ตอนที่ 1675

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ผู้ทดสอบกว่าห้าพันคนทะยานร่างเข้าสู่ภูเขาพงไพรในขณะที่สายตาจดจ้องไปยังผู้ทดสอบคนอื่นๆนอกจากตนเองอยู่เป็นระยะ เห็นได้ชัดว่าหากมีโอกาส พวกเขาก็ติดจะแย่งชิงหางของหมาป่าเงาโลหิตจากผู้อื่น

พวกหลิงฮันสามคนยังคงตามหลังคนอื่นๆ ส่วนติงเซี่ยวเฉินนั้นผ่านไปครู่ๆหนึ่งก็จู่ๆร่างของเขาก็พุ่งทะยานหายไป

อีกฝ่ายไม่ได้ยอมแพ้ แต่ตั้งจะแอบลอบหาโอกาสลอบโจมตีจากเงามืด

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “พวกเราเคลื่อนที่ให้ไวกว่านี้ดีไหม?”

เม่าซูอวี่ประหลาดใจ ในความคิดของนางนี่คือความเร็วสูงสุดที่จอมยุทธระดับสร้างสรรพขั้นสูงจะเคลื่อนที่ได้แล้ว

แต่ถึงอย่างนั้นหลิงฮันกลับขอให้เคลื่อนที่เร็วกว่านี้?

นี่เจ้าคิดจะโอ้อวด?

เม่าซูอวี่ไม่ใช่คุณหนูที่บอบบางที่จะถามจุกจิก ด้วยนิสัยเจ้าอารมณ์ของนาง นางไม่พูดพล่ามอะไรสักคำและเร่งความเร็วเพิ่มขึ้น

หลังจากเคลื่อนที่ไปได้สักพักนางก็หันกลับมามองหลิงฮันและจักรพรรดินี นางตกตะลึงจนเผลชะงัก หลิงฮันกับจักรพรรดินียังคงไล่ตามนางมาติดๆในระยะห่างสามฟุตเท่าเดิม!

เม่าซูอวี่ตกตะลึง แม้นางจะรู้ว่าทั้งสองคนเป็นอัจฉริยะที่มีศักยภาพโดดเด่น คนหนึ่งสามดาวครึ่งอีกคนสองดาวครึ่ง แต่ความต่างของระดับพลังหนึ่งขั้นย่อยก็ไม่ใช่สิ่งที่จะทดแทนด้วยศักยภาพอยู่ดี

พวกเจ้าเป็นสัตว์ประหลาด?

เขาค่อยๆเร่งระดับความเร็วให้สูงขึ้น แต่นางก็ต้องตกละลึงยิ่งไปกว่าเดิมเนื่องจากว่าหลิงฮันจักรพรรดินียังคงไล่ตามนางมาติดๆและรักษาระยะห่างสามฟุตเอาไว้ได้

ขีดกำจัดของพวกเจ้าคือความเร็วระดับไหน?

ในที่สุดเม่าซูอวี่ก็ระเบิดความเร็วสูงสุดออกมา พริบตาเดียวร่างของนางก็ทะยานกลายเป็นสายลมกรรโชก

เพียงแต่นางก็ยังไม่สามารถสลัดหลิงฮันกับจักรพรรดิได้อยู่ดี นางพอเดาได้ว่าทั้งสองยังไม่ได้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดเนื่องจากทั้งสองยังคงรักษาระยะห่างสามฟุตได้อยู่

ที่จริงเม่าซูอวี่เองก็ยังเร่งระดับความเร็วได้อีก แต่การจะทำเช่นนั้นจำเป็นต้องโคจรทักษะซึ่งไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้นานนัก

ติงเซี่ยวเฉินที่ตามอยู่ด้านหลังไล่ตามมาอย่างบ้าคลั่ง แต่ระยะของเขากับพวกหลิงฮันก็เริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายเขาก็สูญเสียร่องรอยของทั้งสามคนไปอย่างสิ้นเชิง

ด้วยภูมิประเทศอันคดเคี้ยวและเต็มไปด้วยป่าไม้ พวกเขาจึงต้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันเต็มในการเดินทางมายังภูเขาลูกที่เก้า

นี่คือถิ่นอาศัยของหมาป่าเงาโลหิต

“ระวังตัวด้วย หมาป่าเงาโลหิตเป็นสัตว์อสูรที่อยู่รวมกับเป็นฝูง กล่าวง่ายๆคือฝูงของพวกมันกลุ่มหนึ่งจะมีราชาหมาป่าเงาโลหิตอยู่หนึ่งตัว องครักษ์หมาป่าเงาโลหิตสี่ถึงสิบตัวและหมาป่าเงาโลหิตทั่วไปนับร้อย”

“ราชาหมาป่าเงาโลหิตและองครักษ์หมาป่าเงาโลหิตคือสัตว์อสูรระดับสร้างสรรพขั้นสูงสุดชั้นสูงสุด ราชาหมาป่าเงาโลหิตจะมีพลังต่อสู้ที่เหนือกว่าระดับสร้างสรรพขั้นสูงสุดทั่วไป มันคือตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในระดับสร้างสรรพสิ่งเลยก็ว่าได้” เม่าซูอวี่อธิบายให้กับพวกหลิงฮัน

หลิงฮันและจักรพรรดินีพยักหน้า แม้พวกเขาจะไม่เห็นหมาป่าที่ว่าอยู่ในสายตาแต่ฟังไว้ก็ไม่เสียหาย

“ขอแค่ได้หางของหมาป่าเงาโลหิตมาก็ถือว่าผ่านการทดสอบ พวกเราไม่จำเป็นต้องบุกไปในรังของพวกมัน แค่จัดการตัวที่แยกออกจากฝูงมาตัวเดียวก็พอ” เม่าซูอวี่กล่าวต่อ

