“ค-คลื่นแห่งเต๋า!”
จีโมมองดูที่เจ้าเม็ดโอสถสีทองอร่ามนั้นอย่างเงียบงัน เวลานี้ดวงตาของเขานั้นเบิกกว้างจนแทบถลน ลำคอแห้งผาก
เจ้าโอสถเม็ดสีทองนี้มันเจิดจ้าอย่างมากจนทำให้แม้แต่เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะเบิกตามองมันตรงๆ ได้
พร้อมๆ กันนั้นคลื่นพลังที่เจ้าโอสถนี้ปล่อยออกมาสู่โลกภายนอกมันก็ทำให้สีหน้าของผู้คนทั้งหลายซีดขาว!
พวกเขานั้นไม่เคยจะเห็นคลื่นพลังเช่นนี้จากโอสถใดๆ มาก่อนในชีวิต
มันเป็นคลื่นพลังที่ลึกล้ำ กว้างใหญ่ราวกับ… ราวกับว่ามันมีเต๋าสวรรค์ลงมาอยู่ตรงหน้า
มันราวกับว่านี่มิใช่โอสถใดๆ แต่เป็น… โลกใบหนึ่ง!
สีหน้าของเทพสวรรค์ดันหยู่นั้นซีดขาวลงมากที่สุดในกลุ่มก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างตกตะลึง “นี่มัน… นี่มันคือยอดเต๋า ทำไมจึงได้มีพลังยอดเต๋าออกมาจากเม็ดโอสถได้เช่นนี้?”
“นี่มันโอสถใดกัน? เหตุใดมันจึงมีคลื่นพลังลึกล้ำได้ปานนี้!”
“แปลกจนเกินไปแล้ว! เจ้าหมอนี่มันทำอะไรลงไปกันแน่?”
…
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายในที่นี้ต่างต้องอ้าปากค้าง
โอสถที่เย่หยวนทำการหลอมขึ้นมานี้มันผิดแปลกจากสามัญสำนึกของพวกเขาสิ้น
แน่นอนว่าในโอสถทั้งหลายมันย่อมจะมีการสะสมตัวของเต๋าอยู่ไม่น้อย เรื่องนั้นใครๆ ก็ย่อมทราบดี
แต่การสะสมตัวของเต๋าและยอดเต๋านั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
คลื่นพลังยอดเต๋านี้มันคือต้นตอของเต๋า มันคือโครงสร้างพื้นฐานของโลกหล้า
เหตุใดเต๋าบรรพกาลจึงได้ถูกยกย่องมากมาย?
มันก็เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นได้รับการยอมรับจากยอดเต๋า สามารถใช้มันควบคุมแผ่นดินได้!
ส่วนการสะสมตัวของเต๋านั้นมันก็แค่เศษเสี้ยวพลังเมื่ออยู่ต่อหน้ายอดเต๋า
“ไม่ผิดแน่! แม้ว่ามันจะยังมีพลังเต๋าที่อ่อนแอไปมาก… แต่โอสถนี้มันได้ก้าวขึ้นถึงระดับของโอสถเต๋าแล้ว! ซี๊ด… สมเป็นคนที่ท่านอาจารย์นับถือ น่ากลัวเสียจริงๆ!”
จีโมนั้นจ้องมองดูเย่หยวนพร้อมสูดหายใจเข้าลึก พยายามที่จะสงบจิตใจของตนลง
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายนั้นย่อมไม่มีปัญญาจะทราบได้ว่าเจ้าโอสถนี้มันหมายถึงสิ่งใด
แต่เขานั้นทราบ!
นี่มันคือโอสถที่พิสูจน์ว่าเย่หยวนนั้นได้ก้าวขึ้นไปจนถึงระดับสูงที่สุดในวงการโอสถ!
เขานั้นสามารถขึ้นไปยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับโอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลได้อย่างแท้จริง!
และมันก็ยังหมายความว่านี่คือจุดสูงสุดของวงการโอสถในมหาพิภพถงเทียนด้วย
โอสถเช่นนี้มันถูกมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลขนานนามว่า ‘โอสถเต๋า’
โอสถเต๋านั้นมันอยู่เหนือล้ำกว่าโอสถศักดิ์สิทธิ์ขึ้นไป สูงล้ำจนเทียบเคียงเต๋าสวรรค์ได้!
มหาพิภพถงเทียนนี้มันมีจอมเทพโอสถแปดดาวอยู่มากมายแต่เหตุใดจึงมีแค่โอสถบรรพกาลและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเท่านั้นที่ได้รับการยกย่องเหนือหัวผู้ใด?
ตัวเขา มหานักบวชเคลื่อนดาราผู้นี้เองก็เป็นถึงจอมเทพโอสถแปดดาวขั้นปลาย แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะกล้าเอาตัวไปเทียบกับคนทั้งสองได้!
