ตอนที่ 2212 จะยังดื้อรั้นไปเพื่อการใด?

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ท่ามกลางสายตาของคนทั้งหลายนั้นหยุนยี่ค่อยๆ ก้าวเดินออกมา

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่เห็นก็ยิ้มออกมาพร้อมพยักหน้ารับ “ยี่เอ๋อ เทพสวรรค์ผู้นี้รู้ว่าหลายปีมานี้เจ้าคงลำบากไม่น้อย! ในคนทั้งยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆานั้นมันมีแค่เจ้าเท่านั้นที่เหมาะสมจะสืบต่อตำแหน่งของข้า วันหน้าเจ้าจะต้องขึ้นมาเป็นผู้นำของยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา!”

เขานั้นพึงพอใจกับเหลนคนนี้มาก เพราะนอกจากจะมีพรสวรรค์เหนือล้ำฟ้าดินแล้วเขายังสามารถเอาชนะความเชื่อใจจากเย่หยวนผู้นั้นมาได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ทำการทดสอบนั้น เขากลับทำใจหนักแน่นไม่จากไปไหนทำให้เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องตกตะลึงในความคิดของเขามากขึ้นกว่าเก่า

เขานั้นมีทั้งนิสัยที่หนักแน่น พรสวรรค์ที่มากมาย เป็นผู้เหมาะสมจะรับตำแหน่งต่อจากเขาอย่างมาก

หยุนยี่ได้แต่มองดูที่เทพสวรรค์ดันหยู่ด้วยสีหน้ากังวล ลังเลอย่างไม่อาจพูดกล่าวใดๆ ออกมาได้

เมื่อเทพสวรรค์ดันหยู่เห็นถึงความผิดปกตินี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่นถามขึ้น “ยี่เอ๋อ ทำไมยังไม่มาอีก?”

หยุนยี่จึงได้แต่ต้องหายใจสูดเข้าลึกและคุกเข่าลงจรดพื้น “ท่านทวด ท่านจะช่วยปล่อยให้เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์รอดพ่นไปได้หรือไม่? ถือว่าเห็นแก่หน้ายี่เอ๋อคนนี้?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของคนทั้งหลายที่ติดตามดันหยู่มาก็เปลี่ยนสีทันที

เจข้าหมอนี่บ้าไปแล้ว?

นี่มันคือทวดของตัวเองเชียวนะ!

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นขมวดคิ้วแน่นร้องออกมา “ยี่เอ๋อ เจ้าเข้าใจความหมายของคำที่ตนกล่าวออกมาหรือไม่?”

หยุนยี่จึงพยักหน้ารับ “บุญคุณของอาจารย์ท่านนั้นมากล้นดั่งขุนเขา เขานั้นสอนสั่งการหลอมโอสถให้ข้าเข้าใจถึงแก่น ชี้นำอนาคตอันสดใส! หลายร้อยปีมานี้ยี่เอ๋อราวกับได้เกิดขึ้นมาเป็นคนใหม่! ต่อหน้าบุญคุณที่มากล้นเช่นนั้นยี่เอ๋อคงไม่อาจจะทรยศอาจารย์ลงได้โดยไม่ช่วยเหลือใดๆ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์!”

คำพูดของหยุนยี่นี้มันถูกกล่าวออกมาจากใจ

เป็นตอนที่เขาได้เริ่มมายังหอโอสถนี้เองที่ตัวเขาได้เริ่มเข้าใจความหมายของเต๋าโอสถอย่างแท้จริง!

หลายร้อยปีมานี้เขาเหมือนกับได้เกิดใหม่อย่างแท้จริง

สภาพของหยุนยี่ในเวลานี้มันแตกต่างจากหยุนยี่ในสมัยก่อนอย่างไม่อาจเทียบ

ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังสั่งสอนให้อย่างเต็มที่ไม่ปิดบัง ราวกับที่คนอื่นๆ สอนศิษย์เอกของตน สอนทุกความรู้ที่มีในการหลอมโอสถออกมา

เป็นอาจารย์ที่ราวกับพ่อ!

