ตอนที่ 1153: การต่อสู้ระหว่างผู้เข้มแข็ง (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1153: การต่อสู้ระหว่างผู้เข้มแข็ง (3)

ตระกูลผู้พิทักษ์มาถึงเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ การที่ผลไม้เซียนสุกนั้นทำให้เกิดความวุ่นวายมากเกินไป ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะมาเร็วจริง ๆ รุยจินพูด

ตอนนี้เราจะทำอะไร? เราทำให้คนจากตระกูลผู้พิทักษ์ต่อสู้กับวิญญาณแค้นและดึงดูดความสนใจมันงั้นรึ ? พอถึงเวลาที่พวกเขาได้รับผลไม้เซียน เราก็แค่ลงมือและแย่งชิงมันมาในช่วงเวลาสำคัญ ? หงเหลียนถาม

พวกเขากำลังหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ การขโมยผลไม้เซียนจากกลุ่มวิญญาณแค้นหรือกลุ่มเซียนราชาขนาดใหญ่ซึ่งยากต่อการตัดสินใจทั้งคู่

ในแง่ของความกล้าหาญ การต่อสู้กับเซียนราชาที่มาจากด้านนอกนั้น พวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่ากับวิญญาณแค้น อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถทำงานร่วมกันได้และมีหลายคนที่เรียนรู้ทักษะการต่อสู้ระดับเซียนพร้อมกับทักษะโบราณมากมายต่าง ๆ มันไม่ง่ายที่จะจัดการกับพวกเขา

รุยจินมองไปที่เจี้ยนเฉินพลางกล่าวว่า อย่าขโมยผลไม้เซียนจากมือของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้ง 10 นั้น มันจะนำความแตกตื่นไปสู่ผู้คน สุดท้ายผลไม้เซียนก็ไม่ใช่สิ่งของธรรมดา ๆ มันเป็นทางลัดเพียงสายเดียวที่จะนำไปสู่เซียนจักรพรรดิ ดังนั้นจึงไม่มีใครยอมให้มันถูกขโมยไปจากพวกเขาหรอก ?

เจี้ยนเฉินพยักหน้าน้อย ๆ รุยจินมองไปทางเจี้ยนเฉินขณะที่เขากำลังแนะนำบางอย่าง เจี้ยนเฉินไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เขาจำเป็นต้องคิดถึงตระกูลเจียงหยางในเมืองลอร์ของอาณาจักรเกอซุนและกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี มันไม่อาจต้านการรุกรานจากตระกูลผู้พิทักษ์และตระกูลโบราณต่าง ๆ ได้

แม้ว่าจะกลุ่มขนาดใหญ่เหล่านี้จะไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ผลไม้เซียนก็สามารถที่จะทำให้คนคนหนึ่งทะลวงไปยังระดับเซียนจักรพรรดิได้ในคราวเดียว การที่ทะลวงมันได้ง่าย ๆ นั้นทำให้ผู้คนบ้าคลั่งอย่างมาก

Time was tight right now. They began to move as soon as they came up with a plan. A gate opened in the golden world and Jian Chen, Rui Jin, Hei Yu, and Hong Lian all flew out. They flew over the heads of many vengeful spirits, quickly charging toward the Saints’ Fruit.

เวลานี้แน่นอนว่าพวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวทันทีเมื่อพวกเขาคิดแผนเสร็จ ประตูในโลกสีทองได้เปิดออกและเจี้ยนเฉิน, รุยจิน, เฮยยู่และหงเหลียนต่างก็บินออกไป พวกเขาบิดอยู่เหนือวิญญาณแค้นมากมายและพุ่งเข้าหาผลไม้เซียน

เถี่ยต้าไม่ได้ออกมา เพื่อปกป้องเขา เขาจีงถูกเก็บเอาไว้ในวัตถุเซียนของเจี้ยนเฉินในโลกจิ๋ว

การปรากฏตัวของพวกเขาได้ดึงดูดวิญญาณแค้นทั้งหมดทันที ในขณะนั้นพวกมันทั้งหมดก็หยุดนั่งสมาธิและยืนขึ้นพร้อมกัน โดยไม่มีต้องพูดใด ๆ พวกมันทั้งหมดพุ่งเข้าใส่พวกเขาทั้งสี่คน

