มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เจ้าต่างหากล่ะที่เอาแต่พูดไร้สาระ!”

“หุบปากของเจ้าซะ!”

“อือ ๆ ๆ…” ไม่นานนักแม่นางเซียวก็พูดไม่ออกเสียแล้ว

เนื่องจากเจ้าหนุ่มตรงหน้าผู้นี้เอาหมั่นโถวที่แย่งไปในก่อนหน้านี้ยัดปากเขา

“อือ…” ดวงตาของแม่นางเซียวลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ!

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “แม่นางเซียวซาบซึ้งใจใช่ไหมล่ะ เจ้าไม่อยากพูด ข้าก็ทำให้เจ้าพูดไม่ได้ ตอนนี้เจ้าอยากพูดก็พูดไม่ได้แล้วใช่ไหมล่ะ”

“จริงสิ! รสชาติหมั่นโถวนี่เป็นยังไงเหรอ?”

แม่นางเซียวโกรธจนแทบจะกระอักเลือดแล้ว!

อินรั่วเฉินกล่าว “เฉียนเยี่ย ทำเช่นนี้มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “โอรสศักดิ์สิทธิ์ หากเจ้าอยากจะทำบุญก็ทำที่ถิ่นของเจ้า ข้าจะไม่ว่า แต่ที่นี่คือถิ่นของข้า ก็ควรจะฟังข้า เข้าใจหรือไม่?”

อินรั่วเฉินกล่าว “อืม!”

มู่เฉียนซีปรบมือพลางกล่าว “เข้ามาเถอะ!”

ร่างในชุดขาวหลายร่างเข้ามาและคุกเข่าตรงหน้ามู่เฉียนซี “คารวะท่านประมุขน้อย ข้าน้อยมาช้าไป สมควรตายหมื่น ๆ ครั้ง”

มู่เฉียนซีกล่าว “พวกเจ้าไม่ได้มาช้าหรอก มาได้ทันเวลาพอดี เชิญตัวแม่นางเซียวไปที่ตำหนักข้า”

“ขอรับ!”

มู่เฉียนซีกล่าวกับอินรั่วเฉินว่า “ภิกษุ เหล้าก็ดื่มเสร็จแล้ว แม่นางสองคนนั้นที่ข้าเลือกให้เจ้า เจ้าพอใจหรือไม่ ให้ข้าหามาเพิ่มอีกสักสองสามคนดีไหม?”

ในที่สุดสีหน้าของอินรั่วเฉินก็ไม่เรียบนิ่งอีกต่อไปแล้ว เขากล่าวอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อยว่า “เฉียนเยี่ย เรากลับกันเถอะ!”

“เจ้านี่นะ! เอาล่ะ กลับก็กลับ!”

ทันทีที่มู่เฉียนซีย่างเท้าเดินออกจากจุ้ยเมิ่งชวนก็เห็นกู้ไป๋อีเดินมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

กู้ไป๋อีกล่าว “ข้ามารับเจ้า”

มู่เฉียนซีกล่าว “ลำบากเสี่ยวไป๋แล้ว เรากลับกันเถอะ!”

เมื่อรู้ความเคลื่อนไหวของจุ่ยเมิ่งชวนเช่นนี้ กู้ไป๋อียังจะนั่งติดเก้าอี้ได้อย่างไรกันเล่า!

ตอนแรกเขาคิดว่ามู่เฉียนซีทำให้อินรั่วเฉินโกรธจนลงไม้ลงมือกับนางแล้ว กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เจอนักฆ่าคนใหม่เช่นนี้

กู้ไป๋อีทำเหมือนไม่เห็นอินรั่วเฉิน เขาเพิกเฉยต่ออินรั่วเฉินและพามู่เฉียนซีกลับไปทันที

ส่วนอินรั่วเฉินทำได้เพียงแค่เดินตามไปอย่างเงียบ ๆ!

“เจ้าเด็กมู่หรงเฉียนเยี่ยนั่นถูกลอบฆ่าแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเด็กนั่นก็มีวันนี้ด้วย ใครใช้ให้อวดดี เย่อหยิ่งกันล่ะ” นายน้อยใหญ่กล่าว

“น่าเสียดายที่นักฆ่าผู้นั้นทำไม่สำเร็จ!”

“นักฆ่าผู้นั้นไม่ใช่คนที่พวกเราส่งไป หรือว่าเจ้าเด็กนั่นจะไปล่วงเกินคนอื่นด้วย?”

อย่างไรเสียก็มีคนบางส่วนในตำหนักเป่ยหานที่มีความสุขกับการที่เห็นประมุขน้อยเฉียนเยี่ยถูกลอบฆ่า!