ในหัวใจของหยุนยี่นั้นเขาได้ยอมรับนับถือตัวเย่หยวนอยู่เหนือหัว วางตัวตนของเย่หยวนไว้เป็นดั่งเต๋าที่ต้องเดินตาม… เป็นดั่งพระเจ้าที่เขานับถือ

หากจะให้เขาต้องทรยศเย่หยวนแล้ว ต่อให้ต้องตายเขาก็คงไม่อาจทำลง!

“เจ้าเด็กไม่รักดี! เจ้าลืมกำพืดของเจ้าไปแล้วหรือ?” เทพสวรรค์ดันหยู่ตวาด

หยุนยี่ทำเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เขาขายหน้าต่อหน้าผู้คนอย่างมากล้น

เหลนของตนกลับเลือกจะไปยืนข้างศัตรูอย่างหนักแน่นเช่นนั้น

หยุนยี่เองก็ร้องบอกมาด้วยสีหน้าหนักแน่น “ท่านทวด หยุนยี่นี้ไม่กล้าลืมกำพืดตนเองแน่! แต่เหมือนดั่งที่ตอนนั้นอาจารย์บอกให้ยี่เอ๋อทรยศท่านทวด ทรยศยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆา เวลานี้หากจะบอกให้หยุนยี่ทรยศเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์แล้ว หยุนยี่เองก็คงไม่อาจทำได้! ท่านทวดถือว่าเห็นแก่หน้าข้าโปรดแสดงความเมตตาด้วยเถอะ”

เทพสวรรค์ดันหยู่จึงร้องลั่น “หากข้าบอกว่าไม่เล่า?”

หยุนยี่นั่นย่อมจะรู้ดีว่าสุดท้ายมันคงจบลงที่คำพูดนี้ เขาจึงตอบกลับมาด้วยใบหน้าเตรียมใจพร้อม “เช่นนั้นยี่เอ๋อก็คงทำได้แต่ตายไปกับเมืองอินทรีสวรรค์นี้!”

พูดจบเขาก็เดินเข้ากลับเข้าไปยืนข้างไป๋ตงอีกครา

“ดี! ดี! ดี! ใครจะไปคิดว่าข้า ดันหยู่ ฉลาดมาทั้งชีวิตกลับมาเลี้ยงดูเหลนไม่รักดีเช่นนี้ขึ้นมาได้! ช่างเถอะ! ข้าจะถือว่าเจ้าไม่เคยได้กำเนิดขึ้นมาแล้วกัน!”

การที่เทพสวรรค์ดันหยู่กล่าวคำว่า ‘ดี’ ออกมาถึงสามครั้งนี้มันย่อมแสดงถึงความไม่พอใจที่มีอย่างมหาศาล

ดวงตาของเขาหรี่เล็กลงพร้อมหันไปบอกคนทั้งหลายในเมือง “ชาวเมืองทั้งหลายจงฟัง! เทพสวรรค์ผู้นี้มาเพื่อที่จะสะสางความแค้นแก่เจ้าเด็กเย่หยวน! ใครที่คิดว่าตัวเองเป็นหมารับใช้ของมันก็จงอยู่และตายไปพร้อมๆ กันเสีย! แต่เทพสวรรค์ผู้นี้เองก็มิใช่คนโหดเหี้ยม ไม่คิดฆ่าสังหารคนไม่รู้เรื่องราวใด เวลานี้หากพวกเจ้าก้าวออกมายอมจำนน เทพสวรรค์ผู้นี้จะไว้ชีวิตไว้ให้! และหากใครอยากไปอยู่ที่ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิโอสถเมฆาแทนข้าก็พร้อมต้อนรับ!”

การแก้แค้นก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือสูตรโอสถนั้น!