เจี้ยนเฉิน, รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ได้เตรียมพร้อมอยู่แล้ว พลังบรรพกาลแผ่ออกมาทุกซอกทุกมุมจากร่างกายของเจี้ยนเฉินกลายมาเป็นโล่ป้องกันที่แผ่ออกมาจากร่างบรรพกาลเต็มที่ สำหรับพวกเขาทั้งสามคนต่างก็ดึงสมบัติที่มีพลังงานดั้งเดิมขึ้นมาโจมตีและป้องกัน

ริ้วแสงพริ้วไหวมากมาย ดาบของรุยจินและมีดยาวของเฮยยู่ถูกขว้างออกไปพร้อม ๆ กับพลังของปราณดาบและพลังปราณมีดทรงพลัง มุ่งตรงไปยังวิญญาณแค้นที่มีอยู่มากมาย

เปลวไฟสีขาวเคลือบปิ่นเทพเพลิงของหงเหลียน ขณะที่นางร่วมมือกับรุยจินและเฮยยู่เพื่อจัดการศัตรูที่อยู่ด้านหน้า

เมื่อสมบัติที่มีพลังงานดั้งเดิมทั้งสามชิ้นพุ่งออกไปในเวลาเดียวกันจนเกิดเป็นพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ มันสามารถทำลายพื้นที่และทุกอย่างที่ขวางพวกมันได้ มันทำให้วิญญาณแค้นที่พุ่งเข้ามาด้านหน้าโดยไม่ยากเย็นและเปลี่ยนให้มันกลายเป็นหมอกสีดำ ภายใต้พลังงานดั้งเดิม วิญญาณแค้นอ่อนแอลงอย่างมาก

อย่างไรก็ตามมันยังไม่เพียงพอที่จะจัดการพวกมันได้อย่างสมบูรณ์ ร่างกายของพวกมันได้รวมตัวกันขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว แต่การโจมตีนี้ทำเพื่อปูเส้นทาง พวกเขาใช้มันเพื่อเข้าใกล้ผลไม้เซียนอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตามมีวิญญาณแค้นมากเกินไปและพุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง วิญญาณแค้นกว่าห้าร้อยดวงได้กลายมาเป็นกำแพงรอบ ๆ พวกเขา พวกมันทั้งหมดพุ่งในเวลาเดียวกันพร้อมกับโจมตีด้วยท่าต่าง ๆ ใส่กลุ่มเล็ก ๆ ของพวกเขา พวกเขาถูกกระหน่ำโจมตีจากพวกมัน

เพียงการโบกมือ ขนฟินิกซ์สีแดง 9 เส้นก็ออกมาจากมือของหงเหลียน ขนได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะกลายเป็นนกฟินิกซ์ 9 ตัวที่ยาวกว่า 100 เมตร เปลวไฟของมันทำให้ความร้อนรอบ ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ฟินิกซ์ทั้งเก้าไม่ได้โจมตี แต่พวกมันบินวนเป็นวงกลม พวกมันบินเร็วขึ้นและเร็วยิ่งขึ้นก่อนที่จะกลายเป็นม่านเพลิงล้อมรอบทั้งสี่เพื่อป้องกันการโจมตีจากวิญญาณแค้นทุกทิศทาง

ยังขาดวัสดุเล็กน้อยในการใช้งานการป้องกันของฟินิซ์จากความสามารถเต็มที่ของมัน มันไม่อาจอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเราต้องเคลื่อนไหวให้รวดเร็ว เราต้องได้ผลไม้เซียนให้เร็วที่สุด หงเหลียนพูดอย่างไม่พอใจ จากนั้นนางก็เข้าควบคุมเส้นทางของกลุ่มเพื่อเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

มีเสียงอื้ออึงดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พวกมันเกิดจากการโจมตีทุกทิศทาง ทำให้กำแพงฟินิกซ์สั่นไหวตลอดเวลา

วิญญาณแค้นขวางทางพวกเขาด้วยหมอกสีดำ แต่หงเหลียนได้เดินไปด้านหน้าอย่างช้า ๆ พร้อมกับควบคุมให้เดินทางไปด้านหน้า 1,500 เมตรเพียงแค่ 5 นาที ทุกย่างก้าวของพวกเขายากลำบากจนไม่อาจอธิบายได้

สุดท้ายก็มีเสียงแตกดังขึ้นมา วิญญาณแค้นที่อยู่ใกล้ ๆ ก็มาปรากฏอยู่ที่ด้านหน้าเจี้ยนเฉินและคนอื่น โดยพุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างกับริ้วผ้าที่ปลิวไสว

