? มีเรื่องแบบนี้ด้วย!?”
ต้วนหลิงเทียนตะลึง เขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ!
ก่อนจะเข้ามาในแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ เขายังหลงคิดว่ามันคือแดนลับเซียนกระบี่ที่อาวุโสฟงชิงหยางเหลือไว้ให้สืบทอดมรดกด้วยซ้ำ…
หานเฉวี่ยไน่เองก็ตะลึงไปไม่ต่าง
เหมือนกับต้วนหลิงเทียน นางเองก็ไม่รู้เรื่องเลย
หากแต่สีหน้าหลิ่วเสวียยังแลดูสงบ ท่าทางจะรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก
“กล่าวไปแดนลับต่างสวรรค์นั้นเป็นดั่ง ‘สื่อ’ ไว้ให้ตัวตนอย่างต้าหลัวจินเซียนเฟ้นหาผู้สืบทอด…แดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้จึงมีกฏเกณฑ์และมิติแข็งแกร่งมาก กระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ให้ลงมือเต็มกำลังก็มิอาจเปิดทลายความว่างเปล่าสร้างรอยแยกมิติได้…เพราะแดนลับแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยน้ำมือของต้าหลัวจินเซียน!”
“กล่าวได้ว่าถึงพื้นที่ในแดนลับต่างสวรรค์จะยังไม่แข็งแกร่งเท่าพื้นที่ในระนาบเทวโลก แต่ก็มิใช่อันใดที่ตัวตนที่ทรงพลังสูงสุดในระนาบโลกียะเราอย่างเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ จะฉีกเปิดรอยแยกได้!”
พอจางยี่เริ่มอธิบายถึงเรื่องนี้ ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้าเห็นด้วย
เพราะต้วนหลิงเทียนเองก็ได้ตระหนักเรื่องความแข็งแกร่งของพื้นที่ในแดนลับต่างสวรรรค์แห่งนี้มากับตัวเช่นกัน
ในตอนที่เขาลงมือด้วยพลังจู่โจมทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ เพื่อสังหารเผยกุ่นซาน…กระบี่ที่พุ่งไปกลับไม่อาจทลายว่างเปล่าได้! เรียกว่าไม่แม้แต่จะทิ้งรอยขีดข่วนอะไรไว้ด้วยซ้ำ!!
ทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าพื้นที่และมิติของแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ มีความคงทนมาก!
และต่อให้เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ก็ไม่อาจทำอะไรได้!
เพราะสุดท้ายแล้วหากเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์สามารถฉีกเปิดความว่างเปล่าได้จริง เช่นนั้นแดนลับต่างสวรรค์จะมีกุญแจไว้ทำอะไร? แถมไม่นานแดนลับต่างสวรรค์คงหมดความขลังสิ้นคุณค่าไปแน่แท้…
ดังนั้นพอได้ยินคำอธิบายของจางยี่ ต้วนหลิงเทียนก็เข้าใจได้ทันที
“ตัวตนระดับต้าหลัวจินเซียนในระนาบเทวโลกนั้น ต้องการผู้สืบทอดที่มีคุณสมบัติสูงลิบ! แม้กระทั่งในระนาบเทวโลกเองก็ยากนักจะพบพานผู้ที่เหมาะสม จึงต้องสอดส่องมองหากระทั่งในระนาบโลกียะ”
“ด้วยเหตุนี้จึงอุบัติแดนลับต่างสวรรค์ขึ้น”
“อันที่จริงก็ไม่ใช่แค่ 5 ระนาบโลกียะของพวกเรานะ…ในระนาบโลกียะอื่นๆเองก็จะมีแดนลับต่างสวรรค์เช่นกัน กล่าวได้ว่าโดยปกติแล้ววระนาบโลกียะใดๆจักเชื่อมต่อกับแดนลับต่างสวรรค์เสมอ!”
“เจ้าต้องทราบด้วยว่า…ภายใต้ระนาบเทวโลกนั้นมีระนาบโลกียะมากมายนับไม่ถ้วน เช่นนั้นจำนวนแดนลับต่างสวรรค์ก็มากมายมหาศาลแล้ว!”