เหตุผลของมันนั้นคือโอสถเต๋า
นี่คือระดับของโอสถที่ยกขึ้นไปอีกขั้นอย่างทิ้งห่างโอสถศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ไปสิ้นเชิง
เพียงแค่ว่าไม่ว่าจะเป็นโอสถบรรพกาลหรือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล พวกเขาทั้งสองต่างก็ยังไม่อาจจะหลอมโอสถเต๋าที่แท้จริงขึ้นมาได้
ไม่เช่นนั้นแล้วโอสถบรรพกาลก็คงไม่จบแค่ที่โอสถบรรพกาล เขาคงกลายเป็นเต๋าบรรพกาลไปได้แล้ว
แต่เส้นทางนี้คนทั้งสองก็ยังเดินนำผู้คนทั้งหลายไปอย่างไม่เห็นฝุ่น
สิ่งนี้มันคือขอบเขตที่ลึกลับไกลเกินเอื้อม เป็นดินแดนความรู้ที่ทำให้คนได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง!
มีเพียงแค่ศิษย์ของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลทั้งหลายเท่านั้นที่จะเข้าใจถึงความลึกล้ำของมัน
จีโมนั้นย่อมรู้ว่านักหลอมโอสถที่มีปัญญาจะหลอมโอสถเต๋าขึ้นมาได้บนมหาพิภพถงเทียนนี้มันคงมีจำนวนแค่หยิบมือ
และแต่ละผู้คนนั้นย่อมจะเป็นตัวตนที่สูงส่งล้ำฟ้า
แต่ในเวลานี้พวกเขาย่อมจะต้องรวมนามของเย่หยวนเข้าไปเสียด้วยแล้ว!
คลื่นพลังเต๋าที่อัดแน่นอยู่ในโอสถนี้มันยังไม่แข็งแกร่งมากมาย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรมันก็เป็นของแท้แน่นอน
คนทั้งหลายนั้นย่อมจะไม่รู้ว่าในจิตใจของจีโมนั้นมันสั่นสะท้านปานใด แต่เจ้าโอสถจุติฟื้นโกลาหลสีทองอร่ามนี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายต้องลืมตาอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
เย่หยวนยื่นมือออกมาหยิบเจ้าโอสถจุติฟื้นโกลาหลไว้ทันที
จากนั้นเขาก็กลืนมันลงคอไปอย่างไม่รอช้าใดๆ
วินาทีนั้นร่างกายที่สุดแสนอ่อนแอของเขามันก็กลับระเบิดพลังออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
ตูม!
คลื่นพลังวิญญาณจากทั่วทิศในฟ้าดินถูกเย่หยวนดูดเข้ามาหาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เย่หยวนนั้นเหมือนเป็นดั่งหลุมดำที่ดูดกลืนพลังงานทุกสิ่งอย่างเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง
ภายในร่างกายของเขานั้นพิภพโกลาหลที่แตกสลายจนไม่อาจซ่อมแซมได้มันกลับค่อยๆ ผสานตัวกลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง!
โอสถจุติฟื้นโกลาหลนั้นมันเหมือนดั่งเครื่องกลขนาดยักษ์ยกจับพิภพโกลาหลของเย่หยวนเข้ามาต่อผสานกันอย่างไม่หยุดยั้ง
ไม่มีใครจะเข้าใจได้ว่าในเวลาหลายสิบปีมานี้เย่หยวนได้ผ่านอะไรมาบ้าง
สำหรับนักยุทธทั้งหลายที่ต่อสู้กันจนฟ้าดินถล่มทลายนั้นความขัดแย้งหรือความรู้ใดๆ ของสามัญชนธรรมดาทั่วไปย่อมไร้ค่าที่จะคิดสนใจ
ไม่มีใครคิดสนใจเรื่องสุดแสนธรรมดา เรื่องสุดแสนจะพื้นฐาน พวกเขาทั้งหลายนั้นคิดว่าของพวกนั้นมันก็แค่ความรู้ของขยะไร้ค่า
แต่เย่หยวนไม่ได้คิดเช่นนั้น!
คนเราย่อมจะไม่มีวันก้าวถึงเป้าหมายที่สูงส่งได้ด้วยบันไดที่อ่อนแอ
ไม่ว่าจะเป็นวรยุทธที่ล้ำฟ้า ไม่ว่าจะเป็นพลังที่เหนือแผ่นดินปานใดมันก็ย่อมจะต้องเกิดขึ้นมาจากการก่อสร้างรากฐานที่มั่นคง
เขานั้นเติบโตขึ้นมาเช่นนี้และรู้ดีว่ามันคือเส้นทางที่ถูกต้อง
หลายสิบปีมานี้เย่หยวนได้อ่านหนังสือตำราความรู้มากมายจนได้รับความรู้ที่ยอดคนทั้งหลายคิดเสียว่ามันเป็นแค่ขยะไร้ค่า
แม้ว่าเขานั้นจะเสียความทรงจำไม่อาจจดจำเรื่องราววิชาโอสถใดๆ ได้แม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลหรือสิ่งที่เขาได้สืบทอดมาจากจอมเทพนิรันดร์ เขานั้นลืมเลือนมันจนสิ้น!
