ตอนที่ 1294 มอบกายถวายชีวิต

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ก็จริง การบีบบังคับพลังให้แข็งแกร่งขึ้นด้วยทักษะลึกลับ อีกทั้งยังทำลายตัวเองเช่นนี้อีก ต่อให้เขาเป็นผู้กระทำเอง ก็ใช่ว่าเขาจะสามารถหยุดได้

หากไม่ใช่เพราะนางกับกู้ไป๋อีอยู่ที่นี่ เขาก็ยังไม่อยากตาย แต่เมื่อคิดดูแล้ว เขาคิดว่าการที่เขาทำลายตัวเองที่นี่ก็ไม่เลวเลย

เพราะมันสามารถทำลายตำหนักเป่ยหานให้ราบเป็นหน้ากลองได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าตาเฒ่าเหล่านั้นจะหนีไปได้ก็ตาม

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวไป๋ แสงธรรมของอินรั่วเฉินทำให้พิษนั่นอ่อนแอลงแล้ว เจ้าใช้กระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดทำลายรังไหมพิษนั่นเร็วเข้า”

“ได้!”

ทันใดนั้นกระบี่เล่มหนึ่งของกู้ไป๋อีก็พุ่งไป ไม่ได้มีกระบวนท่าอันใด แต่กลับถ่ายเทพลังวิญญาณทั้งหมดของเขาเข้าไปในกระบี่เล่มนั้น

พลังอำนาจนี้ยากที่จะต้านทานได้!

ตูม!

ลำแสงกระบี่ของกู้ไป๋อีแทงทะลุแสงธรรมของอินรั่วเฉิน และตัดรังไหมพิษนั้นออก

และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็โยนเข็มยาออกมาสามเข็มและพุ่งเข้าไปตามลำแสงกระบี่ของกู้ไป๋อี

ในตอนนี้แม่นางเซียวรู้สึกเจ็บปวดเป็นร้อยเท่า เขาหลบลำแสงกระบี่ของกู้ไป๋อีเอาไว้ได้ แต่ไม่สามารถหลบหลีกอาวุธลับขนาดเล็กนั้นได้

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ! เข็มยาสามเข็มนั้นแทงเข้าไปในร่างกายของเขา

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “สำเร็จแล้ว!”

เดิมทีพิษในร่างกายกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว และเขาควรจะถูกพิษนี้ทำลายจนร่างแตกสลายเป็นผุยผง แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าพิษนั้นจะถูกยับยั้งลงไปแล้ว

แม่นางเซียวเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “นี่มัน…เป็นไปได้ยังไง?”

หมอกพิษเริ่มจางลงไปเรื่อย ๆ และร่างของแม่นางเซียวก็ร่วงลงมาจากกลางอากาศ

ตุบ!

พรวด พรวด! เขากระอักเลือดสีดำคำโตออกมา

ตัวเขาเองยังไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง!

เขากล้ารับประกันเลยว่าทักษะลับนี้ของเขาไม่มีผู้ใดสามารถขวางได้ นอกเสียจาก…นอกเสียจาก…

เขามองไปที่ชายหนุ่มชุดขาวผู้นั้น และกล่าวว่า “เจ้า… นี่เจ้าเป็นใครกันแน่?”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มู่เฉียนซีขว้างเข็มยาไปอีกสองสามเข็มเพื่อปิดจุดปราณพลังของแม่นางเซียว

“ใครก็ได้ มาเอาตัวเขาไปไว้ที่ห้องที่เงียบสงบหน่อย”

หลังจากจัดการได้แล้ว มู่เฉียนซีก็เริ่มรักษาให้แม่นางเซียว การที่เขาทำเช่นนั้นทำให้ร่างกายของเขาพังจนมู่เฉียนซีไม่อาจทนดูได้

และแน่นอนว่าถึงแม้ร่างกายของเขาจะย่ำแย่ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธี!

หลังจากที่มู่เฉียนซีแทงเข็มยาให้แม่นางเซียวไปแล้วหลายเข็ม นางก็กล่าวขึ้นว่า “หลุนหุย ออกมาเดี๋ยวนี้!”

“ขอรับ!”

หม้อยาสีดำขลับหม้อหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ หลุนหุยยิ้มพลางกล่าวว่า “นึกไม่ถึงเลยว่านายท่านจะเป็นเหมือนกับฝ่าบาท เป็นคนที่รักหยกถนอมบุปผาเช่นนี้ จะหลอมยาพิษเติมเต็มพลังร่างกายของคนงามผู้นี้ไม่ใช่เหรอ ขอเพียงแค่นายท่านมีสมุนไพรเพียงพอ ต้องการเท่าไหร่ข้าก็หลอมให้นายท่านได้!”