“เช่นเดียวกันกับแดนลับต่างสวรรค์ที่พวกเรากำลังอยู่กันตอนนี้…มันจะเปิดออกทุกๆแสนปี และทุกครั้งที่เปิดออกจะมีต้าหลัวจินเซียนเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จักได้รับผู้สืบทอด…กล่าวได้ว่าหลายหมื่นปีหรืออาจจะเป็นนับแสนปี ทุกแดนลับต่างสวรรค์ อาจจะมีผู้สืบทอดของต้าหลัวจินเซียนกำเนิดขึ้นหนึ่งคน”
“หากไม่ใช่เพราะแดนลับต่างสวรรค์มีจำนวนนับไม่ถ้วน ป่านนี้เหล่าต้าหลัวจินเซียนในระนาบเทวโลกคงต้องแย่งกันทอดแหดักศิษย์บนระนาบเทวโลกกันแล้ว…ไม่มาเฟ้นหาผู้สืบทอดอะไรแบบนี้หรอก!”
กล่าวถึงจุดนี้จางยี่ก็หยุดลงชั่วคราว เพื่อให้ต้วนหลิงเทียนได้ย่อยข้อมูล
และตอนนี้ต้วนหลิงเทียนก็ตกใจกับคำพูดของจางยี่ไม่น้อย
“ถ้างั้นโดยปกติแล้ว…ทุกๆระนาบโลกียะก็จะเชื่อมต่อกับแดนลับต่างสวรรค์แดนใดแดนหนึ่งงั้นเหรอ?”
ก่อนหน้านี้ตอนที่ผู้เฒ่าหั่วยังมีชีวิตอยู่ ต้วนหลิงเทียนได้รับทราบมาว่า…
ระนาบเทวโลกมีเพียงเก้าเก้า 81 ระนาบเท่านั้น
อย่างไรก็ตามระนาบโลกียะมันมีจำนวนนับไม่ถ้วน
หากบอกว่าทุกระนาบโลกียะได้เชื่อมต่อกับแดนลับต่างสวรรค์จริง ต่อให้จะเป็นชุดละ 5 ระนาบแบบนี้ นั่นก็หมายความว่าจำนวนแดนลับต่างสวรรค์มีมากมายมหาศาลถึงขั้นนับไม่ถ้วนเช่นกัน!
ตอนนี้พอได้ฟังคำอธิบายของจางยี่ ต้วนหลิงเทียนก็พอได้หายสงสัยเสียที
ตอนแรกเขายังสงสัยอยู่ด้วยซ้ำ ท่านหาผู้สืบทอดเช่นนี้เมื่อไหร่จะได้กัน? ในเมื่อแดนลับต่างสวรรค์มันเปิดออกทุกๆรอบหลายหมื่นกระทั่งแสนปี…
เพราะนั่นหมายความว่าทุกๆรอบเวลานานปีที่แดนลับต่างสวรรค์เปิดออก ก็อาจจะมีผู้สืบทอดต้าหลัวจินเซียนถือกำเนิดขึ้นแค่คนเดียวเท่านั้น…แถมแต่ละรอบก็ไม่ใช่ต้าหลัวจินเซียนคนเดิม!
ตอนแรกเขายังรู้สึกว่าเรื่องนี้มันแลดูเกินจริงไปบ้าง
ต่อมาพอได้ฟังว่าทุกระนาบโลกียะล้วนเชื่อมต่อกับแดนลับต่างสวรรค์ เขาจึงเข้าใจได้
ด้วยเหตุนี้ถึงแม้ทุกๆแดนลับต่างสวรรค์จะมีผู้สืบทอดต้าหลัวจินเซียนได้คนเดียว และมีแค่ 1 ในรอบหลายหมื่นกระทั่งนับแสนปี ก็ไม่ถือว่าน้อยนิดอะไร
แดนลับต่างสวรรค์เปิดทุกรอบแสนปีแล้วอย่างไร?
เพราะในเมื่อมีแดนลับต่างสวรรค์จำนวนมหาศาล แม้ว่าเฉลี่ยแล้วแต่ละที่จะมีต้าหลัวจินเซียนคนหนึ่งได้รับศิษย์สืบทอดจำนวน 1 คนทุกรอบหมื่นหรือแสนปี…
แต่ถ้าต้าหลัวจินเซียนได้ทิ้งมรดกสืบทอดไว้หลายๆที่เล่า? ต่อให้จะสลับสับเปลี่ยนรอบกันกับต้าหลัวจินเซียนคนอื่น แต่รวมๆแล้วนั่นก็มีโอกาสได้รับผู้สืบทอดไม่น้อย! หมายความว่าเผลอๆทุกปีต้าหลัวจินเซียนอาจจะได้รับศิษย์ 1 คนหรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ!!
กระทั่งต่อให้ปีนี้อาจจะพลาดไม่ได้รับศิษย์สักคน
แต่ในอีกไม่กี่ปีหรือนานหน่อยก็สิบปีอย่างไรก็ต้องได้รับผู้สืบทอดสักคน!