“อืม” หลิงฮันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

แต่กลุ่มพวกเขานับว่าโชคร้ายมาก แม้จะสามารถหารังของหมาป่าเงาโลหิตพบอย่างรวดเร็ว แต่จำนวนของพวกมันกลับรวมกลุ่มกันอยู่เกินกว่าร้อยตัว หมาป่าเงาโลหิตที่มีระดับพลังอยู่ที่สร้างสรรพสิ่งมีมากถึงสามสิบตัว ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดคงเป็นราชาหมาป่าเงาโลหิต หลิงฮันมั่นใจว่าต่อให้เป็นราชาเซียนชิงอวี่หรือโอวหยางไท่ซานก็ไม่ใช่คูต่อสู้ของมัน

“พวกเราต้องเฝ้ารอโอกาส ต้องมีหมาป่าเงาโลหิตสักตัวที่แยกออกไปตัวเดียวแน่” เม่าซูอวี่กล่าว นางไม่กล้าเผชิญหน้ากับฝูงหมาป่าเงาโลหิตตรงๆ

หลิงฮันกวาดสายตามองก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกาย “ภรรยาข้า เจ้าดูนั่น!” เขาชี้ไปยังรังของหมาป่าเงาโลหิต

รังของหมาป่าเงาโลหิตนั้นเรียบง่าย พวกมันใช้โขดหินสร้างเป็นที่กำบังลมและฝนเท่านั้น ที่โขดหินที่สูงที่สุดมีราชาหมาป่าเงาโลหิตนอนอยู่ ขนของมันเป็นสีแดงยิ่งกว่าตัวไหนๆทำให้ดูน่ายำเกรงเป็นอย่างมาก

ด้านหลังของมันมีองครักษ์หมาป่าเงาโลหิตแปดตัวนั่งอยู่ ในขณะที่หมาป่าเงาโลหิตตัวอื่นๆอยู่ในโขดหินที่ต่ำกว่า

ภายในส่วนลึกที่สุดของรังโขดหิน พืชต้นหนึ่งกำลังส่องประกายอย่างเด่นชัดและแพร่กระจายกลิ่นหอมไปทั่วทิศทาง

“สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ!” ตาของจักรพรรดินีเป็นประกาย

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “มันสมควรเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำระดับสูง เห็ดดวงจิตปราชญ์”

“พวกเจ้าอย่าได้ผลีผลาม!” เม่าซูอวี่รีบกล่าวเตือน “แม้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำต้นนั้นจะน่าดึงดูด แต่หากถูกหมาป่าเงาโลหิตเหล่านั้นไล่ล่า พวกเราคงต้องหนีเผ่นหนีอย่างเดียว”

การหนีเอาตัวรอดนั้นใช่ว่าจะยากลำบาก แต่หากถูกไล่ล่าจะผ่านการทดสอบได้อย่างไร?

ทันทีที่นางกล่าวจบ ร่างของจักรพรรดินีก็ก้าวเดินหน้าไปยังรังของฝูงหมาป่าเงาโลหิต

เม่าซูอวี่ตกตะลึงและคิดจะรั้งจักรพรรดินีเอาไว้แต่ก็ถูกหลิงฮันห้าม

“ไม่ต้องกังวล ให้นางไป” หลิงฮันกล่าว

เม่าซูอวี่จ้องหลิงฮันเขม็งทันที ท่าทีเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไร? สตรีผู้นั้นเป็นภรรยาของเจ้าแท้ๆแต่เจ้ากลับปล่อยให้นางเผชิญภัยอันตรายเพียงเพราะต้องการการสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำ!

ภายในจิตใจของนางปะทุได้ด้วยเพลิงพิโรธ หลังจากนี้นางจะขอแยกกลุ่มกับหลิงฮันแน่นอน แค่คิดว่าต้องอยู่ข้างกายบุรุษเช่นนี้ก็แทบจะทำให้นางอาเจียนออกมา

แต่ทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถัดมาได้ทำให้ดวงตาของนางเปิดกว้างด้วยความตะลึง

หมาป่าเงาโลหิตไม่ทำการโจมตีใดๆต่อจักรพรรดินีที่กำลังเดินเข้าไปใกล้ ตรงกันข้าม พวกมันแต่ละตัวก้มหัวลงราวกับหวาดกลัวจักรพรรดินี

อะไรกัน!

เม่าซูอวี่ขยี้ตาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้?

นางจ้องมองจักรพรรดินีที่ค่อยๆเก็บสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ลึกล้ำขึ้นมาและตัดหางของหมาป่าเงาโลหิตสามตัว แม้หมาป่าเงาโลหิตทั้งสามจะร้องโอดครวญอยู่ครู่หนึ่ง พวกมันก็ไม่ตอบโต้ใดๆ

หลิงฮันเข้าใจสถานการณ์ดี ทั้งเขาและจักรพรรดินีต่างทะลวงผ่านระดับสร้างสรรพสิ่งด้วยดวงดาวสิบล้านดวง พลังต่อสู่ของพวกเขาทรงพลังจนสามารถบดขยี้ศัตรูระดับสร้างสรรพสิ่งได้ทั้งหมดทั้งมวล เหล่าจอมยุทธด้วยกันอาจจะรับรู้ไม่ได้ แต่หมาป่าเงาโลหิตสามารถสัมผัสได้จากสัญชาตญาณนักล่า

พวกมันเป็นนักล่าแต่ก็หวาดกลัวผู้แข็งแกร่ง จักรพรรดินีคือราชาในหมู่ราชา ต่อหน้านางแม้แต่ราชาหมาป่าเงาโลหิตก็ยังเชื่องราวกับสุนัข