เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1704

ตูม!

ค่ายกลแตกกระจาย ลู่ฝานที่มีแสงสีขาวกะพริบทั้งตัวปรากฏออกมาอีกครั้ง บาดแผลบนตัวฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

ผู้อาวุโสห้าเพิ่งดูแสงบนตัวลู่ฝานออก เขาตกใจจนพูดเสียงหลง “ต๋าอันยิ่งใหญ่แห่งฟ้าดิน!”

ลู่ฝานใช้มือกำปลายกระบี่หนักไร้คม กัดฟันพูดออกมาว่า “คร่าชีวิต!”

ใช่แล้ว ลู่ฝานฝืนใช้ท่าไม้ตายของวิถีแห่งชีวิตออกมา

แม้เขาเคยเห็นประมุขประเทศตันเซิ่งใช้ท่าไม้ตายนี้เพียงครั้งเดียว

ลู่ฝานหมดหนทางแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิชาหรือเคล็ดวิชาของเขา ไม่มีอันไหนสามารถสะเทือนผู้อาวุโสห้าได้เลย

อย่างที่ผู้อาวุโสพูด เซียนบำเพ็ญชี่ยังห่างชั้นกับอริยปราชญ์มาก

สิ่งเดียวที่ลู่ฝานสามารถคาดหวังได้ในตอนนี้คือวิถีแห่งชีวิตของตัวเอง

สีหน้าผู้อาวุโสห้าเปลี่ยนไป จู่ๆ เขารู้สึกถึงพลังแข็งแกร่งส่งออกมาจากกระบี่หนักไร้คม พยายามดูดทุกอย่างในร่างกายเขาออกไป

ลู่ฝานก็รู้โดยบังเอิญว่าสิ่งสำคัญของกระบวนท่าคร่าชีวิตคือการดูดพลังของคนอื่น แค่จุดนี้ประมุขประเทศตันเซิ่งใช้เวลาไปตั้งหลายปี ถึงทำความเข้าใจมันได้ แต่ปราณชี่ของลู่ฝานกลับมีประสิทธิภาพนี้ในตัวมันเอง

นั่นหมายความว่าเมื่อลู่ฝานใช้กระบวนท่านี้ มีความได้เปรียบโดยธรรมชาติ วิถีแห่งชีวิตประกอบกับปราณชี่ของเขา ดูดพลังของผู้อาวุโสห้าได้จริงๆ

จินตนาการไม่ออกเลย ลู่ฝานอาศัยวิทยายุทธระดับเซียนบำเพ็ญชี่ดูดพลังของอริยปราชญ์ แม้แต่ผู้อาวุโสห้ายังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

แต่ลู่ฝานใช้กระบวนท่าคร่าชีวิต ยังไงก็มีช่องโหว่ใหญ่มาก

แน่นอนว่าการดูดพลังคนอื่นกับวิญญาณเป็นสิ่งสำคัญ แต่อันที่จริงยังมีอีกส่วนที่สำคัญมากเหมือนกัน นั่นก็คือทำให้อีกฝ่ายสูญเสียพลังในการต่อต้านอย่างรวดเร็ว

จุดนี้ลู่ฝานยังไม่สามารถทำได้ ดังนั้นผู้อาวุโสห้าจึงโจมตีกลับทันที

ผู้อาวุโสห้าใช้ฝ่ามือตบลงบนหัวลู่ฝาน พลังฟ้าดินซึมจากหัวลู่ฝานแผ่ซ่านไปทั้งตัว

“ฟ้าดินคร่าชีวิต!”

อากาศเวิ้งว้างแตกออก หลิงเหยาโดนสะเทือนจนกระเด็น

ลู่ฝานเลือดออกเจ็ดทวาร ถึงมีพลังแห่งโลกอยู่ในร่างกาย ตอนนี้เขาก็บาดเจ็บสาหัสอยู่ดี

กระบวนท่าของผู้อาวุโสห้าโจมตีถึงรากฐานจริงๆ!

แต่ลู่ฝานกัดฟันทนไว้ อย่าสบประมาทพลังชีวิตของเขา!

“วิชาดับวิญญาณ!”

แสงออกมาจากดวงตาลู่ฝาน จ้องตาทั้งสองข้างของผู้อาวุโสห้าเขม็ง

ทันใดนั้น ลู่ฝานรู้สึกว่าวิญญาณของตัวเองสัมผัสกับวิญญาณของผู้อาวุโสห้า ทั้งสองปะทะกัน ฟ้าดินหมุนเคว้งทันที

ลู่ฝานถือกระบี่หนักไร้คมถอยไปด้านหลังเป็นร้อยก้าว ตัวผู้อาวุโสห้าก็โงนเงนเหมือนกัน ทรงตัวไม่ได้อยู่ครู่หนึ่ง

แต่ดูเหมือนผู้อาวุโสกุมความได้เปรียบอยู่ ลู่ฝานหลับตาลงทั้งสองข้าง ไม่สามารถลืมตาขึ้นได้ แต่ผู้อาวุโสห้าแค่เลือดออกจมูกปาก จ้องลู่ฝานอยู่อย่างนั้น

“วิชาของจิตใจเต๋าสำนักมาร! ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่านายเป็นผู้ฝึกชั่วร้ายด้วย!”

นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนรู้จักวิชาของลู่ฝาน

แต่ตอนนี้ลู่ฝานไม่แยแส

รู้จักแล้วยังไง ไม่มีอะไรมากกว่าตัดสินเป็นตายเท่านั้น สู้กับผู้อาวุโสห้าได้ถึงขนาดนี้ เขาทุ่มสุดตัวแล้ว

ลู่ฝานพยายามยืดตัวตรง หลับตาลงทั้งสองข้าง เอาสัตว์ออกมาจากเข็มขัด ซึ่งก็คือเจ้าหินน้อยที่ใบหน้าสับสน ลู่ฝานกัดฟันพูดเสียงเบาว่า “สัตว์เทพหิมะ ฉันไม่สนหรอกนะว่าแกโง่จริงหรือแกล้งโง่ พาหลิงเหยาหนีไป เข้าใจไหม”

สัตว์เทพหิมะมองลู่ฝาน ท่าทางมันยังซื่อบื้อเหมือนเดิม

ขณะนั้นเลือดหยดหนึ่งของลู่ฝานร่วงลงบนหัวสัตว์เทพหิมะ

เหมือนสัตว์เทพหิมะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง เริ่มเลียคราบเลือดบนหน้าลู่ฝาน ลู่ฝานหมดคำจะพูดจริงๆ สัตว์เทพหิมะไม่มีประโยชน์เลยสักนิด

ตอนนี้ร่างกายของผู้อาวุโสห้าฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว เริ่มรวมพลังทั้งตัวขึ้นอีกครั้ง

ลู่ฝานสะบัดมือโยนมันออกไป กำลังจะโยนมันไปข้างตัวหลิงเหยา

วิชาของผู้อาวุโสห้าโจมตีเข้ามาทันที พลังฟ้าดินนับไม่ถ้วนรวมตัวเป็นค่ายกลกระบี่สาดลงมา

เหมือนสัตว์เทพหิมะสัมผัสถึงอันตรายยิ่งใหญ่ด้านหลัง ลำตัวของมันเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นสัตว์อสูรหินสูงประมาณคน

สัตว์เทพหิมะโดนกระบี่ติดต่อกันสิบกว่ากระบี่ แต่ตัวมันป้องกันหลิงเหยาได้พอดี

ตัวลู่ฝานโดนแทงทะลุเหมือนกัน แต่เขายังตะโกนพูดกับหลิงเหยา “หนีไปสิ เชื่อฉัน!”

ตอนนี้เจดีย์เสวียนเก้ามังกรโผล่ออกมา พูดเสียงดังว่า “หุ่นร้ายความฝัน พาพวกเธอไปซะ!”

ทันใดนั้น ลมเย็นยะเยือกพัดผ่านมา

หลิงเหยากับเจ้าหินน้อยยังไม่ทันตั้งตัว ก็โดนลมแรงพัดกลับมาบนเรือ

ทันใดนั้น เรือส่องแสงสว่าง หลิงเหยาพูดอย่างตกใจว่า “ลู่……”

ยังไม่ทันพูดจบ เรือพาหลิงเหยาหายลับไป

ลู่ฝานเอากระบี่หนักปักลงในอากาศเวิ้งว้าง คุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง อากาศเวิ้งว้างด้านล่างเท้าเหมือนพื้นดินจริงๆ มีรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วน

ยกยิ้มมุมปาก ลู่ฝานพูดเสียงเบาว่า “ทำได้ดีไอ้เก้า!”

แสงกระบี่นับไม่ถ้วนหันกลับมาโจมตีอีกครั้ง ลู่ฝานโดนแทงทะลุอีกแล้ว

ผู้อาวุโสห้าเดินช้าๆ มาข้างหน้าลู่ฝาน กัดฟันพูดว่า “ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายเป็นตัวเรือดที่ฆ่าไม่ตาย!”

“อริยปราชญ์แข็งแกร่งตามคาด!”

ลู่ฝานพูดเสียงเบา

ผู้อาวุโสห้ายกมือขึ้นเบาๆ แสงกระบี่ทั้งหมดรวมตัวเป็นกระบี่หนึ่งเล่ม ยาวหลายร้อยเมตร ลอยอยู่บนหัวลู่ฝาน แสงเก้าสีเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน

“ดูสิว่าถ้าฟันนายจนแหลกเป็นผุยผง นายยังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกไหม!”

ตัวลู่ฝานเต็มไปด้วยเลือด เงยหน้ามองผู้อาวุโสห้า ค่อยๆ ลืมตาขึ้น นัยน์ตาแดงก่ำ

“งั้นเราแหลกสลายไปพร้อมกันเถอะ!”

เมื่อพูดจบ ลู่ฝานกอดผู้อาวุโสห้าเอาไว้แน่น

“วิชาเทพมังกรทำลายล้าง ฝังทำลาย!”