คนอื่นเติมเต็มพลังร่างกายล้วนแต่กินดื่มของดี ๆ ทั้งสิ้น แต่ไม่ใช่กับแม่นางเซียวผู้นี้ เขาต้องการเพียงแค่พิษเท่านั้น

มู่เฉียนซีโยนสมุนไพรวิญญาณมากมายหลายชนิดลงไป และกล่าวกับหลุนหุยว่า “เจ้ารีบหลอมเถอะ!”

“ใครก็ได้เข้ามาหน่อย! ดูแลเขาให้ดี หากเขาไม่กิน ก็ป้อนใปเรื่อย ๆ จนเขายอมกิน”

“ขอรับท่านประมุขน้อย!”

ครั้นแล้ว สถานการณ์ความวุ่นวายของตำหนักเป่ยหานในครั้งนี้ก็ได้สงบลง ทุกคนล้วนแต่พูดว่าท่านหัวหน้าตำหนักกับโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินฝีมือเก่งกาจมาก สถานการณ์อันน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนั้นแต่พวกเขากลับสามารถจัดการได้

“ไปตรวจสอบมาว่านักพิษผู้นั้นมันเป็นใครกันแน่ ดินแดนสี่ทิศของเราไม่มีนักพิษเช่นนี้ปรากฏมานานมากแล้ว” ผู้อาวุโสสูงสุดกล่าวเสียงขรึม

หลังจากที่นอนสลบไสลมาเป็นเวลาสามวัน ในที่สุดแม่นางเซียวก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว

“ข้ายังไม่ตาย!” ดวงตาของแม่นางเซียวเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อจริง ๆ

ต่อให้ท่านปู่ของเขายังอยู่ในโลกใบนี้ แต่สถานการณ์เช่นนั้นท่านปู่ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้อย่างแน่นอน

บาดแผลก็หายแล้ว ชุดก็เปลี่ยนใหม่สะอาดเอี่ยมแล้ว ไหนจะร่างกายที่ดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้างแล้ว เห็นทีว่าเขาคงจะได้รับอาหารในขณะที่นอนสลบไสลอยู่

ในตอนนี้เองก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น “แม่นางคนงามฟื้นแล้วเหรอ!”

“ใคร?”

แม่นางเซียวกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แต่กลับไม่เห็นใครแม้แต่คนเดียว!

และในตอนนี้เอง หม้อยาสีดำขลับก็ได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศ และกล่าวว่า “ในที่สุดคนงามก็ฟื้นแล้ว บำรุงร่างกายสักหน่อยเถอะ อาการรอมร่อเช่นนี้จะปรนนิบัตินายท่านของข้าได้ยังไง”

“หม้อยา! มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพ!” ดวงตาของแม่นางเซียวเบิกกว้างด้วยความตกใจ พลางจ้องมองไปที่หม้อยาตรงหน้านี้!

“บำรุงร่างกายสักหน่อยเถอะ! กินยาเหล่านี้ให้หมดล่ะ!”

หลุนหุยได้หลอมยาพิษออกมามากมาย และนี่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น!

โยนยาพิษส่วนหนึ่งให้กับแม่นางเซียว แต่ผลลัพธ์ก็คือ…

ยาพิษสีดำเหล่านั้นเยอะมากจนแทบจะกลบร่างของแม่นางเซียวจนมิดแล้ว

ค่อก ค่อก ค่อก! ถูกยาพิษกองโตทับถมเช่นนี้ เขาก็หายใจยากลำบากอยู่เหมือนกัน

กว่าจะคืบคลานออกมาจากกองยาพิษนั้นได้มันไม่ง่ายเลย เขาเกือบจะเป็นลมหมดสติไปอีกครั้งเสียแล้ว!

“ยาพิษขั้นสวรรค์ ประสิทธิภาพชั้นยอด นึกไม่ถึงเลยว่าจะมากมายถึงเพียงนี้ พระเจ้าช่วย!”

“นี่ข้ากำลังฝันไปแน่นอน! ข้ากำลังฝันไป…”

ในฐานะที่เขาเป็นนักพิษผู้หนึ่ง เขาเชี่ยวชาญวิชาพิษลึกลับมากที่สุด ตราบใดที่มีพิษ เขาจะสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้

ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ เขาได้กระทำการอย่างลับ ๆ เก็บรวบรวมสมุนไพรมากมายหลายชนิดเพื่อหลอมยาพิษที่จะช่วยให้ตัวเองมีพลังที่แข็งแกร่งมากขึ้น

ทว่า ความพยายามอย่างหนักหน่วงที่ผ่านมานั้น เมื่อเทียบกับยาพิษตรงหน้ากองนี้แล้ว มันไม่ควรค่าที่จะกล่าวถึงเลย

“ถ้าไม่อยากตายก็หยุดเหม่อได้แล้ว รีบกินบำรุงร่างกายของเจ้าซะ!”