เห็นได้ว่าในตำหนักเป่ยหาน มีคนไม่ชอบมู่เฉียนซีอย่างเห็นได้ชัด!

มู่เฉียนซีกลับมาแล้ว ส่วนลูกน้องของกู้ไป๋อีก็เอาตัวแม่นางเซียวเข้ามาด้วย

“ท่านประมุขน้อยเฉียนเยี่ย คนผู้นี้จะจัดการเช่นไรดีขอรับ?”

มู่เฉียนซีกล่าว “เอาตัวไปชำระร่างกายให้สะอาดแล้วพาไปที่ตำหนักข้า เสร็จแล้วข้าจะไปชื่นชมความงามของแม่นางเซียว”

ลูกน้องของกู้ไป๋อีตกใจขึ้น “ท่านประมุขน้อย นะ…นี่เขา เขาเป็นผู้ชายนะขอรับ”

ถึงแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ผู้หญิง แต่เสื้อผ้าก็ขาดรุ่งริ่งเช่นนี้ ผู้ที่มีตาก็สามารถมองออกว่าเขาเป็นผู้ชาย

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าชอบผู้ชาย รีบไปจัดการซะ”

“ขอรับ!”

ตอนนี้แม่นางเซียวอยากจะเอาหัวชนกำแพงตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

เดิมทีมู่หรงเฉียนเยี่ยเป็นเหยื่อของเขา กลับนึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เขาจะต้องกลายเป็นอาหารในจานของมู่หรงเฉียนเยี่ยเช่นนี้

หลังจากที่คนเหล่านี้ออกไป กู้ไป๋อีก็กล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ พอเถอะนะ!”

สีหน้าของกู้ไป๋อีดำคล้ำด้วยความโกรธ หน้าตาของชายแต่งหญิงผู้นั้นช่างน่าหลงใหลมากเกินไปแล้ว

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “นี่! เสี่ยวไป๋ เจ้าคงจะไม่คิดจริง ๆ ใช่ไหม ข้าก็แค่ขู่เจ้านั่นเฉย ๆ วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ไม่มีเวลาเล่นกับเจ้านั่นหรอกนะ!”

“วันพรุ่งก็ไม่ได้!” กู้ไป๋อีกล่าวเสียงขรึม

“งั้นวันพรุ่งตอนดึกก็แล้วกัน” มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว

กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็ไปพักผ่อนทันที

ดวงตาของกู้ไป๋อีเย็นยะเยือกขึ้น ฆ่าชายผู้นั้นไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ก็สิ้นเรื่อง

แม่นางเซียวที่กำลังถูกชำระร่างกายในตอนนี้รู้สึกหนาวสั่นจนสะท้านไปทั้งตัวราวกับมีคนจ้องมองอยู่ก็มิปาน

หลังจากที่ชำระร่างกายเสร็จก็ได้สวมเสื้อผ้าอาภรณ์เป็นชาย ถึงแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าอาภรณ์ผู้ชาย แต่รสนิยมของเขาก็ยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง

เขาถูกยาพิษไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ขณะที่เอนกายอยู่บนเตียง เขาก็กำลังคิดว่าเมื่อไหร่มู่หรงเฉียนเยี่ยจะกลับมาสักที ตกลงมู่หรงเฉียนเยี่ยจะทำอะไรกับเขากันแน่

หรือว่าต้องการจะทำเช่นนั้นจริง ๆ?

สุดท้ายเขาก็รอด้วยความกระวนกระวายใจทั้งคืนจนถึงรุ่งสาง แต่มู่หรงเฉียนเยี่ยก็ไม่มา

แม่นางเซียวโกรธจนควันออกหูแล้ว “มู่หรงเฉียนเยี่ย เจ้าเล่นลิ้นกับข้า!”

เขาครุ่นคิดว่าเมื่อคืนไม่มา วันนี้ก็ต้องมาแน่นอน!

แม่นางเซียวรอมาทั้งวันจนรอบดวงตาดำคล้ำแทบจะกลายเป็นหมีแพนด้าแล้ว ไม่มีอารมณ์จะกินอะไรทั้งสิ้น แต่จนป่านนี้คนที่เขารอก็ยังไม่มา

ความโกรธแค้นในใจของแม่นางเซียวนั้น มู่เฉียนซีย่อมรู้ดี จึงได้ส่งคนมาแจ้งข่าว

“แม่นางเซียว ท่านประมุขน้อยบอกว่าให้แม่นางกินอะไรสักหน่อย! มิเช่นนั้นคืนนี้จะไม่มีแรงดูแลปรนนิบัติท่านประมุขน้อยของพวกเรา”

สีหน้าของแม่นางเซียวเขียวคล้ำด้วยความโกรธเกรี้ยว เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราด “ไสหัวไปให้พ้น! ไสหัวออกไปให้หมด!”

