ตอนที่ 1665 ส่งสมุนไพรนิรันดร์มา!

Alchemy Emperor of the Divine Dao

มันศพของยักษ์ที่มีรูปลักษณ์ใกล้เคียงมนุษย์มาก แต่ดวงตาสองข้างของมันนั้นค่อนข้างกว้างเล็กน้อยจนแทบจะชิดติดเข้าหากัน

ผิวหนังของเขาเป็นสีทองประกายราวกับโลหะและมีอักขระสีดำประทับอยู่บนร่าง ไม่ว่าจะเป็นอักขระใดบนร่างของเขาก็ราวกับมีพลังอำนาจที่สามารถบดขยี้ชั้นสวรรค์และสรรพสิ่ง

รอบกายของเขามีออร่าทมิฬอันไร้ที่สิ้นสุดถูกปลดปล่อยออกไป นอกจากนั้นโลหิตที่ไหลออกจากศพของเขาก็ได้กลายเป็นต้นกำเนิดพลังของแม่น้ำมหึมาแห่งนี้

หรือก็คือศาสตร์วรยุทธในดินแดนแห่งนี้มีรากฐานมาจากศพตนนี้!

น่าอัศจรรย์นัก แค่ดื่มน้ำจากแม่น้ำที่มีเจตจำนงยุทธอันน้อยนิดของยักษ์ตนนี้กลับสามารถถือกำเนิดเป็นรูปแบบบ่มเพาะพลังแบบใหม่ได้

ยิ่งกว่านั้นเขตแดนลี้ลับแห่งนี้คงอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว?

จากประวัติศาสตร์ที่สืบทอดกันมา ระยะเวลาได้ผ่านมาแล้วถึงแสนล้านปี!

ใช่แล้ว เวลาผ่านผ่านมาอย่างน้อยก็แสนล้านปี แต่โลหิตของยักษ์ตนนี้ก็ยังไหลออกมาไม่หยุด

ภาพความทรงจำถัดมาคือภาพของเสี่ยวกู่ที่ล่าถอยวิ่งกลับออกไปโดยไม่ได้ทำอะไร

เหล่าราชาเซียนกลายเป็นไร้คำพูด แม้แต่ผางเฉินก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องอัศจรรย์ขนาดนี้จะเกิดขึ้นที่นี่

ต้องรีบกลับไปแจ้งตระกูลโดยเร็ว บางทียักษ์ตนนั้นอาจจะเป็นราชานิรันดร์ที่ร่วงหล่น

ทักษะบ่มเพาะระดับราชานิรันดร์!

แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง หากได้ครอบครองทักษะบ่มเพาะระดับราชานิรันดร์ พลังของตระกูลผางจะทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้ากลายเป็นขุมอำนาจสามดาว สี่ดาวหรืออาจจะห้าดาวและมีเชื้อสายภายในตระกูลที่กลายเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ในที่สุด

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “เสี่ยวกู่ เจ้าไปหยิบสมุนไพรนั่นกลับมาได้รึเปล่า?” เขาชี้ไปยังผลกายาเชื่อมสวรรค์

“ยี่ ยา ย่า!” เสี่ยวกู่ไม่รอช้า มันรีบวิ่งไปขุดผลกายาเชื่อมสวรรค์ขึ้นมาและนำกลับมามอบให้หลิงฮัน

ทุกคนที่มองอยู่แทบจะทุกคนอยากอุทานออกมาว่า “เจ้าโง่”

เจ้าไม่รู้รึไงว่านั่นคือสมุนไพรนิรันดร์!

สมุนไพรนิรันดร์!

เจ้ามอบให้คนอื่นง่ายๆเช่นนั้นเลย? นี่เจ้าต้องโง่ถึงขนาดไหนถึงได้ไม่รู้ความล้ำค่าของสมุนไพรต้นนั้น?

“ส่งสมุนไพรนิรันดร์มา!” จู่ๆผางเฉินก็คำรามและจดจ้องมายังหลิงฮัน

เขาต้องการออกจากเขตแดนลี้ลับเพื่อไปรายงานเรื่องนี้ให้ประมุขตระกูลทราบ แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องชิงสมุนไพรนิรันดร์มาให้ได้เสียก่อน

หากรอจนถึงตอนที่ประมุขตระกูลมาถึงโลกบรรพกาล ต่อให้ผลกายาเชื่อมสวรรค์จะยังไม่ถูกหลิงฮันกินเข้าไป แต่มันก็ย่อมตกไปอยู่ในมือของประมุขตระกูลไม่ได้ตกมาอยู่ในมือของเขา

แต่ตราบใดที่เขาแย่งชิงผลกายาเชื่อมสวรรค์มาได้ก่อนและสังหารทุกคนทิ้งซะ ใครจะรู้ว่าเขาเป็นคนเอาไป?

“ใช่แล้ว ส่งมาซะ มันเป็นของนายท่านหมาผู้นี้!” สุนัขตัวดำไม่ลืมที่จะเข้าร่วมสนุกด้วย

“ถ้าจะมอบให้ใคร คนนั้นก็ต้องเป็นข้า” จักรพรรดิเพลิงอัสนีไม่ยอมน้อยหน้า

การแทรกแซงของทั้งสองคนทำให้คำพูดของผางเฉินดูราวกับเป็นเรื่องตลก

ผางเฉินเค้นเสียงไม่สบอารมณ์และยกฝ่ามือผลักเข้าใส่สุนัขตัวดำกับจักรพรรดิเพลิงอัสนี “หุบปาก!”