จนถึงตอนนี้แล้ว แม่นางเซียวก็ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขารู้สภาพร่างกายของเขาดี ของดีกองอยู่ตรงหน้าเช่นนี้แล้ว จะไม่คว้าเอาไว้ได้อย่างไรกันล่ะ

ทว่า แม่นางเซียวนั้นคิดในแง่ดีเกินไปแล้ว หลังจากที่เขากินยาพิษกองนี้หมด หลุนหุยก็โยนยาพิษมากมายออกมากลบร่างของเขาอีกครั้ง

“กินอีก! รีบ ๆ กินเข้าไป!”

แม่นางเซียวตกใจนิ่งอึ้งไป นี่เอายาพิษมากมายเช่นนี้มาจากที่ใดกัน!

เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักพิษที่เสพติดยาพิษมาก ๆ แต่ตอนนี้เขากินยาพิษไปเยอะแยะมากมายจนแทบจะอ้วกออกมาแล้ว

อ้วก!

“ข้ากินไม่ไหวแล้วจริง ๆ ข้ากลืนไม่ลงแล้ว ขะ ข้า…”

“ช่างเถอะ! จะให้เจ้ากินจนท้องอืดตายก็ไม่ดี!” ในที่สุดหลุนหุยก็ปล่อยเขาด้วยความเมตตา

แม่นางเซียวเอนกายพิงเตียงอย่างหมดแรง เขาเกือบจะลากตำหนักเป่ยหานให้ตายไปด้วยกันได้แล้วเชียว นึกไม่ถึงเลยว่าจะรอดมาได้

ไม่เพียงแต่จะรอดเท่านั้น แต่ยังเอายาพิษอันล้ำค่ามากมายถึงเพียงนี้มารักษาเขาอีก คนผู้นั้นเป็นใครกันแน่?

คนเดียวที่เขาจะต่อสู้ด้วยนั่นก็คือชายหนุ่มชุดขาวผู้นั้น มู่หรงเฉียนเยี่ย…

เขาพึมพำเสียงเบาว่า “มู่หรงเฉียนเยี่ย เจ้าเป็นใครกันแน่?”

เมื่อได้รับรายงานมาว่าอาการของเจ้าหมอนั่นดีขึ้นมากแล้ว

มู่เฉียนซีคิดจะไปพูดคุยกับเขาให้กระจ่าง เพื่อไม่ให้เขาทำลายตัวเองอีก

“อย่าไป!” มู่เฉียนซีจะไปหานักพิษผู้อันตรายผู้นั้นอีกครั้ง แต่กู้ไป๋อีกลับไม่เห็นด้วย

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “เสี่ยวไป๋ วางใจเถอะ! ฝีมือการใช้พิษของเขาเก่งกาจก็จริง แต่เขาก็ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก แต่เจ้าห้ามลงมือเป็นอันขาด เพื่อไม่ให้เขาเสียสติไปเหมือนครั้งก่อน”

ครั้นแล้ว มู่เฉียนซีก็ไปหาแม่นางเซียวอีกครั้ง เมื่อเห็นนางมาเช่นนี้ แม่นางเซียวก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “ประมุขน้อยเฉียนเยี่ย ผู้มีพระคุณของข้า ช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้าควรตอบแทนด้วยการมอบกายถวายชีวิตให้”

“ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยลงมืออย่างใจกว้างถึงเพียงนี้ ตอนนี้อาการข้าก็ดีขึ้นมากแล้ว ประมุขน้อยอยากจะทำอะไรข้าก็เชิญได้เลย!”

มู่เฉียนซีกล่าว “แม่นางเซียว เจ้าแซ่เซียว แล้วเจ้าชื่อว่าอะไรล่ะ?”

“ข้ามีนามว่าเซียวเหยา แต่ข้าชอบให้ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยเรียกข้าว่าแม่นางเซียวมากกว่า มันแสดงให้เห็นถึงความงดงามของข้า หรือว่าการที่ข้าได้รับบาดเจ็บไปในครั้งนี้ หน้าตาของข้าจะไม่งดงามแล้ว?” แม่นางเซียวลูบไล้ใบหน้ารูปไข่ของตนเองพลางกล่าว

จากนั้นเขาก็เอายาจำนวนมากออกมาอีกครั้ง และกล่าวว่า “ข้าทำลายตัวเองไม่สำเร็จ ของเหล่านี้ยังมีอยู่ ประมุขน้อยเฉียนเยี่ยจะลองหรือไม่? มันจะต้องทำให้ประมุขน้อยมีความสุขเป็นที่สุดแน่นอน!”