ยิ่งคิดก็ยิ่งเข้าเค้า
พอคิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็พอเข้าใจได้…
“ใช่ และตราบใดที่ต้าหลัวจินเซียนมาหว่านแหไว้ สักวันก็ต้องได้รับศิษย์…”
จางยี่กล่าวสืบต่อ
“อย่างแดนลับต่างสวรรค์ของพวกเรา แม้มันจะเปิดออกทุกๆรอบแสนปี และมีเพียง 5 ระนาบโลกียะที่เชื่อมต่อ…ทว่าตัวตนต้าหลัวจินเซียนที่ถือกำเนิดใหม่ก็สามารถเข้ามาได้เช่นกัน”
“ดังนั้นเซียนกระบี่บงกชฟ้า…ก็สมควรเป็นอุบาสกชิงเหลียน หลี่ไป๋ ของระนาบเหยียหวงข้าไม่ผิดแน่ แม้จะเป็นตัวตนที่มีอายุได้ไม่กี่พันปี ขอเพียงบรรลุถึงต้าหลัวจินเซียนก็สามารถเข้ามาทิ้งสมบัติไว้ในนี้ได้ หากแต่คงไม่อาจทิ้งมรดกอะไรเอาไว้ได้…”
จางยี่พูดถึงตรงนี้ก็มองถามต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม
“เฮ่…ต้วนหลิงเทียน นี่เจ้าคงไม่ได้กำลังคิดอยู่หรอกนะว่าพระราชวังใต้ดินเบื้องหน้าของพวกเรา จะมีมรดกของเซียนกระบี่บงกชฟ้า หลี่ไป๋ อยู่?”
ได้ยินคำถามของจางยี่ ต้วนหลิงเทียนอดหยีตาลงไม่ได้
“นี่ไม่ใช่มรดกสถานของเซียนกระบี่บงกชฟ้าหลี่ไป๋หรอกหรือ?”
ยังอดย้อนถามไปด้วยความแปลกใจไม่ไหว
เพราะในความคิดของเขา
ในเมื่อสถานที่แห่งีน้ถูกสร้างทิ้งไว้โดยเซียนกระบี่บงกชฟ้าอย่างหลี่ไป๋ เช่นนั้นก็สมควรมีมรดกไม่ใช่เหรอ?
แต่ตอนนี้ฟังจากที่จางยี่กล่าวแล้ว ท่าทางว่าจะไม่มีมรดกอะไรที่ว่า!
“ไม่แน่นอน!”
จางยี่ส่ายหัวไปมาค่อยกล่าวต่อว่า “เจ้าไม่ได้ยินที่เสียงที่ดังขึ้นจากพระราชวังหรือไร…เสียงนั่นกล่าวว่าที่นี่เป็นเพียง สมบัติสถานระดับสวรรค์ ที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง…”
“สมบัติสถานระดับสวรรค์?”
ต้วนหลิงเทียนอดโค้งคิ้วขึ้นมาด้วยความแปลกใจไมน่ได้ “แล้วสมบัติสถานระดับสวรรค์ ยังไม่ใช่มรดกสถานอีกหรือ?”
“เอ่อ…นี่เจ้าไม่รู้จักกระทั่งสมบัติสถานระดับสวรรค์เลยหรือ?”
ตอนนี้จางยี่รู้สึกเสมือนไปไม่เป็นกับความไม่รู้ของต้วนหลิงเทียนจริงๆ ชายหนุ่มเบื้องหน้าผู้นี้…การเข้ามาในแดนลับต่างสวรรค์ของอีกฝ่ายเสมือนคนหลังเขาเข้าเมืองโดยแท้! มันยังไม่อาจนึกออกได้จริงๆว่าครึ่งปีที่แล้วสหายเบื้องหน้าไปทำอีท่าไหนถึงเข้ามาในนี้ได้…!!