สูตรโอสถที่จะพลิกอนาคตของพันธมิตรแดนใต้

เวลานี้แดนใต้ทั้งหลายนั้นอยู่ใต้อิทธิพลการค้าของหอมหาสมบัติสิ้น แน่นอนว่ากำไรที่พวกเขาได้มันย่อมล้นฟ้าดิน

แต่ด้วยสูตรโอสถนี้ ทุกสิ่งอย่างมันจะพลิกกลับได้!

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือโอสถที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้หลอมขึ้นมันจะมีคุณภาพสูงกว่าที่ใดๆ เสมอ!

เรื่องนั้นมันหมายถึงสิ่งใด?

มันย่อมหมายถึงว่านักหลอมโอสถแห่งเมืองอินทรีสวรรค์นี้เก่งกาจกว่าชาวบ้าน!

หอโอสถแห่งเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นเป็นศูนย์กลางของดินแดน มีมาตรฐานและฝีมือเหนือล้ำนักหลอมโอสถจากที่อื่นๆ ชัดเจน

และยอดคนมากมายปานนั้น ฆ่าสังหารไปมันก็มีแต่จะเสียของเปล่า

เพราะสิ่งที่เทพสวรรค์ดันหยู่ต้องการนั้นคือผลประโยชน์ มิใช่แค่การหลั่งเลือดอย่างไร้เหตุผล

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้พยายามดึงตัวนักหลอมโอสถทั้งหลายก่อนที่จะทำลายเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ลง

ด้วยกำลังของพันธมิตรแดนใต้นั้นเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์มันได้กลายเป็นแค่กองไข่แสนเปราะบาง

ตัวดันหยู่จึงมั่นใจมากว่านักหลอมโอสถของเมืองนี้จะต้องรับโอกาสนี้ไว้

หนึ่งชั่วอึดใจ

สามชั่วอีดใจ

สิบชั่วอึดใจ

ไม่มีใครออกมา!

ไม่แม้แต่คนเดียว!

ดันหยู่ได้แต่ต้องขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “พวกเจ้าวางใจเถอะ ด้วยกำลังของเทพสวรรค์ผู้นี้แล้วคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์น้อยๆ นี้ย่อมไม่อาจจะทำอันตรายพวกเจ้าได้!”

พันธมิตรแดนใต้นั้นมียอดฝีมือกองกำลังยิ่งใหญ่ ตัวดันหยู่เองก็เป็นถึงยอดฝีมือเทพสวรรค์เก้าดาว

การต่อสู้นี้มันย่อมจะไม่มีการขัดขืนใดๆ เกิดขึ้นได้

แต่มันก็ยังไม่มีใครก้าวออกมา

“เทพสวรรค์ดันหยู่ พอเถอะ! มันไม่มีใครจะไปกับเจ้าหรอก! เรานั้นยอมตายไปพร้อมๆ กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้สิ้น!”

“เลิกวางท่าเอาใจผู้คนเถอะ! ใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าแค่อยากได้สูตรโอสถ! ทำหน้าตาท่าทางแบบนั้นออกมาเจ้าไม่อาจพ่อแม่เจ้าบ้างหรือ?”

“เลิกฝันหวานเถอะ! ต่อให้เราจะตายเราก็จะเก็บสูตรโอสถทั้งหลายเป็นความลับลงโลงไปด้วยกัน! หากเจ้ามีปัญญาจริงก็ไปถามหามันจากหอมหาสมบัติหรือเจ็ดตระกูลเอาเถอะ!”

เกิดเสียงโห่ร้องดังขึ้นตามๆ กัน

เหล่านักยุทธและนักหลอมโอสถภายในเมืองนั้นต่างด่าว่าความหน้าด้านนี้ของเทพสวรรค์ดันหยู่

เทพสวรรค์ดันหยู่ที่ได้ยินก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาด้วยความอับอาย แต่จิตใจของเขานั้นมีแต่ความตกตะลึงอย่างเหนือล้น

หรือว่าคนเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้มันจะมีแต่พวกบ้าไม่กลัวตายกัน?