รุยจินได้เคลื่อนไหวในเวลานี้ เขาโยนเกล็ดมังกรออกมา 18 เกล็ด แต่ละเกล็ดได้รับการปรับแต่งขึ้นมาเป็นพิเศษและถูกจารึกอักขระไว้ เกล็ดทั้ง 18 ลอยอยู่กลางอากาศและส่องแสงเป็นริ้ว ๆ เชื่อมต่อกันป้องกันกลุ่มของพวกเขาไว้

การออกมาคราวนี้ทั้งรุยจินและหงเหลียนต่างก็เตรียมการมาอย่างเพียงพอ พวกเขาได้สร้างค่ายกลป้องกันจำนวนมากและค่ายกลสังหารอีกมากมาย ดังนั้นแม้ว่าพวกเขาจะเผชิญกับวิญญาณแค้นจำนวนมาก แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกกลัว

เกิดรอยร้าวเล็กน้อยบนเกล็ดทั้ง 18 หลังจากที่ผ่านไปได้ 5 นาที เห็นได้ชัดว่ามันไม่อาจอยู่ได้นานกว่านี้อีกหน่อย แต่พวกเขาก็รุดหน้าไปได้เพียงแค่พันเมตรเท่านั้น

เราเตรียมค่ายกลมาอย่างจำกัด เราไม่อาจใช้สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ ดังนั้นเราจึงต้องไปให้ไวขึ้น เจี้ยนเฉิน เจ้าเข้าไปในวัตถุเซียนก่อน พวกเราจะฆ่าเปิดทางไปด้วยกัน รุยจินพูดอย่างดุดัน

เจี้ยนเฉินปล่อยวัตถุเซียนออกมาและหายไปโดยไม่คิดใด ๆ จากนั้นวัตถุเซียนก็ถูกเก็บไว้อยู่บนอกของรุยจิน ขณะที่เกล็ดทั้ง 18 แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งสามก็พร้อมที่จะใช้ความแข็งแกร่งของพวกเขา พวกเขาแทงวิญญาณที่ขวางทางด้วยใบมีดและพุ่งไปด้านหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง

พวกเขาทั้งสามต้านทานการโจมตีที่ทรงพลังมากมายจากวิญญาณแค้น พวกเขาอาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมานานแล้วหากว่าพวกเขาไม่มีสมบัติที่มีพลังงานดั้งเดิม

ในเวลาเดียวกันเซียนราชาผู้นำของตระกูลผู้พิทักษ์ได้เข้ามาสู่ชั้นที่สาม พลังเซียนที่มีคุณสมบัติธาตุต่าง ๆ ก็กระพริบรอบ ๆ ตัวพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาดูเหมือนกับโคมไฟจากระยะไกล พวกเขาใช้พลังต้านทานพลังปีศาจอย่างเต็มที่

ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในชั้นที่สาม ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที ความสนใจทั้งหมดของพวกเขารวมกันอยู่ในทิศทางเดียว

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นจากรุยจิน, หงเหลียน, เฮยยู่และวิญญาณแค้นนั้นกว้างเกินไป แม้ว่าจะอยู่ในระยะไกลกับกลุ่มพวกเขา พวกเขาก็ยังคงสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานที่รุนแรง

บัดซบ มีคนมาที่นี่ก่อนหน้าพวกเรา พวกเขาเริ่มต่อสู้กับวิญญาณแค้นแล้ว ชายชราเสื้อแดงตะโกน เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักธูปสวรรค์

ผลไม้เซียนนั้นเพิ่งสุกและเราก็มาถึงที่นี่ทันทีโดยใช้เวลาไม่สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พวกเขามาที่นี่ก่อนหน้าเราได้อย่างไร ? ชายชราที่ดูเคร่งขรึมจากนิกอายเฉินเซียวพูดเสียงดัง ขณะที่เขาขมวดคิ้วแน่น

คนเหล่านี้มีพลังที่ท่วมท้นและพวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าพวกเราบางคน จริง ๆ แล้วที่พวกเขาสามารถต่อสู้กับวิญญาณแค้นได้อย่างดุเดือดแบบนี้ มันไม่ใช่บางคนที่อยู่ในขั้นสูงสุดจะสามารถทำได้ ยิหยางซีจากนิกายยิหยวนกล่าว ประกายตาของเขาสั่นระริก

บางทีอาจจะเป็นเซียนจักรพรรดิ ? แน่นอนว่ามันไม่ใช่มารราคะใช่หรือไม่ ? เซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์อีกคนกล่าวเสริม