อย่างไรก็ตาม จางยี่ยังค่อยๆอธิบายเรื่องราวให้ต้วนหลิงเทียนฟังอย่างอดทน
“ในแดนลับต่างสวรรค์นั้นนอกจากมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนแล้ว สถานที่ๆมีค่าอื่นๆล้วนแบ่งออกเป็นสามประเภท…หนึ่งในนั้นเรียกว่าสมบัติสถานระดับมนุษย์ ซึ่งเป็นสมบัติสถานทั้ง 2 แห่งที่พวกเราได้เบาะแสมา”
“ในสมบัติสถานระดับมนุษย์ นอกจาก เบาะแส ที่นำไปสู่มรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นอีก…”
“เหนือสมบัติสถานระดับมนุษย์ จะเป็นสมบัติสถานระดับโลก และนั่นคือสถานที่ๆพวกเราพึ่งผ่านมา และพบเจอยอดสมบัติสวรรค์อย่างกระดิ่งที่เจ้าให้แม่นางเฉวี่ยไน่ไป…โดยปกติแล้วสมบัติสถานระดับโลกจะเปิดกว้างและไม่มีบททดสอบยากเย็นอะไรนัก จะไม่ถึงหรือถึงขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะก็ดี เหล่าเซียนอมตะเสเพลก็ดี ล้วนสามารถหยิบฉวยสมบัติไปได้ทั้งสิ้น”
“แต่แน่นอนว่ายิ่งมีพลังฝึกปรือสูงส่งเท่าไหร่ การทำลายข่ายอาคมเพื่อเข้าไปนำสมบัติมาครองก็ยิ่งทำได้ง่ายดาย…”
“สุดท้ายก็เป็นสมบัติสถานระดับสวรรค์…และในแดนลับต่างสวรรค์แห่งนี้ นอกจากมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนแล้ว ก็นับว่าสมบัติสถานระดับสวรรค์เป็นอะไรที่เลิศล้ำที่สุดและควรค่าแก่การเข้าไปผจญภัยมากที่สุด!”
กล่าวถึงจุดนี้น้ำเสียงของจางยี่ก็เริ่มตื่นเต้นไม่น้อย
ก่อนหน้าเพราะได้ยินคำพูดของหลี่ไป๋ มันจึงตกตะลึงกับตัวตนของอีกฝ่ายจนลืมนึกถึงเรื่องนี้ไป พอมาตระหนักได้ภายหลังว่ามันกำลังจะเข้าไปในสมบัติสถานระดับสวรรค์ จึงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นคึกคักขึ้นมา!
ความน่าสนใจของสมบัติสถานระดับสวรรค์มีมากแค่ไหน ดูอาการคึกคักปานถูกฉีดเลือดไก่ของจางยี่ก็ทราบได้
“แต่นอกจากสมบัติสถานระดับมนุษย์กับมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียนแล้ว…สมบัติสถานระดับสวรรค์แห่งนี้เห็นอยู่ว่ามันปิดกั้นเซียนอมตะเสเพลเช่นกัน…หมายความว่าหากเหล่าเซียนอมตะเสเพลจะได้รับสมบัติอะไร ก็ได้แค่จากสมบัติสถานระดับดับโลกงั้นเหรอ…”
“ส่วนที่อื่น…พวกมันไม่มีสิทธิ์?”
ต้วนหลิงเทียนกล่าวถาม
“ข้าไม่อาจบอกได้ว่าพวกมันจะไม่มีสิทธิ์ซะทีเดียว…เพราะหากพวกมันค้นพบสมบัติสถานระดับสวรรค์หรือมรดกสถานของต้าหลัวจินเซียน พวกมันก็มักจะเฝ้ารออยู่ด้านนอกทางเข้า หมายฉกฉวยสมบัติและผลประโยชน์จากผู้ที่อ่อนแอกว่าพวกมัน…”
ขณะที่กล่าวตอบ สีหน้าจางยี่ก็เผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว
และเมื่อเห็นว่าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบใจอยู่ได้ จางยี่ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวเตือน “ต้วนหลิงเทียนเรื่องนี้กระทั่งเจ้าก็ไม่อาจประมาทได้ เพราะในบรรดาเซียนอมตะเสเพลที่เข้ามาในนี้…ไม่ขาดเซียนอมตะเสเพลระดับ 7 ทัณฑ์ หรือ 8 ทัณฑ์”
“อาจมีกระทั่งเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ด้วยซ้ำ!”
กล่าวถึงท้ายประโยคสีหน้าจางยี่ก็เผยความหวาดกลัวออกมาจับใจ
“เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์?”
ใจต้วนหลิงเทียนกระตุกไปวูบหนึ่ง สีหน้ายังเริ่มเปลี่ยนไป
“ในระนาบเหยียนหวงของเจ้ามีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์รึเปล่า?”
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะถามจางยี่เรื่องนี้ หลังได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์
“มี!”
จางยี่กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงฉะฉานมั่นใจ
ได้ยินคำตอบด้วยความมั่นใจของจางยี่ ใจต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสะท้านเต้นไปไม่เป็นจังหวะ!
เพราะสุดท้ายแล้วเรื่องที่เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อาจจะมีกับมีอยู่จริง…มันเป็นอะไรที่แตกต่างกันใหญ่หลวง!!