บนมหาพิภพถงเทียนมันมีที่เช่นนี้ด้วยหรือ?

ทำไมกัน?

ทำไมพวกมันทั้งหลายนี้ถึงคิดยอมตายไม่ยอมแพ้?

เมื่อได้ยินเสียงด่าทอทั้งหลายนั้นเหล่ายอดฝีมือจากพันธมิตรแดนใต้ต่างก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นตามๆ กัน

“จ-เจ้าพวกนี้มันบ้าไปแล้วหรือ? หรือว่าพวกมันจะไม่รู้จักคำว่าตาย?”

“เมืองอินทรีสวรรค์นี้มันเป็นบ้าอะไรกันแน่? ทำไมพวกมันดูราวกับคนคลั่งเช่นนี้?”

“มันไม่มีใครแม้สักคนที่ยอมแพ้! นี่มัน… เป็นไปได้ด้วยหรือ?”

พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมไม่รู้เลยว่ากว่าที่เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์จะรวมเป็นหนึ่งได้เช่นนี้ เย่หยวนต้องเสี่ยงชีวิตปกป้องผู้คนไว้มากมายปานใด

มีเพียงความจริงใจเท่านั้นที่จะเอาชนะใจคนได้

สายสัมพันธ์ที่ก่อขึ้นบนผลประโยชน์ มันก็ย่อมจบลงได้ด้วยผลประโยชน์

ไป๋ตงนั้นจ้องมองดูดันหยู่ด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “เลิกวางท่าเสียทีเถอะ! เย่หยวนนั้นมันมีความสามารถมากมายกว่าที่เจ้าจะเข้าใจได้ ต่อให้จะเหลือเพียงแค่ตัวคนเดียว คนเมืองนี้ก็จะปกป้องเมืองนี้อย่างสุดชีวิตไม่คิดยอมแพ้ วิธีการของเจ้านั้นมันไม่มีทางจะได้สูตรโอสถเราไปหรอก คิดใช้วิธีโง่ๆ เช่นนี้กับเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นั้นมันจะได้แต่คำเย้ยหยันเท่านั้นแหละ”

เทพสวรรค์ดันหยู่นั้นโกรธจนหน้าสั่น ไม่นึกไม่ฝันว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะผิดคาดไปได้ปานนี้

เขานั้นนึกไปเสียว่าเมื่อเอากองกำลังมาประชิด ไม่ต้องต่อสู้ใดๆ เรื่องราวมันก็คงจบลงได้ เมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์คงแตกสลายลงไปด้วยตัวเอง

ใครจะไปคิดว่าคนทั้งหลายในเมืองนี้มันกลับเป็นคนบ้าไม่กลัวตาย

ไม่มีใครหนี!

ไม่มีใครยอมจำนน!

เจ้าเย่หยวนนั้นมันใช้ยาวิเศษใดในการสร้างเมืองเช่นนี้ขึ้นมากันแน่?

เขานั้นตายไปแล้วแท้ๆ คนทั้งหลายนี้จะยังดื้อด้านไปเพื่อเหตุผลใด?

สุดท้ายเขาจึงได้แต่ต้องกัดฟันแน่นร้องสั่ง “เช่นนั้นก็ดี! หากเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเจ้าทั้งหลายก็ไปตายเสียเถอะ! เทพสวรรค์ผู้นี้อยากจะรู้จริงๆ ว่าเมืองนี้มันจะอวดเก่งไปได้ถึงตอนไหน!”

พูดจบเขาก็ยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้เทพสวรรค์นับร้อยและเทพถ่องแท้นับไม่ถ้วนพุ่งตัวลงไปยังเมืองอย่างบ้าคลั่ง

…………………….