เมื่อยามรัตติกาลมาเยือน ก็ถึงเวลาที่จะไปหาหญิงงามผู้นั้นแล้ว

ทันทีที่เปิดประตู ก็มีร่างชุดขาวร่างหนึ่งยืนขวางหน้ามู่เฉียนซีไว้

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ เจ้าจะไปด้วยเหรอ บางทีเรื่องที่เจ้าจะได้ยินในคืนนี้ อาจจะทำให้เจ้าเลือกยากก็ได้นะ”

กู้ไป๋อีผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวว่า “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ข้าก็จะอยู่ข้างเจ้า ฉะนั้นไม่มีเรื่องใดที่ทำให้ข้าเลือกยากได้”

มู่เฉียนซีตกใจเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าอยากแอบฟังก็แอบฟังได้!”

เสี่ยวไป๋เลือกที่จะอยู่ข้างนางอย่างไม่ลังเล นางก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังเขา

แม่นางเซียวหิวจนหน้ามืด ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงก้าวเท้าดังมาจากด้านนอก

ประตูถูกเปิดออก จากนั้นเขาก็เห็นใบหน้าของคนผู้นั้นที่เขาต้องการจะฉีกเนื้อหนังออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น

เขากัดฟันกรอดพลางกล่าว “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ในที่สุดก็มาสักที! ให้ข้าน้อยรอนานเกินไปแล้ว”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ดูท่าข้าจะมีเสน่ห์มากจริง ๆ นะ ทำให้แม่นางเซียวคิดถึงได้ถึงเพียงนี้ ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากจริง ๆ”

“เจ้าฆ่าข้าซะเถอะ! เจ้าไม่มีทางได้รู้อะไรจากปากข้าหรอก”

มู่เฉียนซีกล่าว “ถึงแม้ว่าปากเจ้าจะบอกว่าต้องการให้ข้าฆ่าเจ้ามาก แต่แววตาของเจ้า มันกลับบอกว่าเจ้าไม่อยากตายง่าย ๆ เช่นนี้นะ”

มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ดวงตาที่มีเสน่ห์คู่นั้น เห็นความตายดั่งคืนสู่มาตุภูมิ แต่ก็ดูไม่เต็มใจที่จะตายอยู่ลึก ๆ

แม่นางเซียวกล่าว “ตกอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว ต่อให้ข้าไม่อยากตายแล้วมันจะมีประโยชน์ใดล่ะ?”

“ข้าไม่ฆ่าเจ้าก็ได้ แต่อยากดูการแสดงของเจ้าสักหน่อย” ดวงตาของมู่เฉียนซีมองเขาด้วยความป่าเถื่อน

“นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะชอบผู้ชายจริง ๆ แถมยังชื่นชอบข้าเสียแล้วด้วย” แม่นางเซียวกล่าวเย้ยหยัน

แม่นางเซียวหลับตาลงพลางกล่าว “ข้ายังไม่อยากตาย ต่อให้จะถูกดูถูกเหยียดหยาม ข้าก็ยอม”

กล่าวจบ เขาก็ถอดเสื้อผ้าต่อหน้ามู่เฉียนซี เผยให้เห็นผิวพรรณขาวผ่องดั่งหยกนั้น!

จากนั้น เขายังเอาของจำนวนไม่น้อยออกมาด้วย ของสิ่งนี้ล้วนแต่เป็นยากำหนัดชั้นยอด

เขากล่าวอีกว่า “นี่เป็นยาที่ข้าได้เตรียมมา ไม่รู้ว่าประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะให้ข้าใช้แบบใด” เขานั่งลงบนเตียงด้วยท่าทางเย้ายวน และมองมู่เฉียนซีอย่างยั่วยวนชวนให้เสน่ห์หา “อันที่จริงแล้ว หากประมุขน้อยเฉียนเยี่ยอยากจะใช้ทั้งหมดก็เป็นไร ต่อให้ข้าไม่ชอบผู้ชาย แต่ตราบใดที่กินยานี้เข้าไป ไม่ว่าเจ้าจะกระทำเช่นใดกับข้า ข้าก็ยอมทั้งสิ้น ขอเพียงแค่ประมุขน้อยพึงพอใจในตัวข้าก็พอ”

.

.