สุนัขตัวดำกับจักรพรรดิเพลิงอัสนีรีบหลบทันที ทั้งสองเพิ่งจะบรรลุเป็นเซียนระดับกลาง ซึ่งยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะปะทะกับราชาเซียนสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผางเฉินที่มีอำนาจแห่งกฎเกณฑ์อันสมบูรณ์ที่ทรงพลังราชาเซียนทั่วไป

“ส่งมา!” ผางเฉินคำรามอีกครั้งและโจมตีใส่หลิงฮัน

“อย่าได้ล้ำเส้นเกินไป!” ราชาเซียนชิงอวี่และปรมาจารย์คนอื่นๆลงมือ พวกเขายืนอยู่ข้างเดียวกับหลิงฮันย่อมต้องช่วยเหลือหลิงฮัน

“ฝูงแมลงตัวจ้อยคิดจะต่อต้านข้า?” ผางเฉินแสยะยิ้ม ‘ปัง ปัง ปัง’ เขากระหน่ำปล่อยหมัดออกไปจนราชาเซียนชิงอวี่และคนอื่นๆต้องล่าถอยอย่างช่วยไม่ได้

ไม่ใช่ว่าผางเฉินเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น แต่ความเข้าใจในอำนาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขานั้นสมบูรณ์จึงไม่แปลกที่เขาจะมีพลังต่อสู้ที่ทรงพลังกว่า

ราชาเซียนชิงอวี่และคนอื่นๆตกตะลึง แม้ผางเฉินจะเคยลงมือมาก่อนหน้านี้แล้วก็จริง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้เอาจริง กลับกลายเป็นว่าแท้จริงแล้วเขาทรงพลังถึงเพียงนี้

ผางเฉินก้าวเดินขึ้นหน้าก่อนจะพบกับจักรพรรดินีที่ยืนขวางอยู่และจดจ้องมาที่เขาด้วยท่าทางเหยียดหยามราวกับต้องการสื่อว่า ‘ไสหัวไป’

เขาเค้นเสียงไม่แยแส จริงอยู่ที่จักรพรรดินีงดงามมาก แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจพานางกลับไปยังดินแดนแห่งเซียนด้วยกันได้ อย่างมากเขาก็สามารถเล่นสนุกกับนางได้แค่ที่นี่เท่านั้น

เมื่อคิดได้เช่นนี้ผางเฉินก็หมดความอดทนที่จะตามตื้อจักรพรรดินีทันที โดยเฉพาะหลังจากการปรากฏตัวของหลิงฮัน เขาก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าต่อให้หว่านล้อมนางอย่างไรก็ไม่มีทางสำเร็จ

“หล่วนซิง เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า หลบไป!” ผางเฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“รนหาที่ตาย!” จักรพรรดินีลงมือ ร่างแยกทั้งเก้าของนางปรากฏออกมาและโคจรทักษะนิรันดร์โจมตีพร้อมกัน ทักษะแยกร่างของนางน่าสะพรึงยิ่งกว่าทักษะกายาแสงตะวันทองคำไร้เทียมทานเสียอีก หลิงฮันสามารถเพิ่มแขนขึ้นมาได้สี่แขน แต่จักรพรรดินีสามารถแยกร่างที่เหมือนร่างจริงได้ถึงเก้าร่าง

แต่ทักษะของนางเป็นถึงทักษะระดับราชานิรันดร์ หากไม่ทรงพลังระดับนี้ก็กระไรอยู่

‘ตูมม’ ทักษะระดับนิรันดร์มากมายโหมกระหน่ำเข้าใส่ผางเฉินราวกับคลื่นยักษ์

ผางเฉินตกตะลึงกับพลังต่อสู้ของจักรพรรดินีเป็นอย่างมาก แต่ด้วยการที่เขาเป็นถึงราชาเซียนสูงสุด ย่อมไม่มีทางหวาดกลัวเซียนระดับกลาง

ที่เขาตกตะลึงคือ ขนาดตัวเขาได้เปรียบในระดับพลังที่สูงกว่าถึงสองขั้นใหญ่ กลับมีพลังต่อสู้เหนือกว่าจักรพรรดินีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นคือหนึ่ง จักรพรรดินีบ่มเพาะทักษะระดับราชานิรันดร์ทำให้พลังต่อสู้ของนางเหนือกว่าจอมยุทธระดับเดียวกัน สองคือเพราะนางบรรลุระดับวารีนิรันดร์ด้วยจำนวนดวงดาวสิบล้านดวง สิ่งนี้ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้พลังต่อสู้ของนางเหนือกว่าจอมยุทธระดับเดียวกัน

“ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าก็ยังไม่ใช่คู่ค่อสู้ของข้า!” ผางเฉินกล่าวเย็นชา แม้จะเล็กน้อย แต่ระดับพลังที่ต่างกันถึงสองขั้นย่อยก็ยังทำให้เขาเป็นฝ่ายเหนือกว่าอยู่ดี

จักรพรรดินีคร้านจะพูดตอบโต้ แม้พลังต่อของนางจะด้อยกว่า แต่อย่าลืมว่าร่างทั้งสิบของนางสามารถแบ่งเบาความเสียหายที่ถูกโจมตีได้ เปรียบแล้วก็เหมือนนางมีพลังต่อสู้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งดาว

นางจะชนะการต่อสู้ได้รึเปล่ายังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือนางไม่แพ้เด็ดขาด

“ภรรยาข้า ให้ข้าลงมือเอง” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม