ตอนที่ 1162 ความคิดของคุณปู่ + ตอนที่ 1163 ให้ตายก็ไม่ยอมรับ โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1162 ความคิดของคุณปู่
เหมยเหมยมองไปที่คุณปู่ด้วยความตะลึงงัน ทำไม่เขาถึงกล้ามาขอร้องอะไรแบบนี้
หน้าไม่อายเสียจริง
“คุณปู่ล้อเล่นเหรอคะ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่าคุณย่าหมดหนทางช่วยแล้ว หนูจะช่วยอะไรได้ หนูไม่ใช่เทพเซียนสักหน่อย” เหมยเหมยปฏิเสธไปในทันที
แน่นอนว่าเธอสามารถช่วยคุณย่าได้ แต่เธอไม่อยากจะช่วย
ไม่ใช่เป็นเพียงเพราะความโกรธแค้นที่มีต่อคุณย่า ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งต้องระมัดระวัง เธอไม่สามารถเอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นได้
คนไข้ที่หมอวินิจฉัยแล้วว่าไม่รอด แต่เธอสามารถรักษาให้หายได้อย่างง่ายดาย อีกหน่อยจะต้องมีปัญหาตามมามากมายแน่ เธอไม่ได้เลอะเลือนถึงเพียงนั้น
คุณปู่อยากจะพูดจาหว่านล้อมต่อ แต่เหมยเหมยตัดบทว่า “คุณปู่คะ หนูต้องออกไปทำธุระอีก เรื่องนี้หนูช่วยไม่ได้จริง ๆค่ะ”
พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไปในทันที สายตาของคุณปู่ที่อยู่ด้านหลังเธอทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก
ถึงแม้คุณปู่จะคาดเดาไว้แล้วว่าเหมยเหมยไม่มีทางตอบตกลงง่าย ๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะปฏิเสธแบบไร้เยื่อใยไม่ไว้หน้าถึงเพียงนี้ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าภรรยาจะมีความผิด แต่อย่างไรเธอก็เป็นคุณย่าแท้ ๆ เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ทำไมต้องไร้เยื่อใยถึงเพียงนี้
สำหรับเรื่องที่เหมยเหมยสามารถช่วยคุณย่าได้หรือไม่นั้น คุณปู่เชื่ออย่างไร้ข้อสงสัย เขารู้ว่าหลานสาวของเขาไม่ธรรมดา เหมือนของดีเมื่อห้าปีที่แล้ว แล้วก็เรื่องฉาฉา
อีกทั้งเมื่อห้าปีก่อนจู่ ๆเขากับคุณย่าก็สุขภาพดีขึ้นมาทันตา ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหมยเหมยเลย
ถ้าเป็นเพียงเรื่องแค่นี้เขาคงยังไม่สงสัยในตัวของเหมยเหมย แต่เมื่อสามปีที่แล้วเขากับคุณย่าสุขภาพก็เริ่มแย่ลงสุดท้ายทำให้คุณปู่สงสัยในตัวของเหมยเหมย
ถ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลานสาว สุขภาพของพวกเขาก็จะแข็งแรง แต่ทันทีที่มีปัญหากัน ร่างกายของพวกเขาก็จะเริ่มอ่อนแอ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับเหมยเหมยแน่
คุณปู่มั่นใจในการคาดเดาของตัวเอง ความรู้สึกที่เขามีต่อเหมยเหมยนั้นซับซ้อนมากนักไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร แต่เขารู้ว่าไม่ใช่ความชอบ แต่ก็ไม่ใช่ความเกลียด
พูดให้ถูกน่าจะเป็นความเกรงกลัวมากกว่า
คนที่สามารถควบคุมความเป็นความตายของคุณได้จะไม่ให้เขากลัวได้อย่างไรกันล่ะ
จริง ๆแล้ววันนี้ที่คุณปู่ขอให้เหมยเหมยช่วยคุณย่า เขาก็มีจุดประสงค์ของเขาเหมือนกัน แน่นอนไม่ใช่เพราะความรักที่มีต่อคุณย่า คุณย่าเลอะเลือนนี่ทำให้ตระกูลจ้าวต้องเจอกับความพินาศ เขาโกรธจนอยากจะเอาปืนมายิงภรรยาเสียให้รู้แล้วรู้รอด
เขาแค่อยากจะพิสูจน์สมมติฐานของเขาเพียงเท่านั้น ถ้าหากว่าเหมยเหมยสามารถช่วยชีวิตคุณย่าได้ แสดงว่าเป็นไปดั่งที่เขาคิดไว้ ในตัวหลานสาวของเขาต้องมีความลับอยู่แน่ ความลับนี้ถ้าหากนำมาใช้ดี ๆ ดีไม่ดีบ้านตระกูลจ้าวอาจจะกลับมาเป็นใหญ่ได้อีกครั้ง
ใช้ชีวิตเป็นใหญ่เป็นโตอยู่ในเมืองจนชินแล้วให้กลับชนบทไปอยู่ในป่าในเขา คิด ๆมันก็ดี แต่ในใจคุณปู่กลับรู้สึกยอมไม่ได้
เพื่อรักษาชีวิตของลูกชายคนรอง เขายอมเสียสละได้ แต่ตอนนี้
เขามองเห็นโอกาสที่จะกลับขึ้นมาเป็นใหญ่อีกครั้ง อย่างไรเขาก็จะไม่ยอมปล่อยมันไปง่าย ๆแน่
คุณปู่แสดงสีหน้าที่ไม่มีใครเข้าใจราวกับรูปปั้น นั่งอยู่นานไม่ขยับ ผ่านไปสักพักเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทรหาจ้าวอิงหัว
หวังว่าลูกชายคนเล็กจะใจกว้าง ช่วยพูดจาหว่านล้อมหลานสาว เห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลักอย่าใจแคบนักเลย
เหมยเหมยออกไปคนเดียว สยงมู่มู่ไม่ได้ออกไปด้วย เขาดูแลคุณย่าอยู่ไม่มีอารมณ์จะออกไปไหน
“คุณหนูจ้าว นายท่านขอเชิญครับ”
เพิ่งจะเดินออกมาถึงหน้าถนนใหญ่ รถคันหนึ่งก็ขับมาจอดตรงหน้าเธอ เสี่ยวเมิ่งลดกระจกโผล่หัวออกมา มองมาที่เธอด้วยหน้าตายิ้มแย้ม
พอเหมยเหมยเริ่มตั้งสติได้ เธอลืมตาแก่โรคจิตไปเสียสนิท ครั้งนี้เธอผ่านการทดสอบแล้วจะต้องไปโอ้อวดต่อหน้าตาแก่โรคจิตเสียหน่อย ใครให้ตาแก่นี่ชอบดูถูกคนอื่นนักล่ะ
อีกทั้งต่อไปตาแก่โรคจิตก็จะไม่มีข้ออ้างหาคู่ดูตัวให้กับเหยียนหมิงซุ่นแล้วด้วย
…………………………
ตอนที่ 1163 ให้ตายก็ไม่ยอมรับ
สามปีมานี้คนที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคงจะต้องเป็นเฮ่อเหลียนชิง สามปีก่อนตาแก่นี่แค่โดนลมพัดก็เหมือนจะปลิว ผอมราวกับไม้ขีดไฟ น่ากลัวยิ่งกว่าไม้เสียบผีเสียอีก
แต่เฮ่อเหลียนชิงในตอนนี้เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน หน้าขาวใสราวกับหยก บนใบหน้าไม่มีแม้แต่ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวพรรณดีกว่าเด็กสาวอายุ 18 และท่าทางที่ดูน่าเกรงขาม ออกไปจีบสาว ๆแน่นอนว่าจะต้องได้ติดมือกลับมา
แต่ถึงแม้ว่าภายนอกจะดูดีขึ้นแล้ว แต่โรคจิตอย่างไรก็คือโรคจิต จิตใจก็ยังคงอำมหิตเช่นเคย
“ฉันแนะนำคู่ดูตัวของฉัน มันเกี่ยวอะไรกับแกด้วย” เฮ่อเหลียนชิงมองไปที่เหมยเหมยด้วยสายตาดูถูก คำพูดที่พูดออกมาทำให้คนโมโหได้ไม่น้อย
“คุณพูดแล้วไม่รักษาคำพูด คุณบอกว่าถ้าฉันผ่านการทดสอบ คุณก็จะยอมให้ฉันกับพี่หมิงซุ่นคบกัน”
เหมยเหมยโมโหตวาดใส่ ทำให้แมวส้มบนตักของเฮ่อเหลียนชิงตกใจจนกระโดดไปอยู่ที่ซุ้มองุ่นแล้วมองลงมาข้างล่างด้วยความหวาดระแวง
“เรียกวิญญาณหรือไง ผู้หญิงอะไรเหมือนไม่ได้รับการสั่งสอน ผู้หญิงที่มารยาทแย่ ๆแบบนี้จะคู่ควรกับการมาเป็นสะใภ้ตระกูลเฮ่อเหลียนได้อย่างไรกัน”
บนตักของเฮ้อเหลียนชิงว่างเปล่า เขามองไปที่เหมยเหมยอย่างดุดันแล้วก็กวักมือเรียกแมวส้มที่อยู่บนซุ้มด้วยความเอ็นดูเรียกให้มันรีบลงมา แต่แมวส้มทำอย่างไรก็ไม่ยอมลงมา ต่อให้เอาปลาแห้งมาล่อก็ไม่ได้ช่วยอะไร
ทุกครั้งที่นายท่านกับนายหญิงของพี่ฉิวฉิวเจอกันก็ไม่วายกัดกันอยู่เรื่อย ดูจากข้างบนน่าจะดีกว่า เขาไม่อยากจะมามีส่วนร่วมด้วยหรอกนะ
เฮ่อเหลียนชิงมองเหมยเหมยที่มีสีหน้าบึ้งตึงอย่างโกรธแค้น พอเห็นว่าเธอกำลังโมโหอยู่มาก เขาก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา ว่าง ๆไม่มีอะไรทำแกล้งยัยเด็กนี่เล่นก็ไม่เลวเหมือนกันนะ
แล้วก็ยังมีฉิวฉิวกับงูฉาฉาด้วย
น่ารักกว่ายัยเด็กนี่ตั้งเยอะ
“ของอร่อยนะ รีบมากินเร็ว”
เฮ่อเหลียนชิงหยิบชอคโกแลตออกมาจากกระเป๋า ฉีกซองออกแล้วก็ส่ายไปมาต่อหน้าเหมยเหมย เหมือนหยอกล้อสุนัขเล่น แน่นอนว่าเขาไม่ได้ทำกับเหมยเหมย
ฉิวฉิวกระโดดออกมาจากกระเป๋า ดวงตาสุกใสเหมือนถั่วดำกลอกตามไปมาไม่หยุด สำหรับคุณฉิวฉิวแล้วความยั่วยวนของชอคโกแลตนี้ช่างมีมากเสียเหลือเกิน
จะไปกินดีไหมนะ
ไปกินเถอะ แต่เหมือนจะรู้สึกผิดกับเจ้านาย แต่ถ้าไม่กินจะยิ่งรู้สึกผิดกับตัวเอง
ฉิวฉิวใช้เวลาคิดแค่เพียงสามวินาทีก็เรียกน้องฉาให้ไปหาเฮ่อเหลียนชิงด้วยกัน พากันทรยศเจ้านายของพวกเขาอย่างไม่ลังเลใจ
“พี่ฉิว พวกเราทำแบบนี้จะไม่ดีหรือเปล่า” ฉาฉารู้สึกกังวลใจ
ฉิวฉิวไม่ใส่ใจ “ยัยโง่ อีกหน่อยก็เป็นบ้านเดียวกันแล้ว กินของนิดหน่อยจะเป็นไรไป”
ฉาฉาพยักหน้าไม่หยุด ฟังพี่ฉิวไว้ไม่ผิดหรอก บ้านเดียวกันไม่ต้องเกรงใจกันหรอก
เหมยเหมยมองไปที่เจ้าสองตัวที่ทรยศด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก แล้งน้ำใจ เธอไม่ได้ให้พวกเขากินหรืออย่างไร
ทำไมถึงไม่คิดจะรักษาหน้าเธอไว้บ้าง
เฮ่อเหลียนชิงลูบฉิวฉิวกับฉาฉาด้วยความพอใจ รู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย ไม่เหลือบมองเหมยเหมยเลยแม้แต่นิดเดียว ใจทั้งใจยกให้กับเจ้าตัวน้อยพวกนี้ไปหมดแล้ว
“ต้าหวงลงมา พี่มีของกินอร่อย ๆจะให้นะ”
เหมยเหมยไม่ยอมแพ้ กวักมือเรียกแมวส้ม ในมือคือปลาแห้งที่แช่ในยาวิเศษ แมวส้มตาเป็นประกายกระโดดเข้าไปในอ้อมกอดของเหมยเหมยโดยไม่ต้องคิด ออดอ้อนอย่างเต็มที่
“เด็กดี พูดจารู้เรื่องกว่าคนบางคนอีกนะ”
เหมยเหมยยิ้มร่าด้วยความร่าเริง ต้าหวงเป็นแมวส้มที่หล่อนเคยเลี้ยงแบบเดียวกับเมื่อชาติที่แล้วเป๊ะเลย ดังนั้นครั้งแรกที่หล่อนเจอต้าหวงก็เลยเรียกมันอย่างนี้ แล้วก็ดีกับมันมาก จะป้อนปลาแห้งที่แช่ยาวิเศษให้กินอยู่บ่อยๆ ไม่เช่นนั้นต้าหวงจะฉลาดขนาดนี้ได้อย่างไร
เฮ่อเหลียนชิงส่งเสียงไม่พอใจ ปัญญาอ่อน
เสี่ยวเมิ่งขยับมุมปากเล็กน้อย ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครปัญญาอ่อนกว่ากัน
ผ่านไปสักพักเฮ่อเหลียนชิงนึกถึงจุดประสงค์ที่เรียกเหมยเหมยมาในวันนี้ขึ้นได้ จึงพูดขึ้นว่า “ถ้าหากว่าจ้าวหวายซานให้แกช่วยภรรยาของเขา แกก็อย่าโง่ไปทำความดีที่เสียเปล่าล่ะ”
……………………………………………………………