สิ่งเดียวที่เขายังมีคือความกระหายรู้ที่ฝังในจิตวิญญาณ!
พรสวรรค์ด้านการโอสถ สัญชาตญาณแห่งการโอสถ ความสามารถด้านการโอสถที่เขาฝึกฝนมาอย่างหนักแน่นจนเข้ากระดูก
ทีละเล็ก ทีละน้อย ความรู้ที่เขามีได้ผสมผสานขึ้นมาจนถึงระดับที่น่ากลัว
จนถึงวันที่หลินฉางชิงและลู่เอ๋อมาถึง เขาได้ทำให้เย่หยวนต้องดึงขีดจำกัดของตนออกมาสร้างเอาความรู้ทั้งหลายมาเปลี่ยนเป็นความเข้าใจและความสามารถจนก้าวขึ้นอาณาจักรบรรพกาลขั้นกลาง
ในเวลานี้มันไม่มีใครทราบได้ว่าตัวเย่หยวนนั้นมีความรู้ด้านการโอสถสูงล้ำถึงปานใด แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ไม่อาจวัดมันได้
แต่เขารู้ดีว่าตัวเองนั้นเก่งกาจขึ้นมาก!
มากจนน่าเหลือเชื่อ!
‘โลกใบน้อยพังทลายแล้วมันทำไม?’
‘ไม่มีปราณเทวะแล้วมีปัญหาหรือ?’
‘ข้าจะหลอมโอสถมาซ่อมแซมพวกมันเอง!’
โอสถจุติฟื้นโกลาหลนี้มันคือผลงานชิ้นใหญ่ที่เขาใช้ความรู้ที่มีทั้งหมดในเวลานี้สร้างขึ้น!
คลื่นพลังปั่นป่วนคลั่งนั้นหมุนวนต่อไปนานถึงสามวันสามคืน
เย่หยวนนั้นเป็นดั่งยักษ์ใหญ่ที่กลืนกินแผ่นดิน พลังงานจากฟ้าดินใดๆ นั้นถูกเขากินกลืนลงไปสิ้น
สามวันต่อมาเย่หยวนก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมแสงสว่างจ้า!
โอสถเต๋าเทียมของเขานี้นอกจากมันจะทำการฟื้นฟูพิภพโกลาหลจนเหมือนใหม่แล้วมันยังทำให้ตัวเขาพัฒนาพลังบ่มเพาะขึ้นไปอีกระดับ
ในเวลานี้เขาได้ก้าวขึ้นมาสู่อาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นกลาง!
ในเวลานี้เหล่าเทพสวรรค์ดันหยู่ทั้งหลายนั้นย่อมได้แต่ต้องนั่งดูด้วยจิตใจที่ไม่อาจสงบได้
พวกเขาทั้งหลายย่อมจะอยากเข้าไปขัดการฟื้นตัวของเย่หยวน ไม่คิดอยากให้เย่หยวนได้พลังกลับคืนมาใดๆ
แต่ด้วยมหานักบวชเคลื่อนดารา ยอดฝีมือระดับนี้นั่งดูอยู่ไม่ห่างมีหรือที่พวกเขาจะกล้าลงมือทำเรื่องใด?
และแน่นอนว่าสิ่งที่ยิ่งทำให้คนทั้งหลายตกตะลึงก็คือ เย่หยวนนั้นฟื้นฟูกลับมาได้จริง!
นักยุทธที่โลกใบน้อยพังทลายกลับรักษาตัวเองขึ้นมาจนหายสนิท!
เรื่องเช่นนี้มันเป็นไปได้ด้วยหรือ?
แต่มันกลับมาเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา!
“นี่มัน… มันเป็นโอสถวิเศษใด สามารถคืนชีวิตให้แก่โลกใบน้อยที่แตกสลายได้เช่นนี้! บ้าไปแล้ว! ทำไมข้าจึงไม่เคยจะได้ยินถึงมันมาก่อน?!”
“น่ากลัว! ความรู้ด้านโอสถของเจ้าหมอนี่มันคงเป็นอันดับหนึ่งในหมู่จอมเทพโอสถเจ็ดดาวทั้งหลายแล้ว!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันคือสัตว์ประหลาดอย่างแท้จริง!”
…
เหล่าเทพสวรรค์แห่งพันธมิตรแดนใต้นั้นต่างยืนตัวแข็งทื่อ
เพราะจนถึงวินาทีนี้พวกเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าเย่หยวนจะฟื้นฟูร่างกายกลับมาได้
เขาความเป็นจริงมันช่างโหดร้าย!
เมื่อได้เห็นเย่หยวนกลับมาสมบูรณ์พร้อมเช่นนั้นทางคนเมืองอินทรีสวรรค์ต่างก็ต้องร้องสรรเสริญขึ้นมาอีกครา
นี่คือนายของพวกเขา นี่คือพระเจ้าของพวกเขา!
เย่หยวนหันไปมองเทพสวรรค์ดันหยู่ด้วยรอยยิ้มเย้ย “ดันหยู่ เจ้าว่าใครเป็นขยะนะ?”
……………………….