ตอนที่ 1155: การต่อสู้ระหว่างผู้เข้มแข็ง (5)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1155: การต่อสู้ระหว่างผู้เข้มแข็ง (5)

ในขณะที่ผู้อาวุโสจากนิกายเฉินเซียวกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ ผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์หลายคนเฝ้าดูพวกเขาจากหางตา ขณะที่ต่อสู้กับวิญญาณแค้น เทพสายฟ้าจากสวรรค์ของนิกายเฉินเซียวนั่นทรงพลังอย่างมาก มันมีอยู่ในจุดสูงสุดของทักษะระดับเซียน และยิ่งกว่านั้นอำนาจของมันก็แตกต่างกันทักษะการต่อสู้ระดับเซียนอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง

ทักษะลับที่ไม่เคยถูกนำมาใช้ในประวัติศาสตร์มาก่อนนับตั้งแต่ที่มีการใช้มา มันทรงพลังและเปิดปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างรุนแรง มันเกือบจะเป็นทักษะต้องห้าม แต่เมื่อมันถูกใช้แล้ว พลังทำลายล้างที่ไม่อาจอธิบายได้ก็ปรากฏให้เห็น

สี่ผู้อาวุโสสูงสุดที่นั่งอยู่บนอากาศด้วยกัน พวกเขาทั้งหมดผนึกหมอกรอบ ๆ เพียงแค่โบกมือ ราวกับว่าหมอกเหล่านั้นถูกพัดขึ้นไปบนฟ้า พวกเขาใช้หมอกเพื่อสะท้อนพลังของโลกและรวบรวมความลึกลับให้เกิดพลังที่ทรงพลังดั่งสวรรค์

แครก !

ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังสนั่น สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงมาจากท้องฟ้าและมุ่งไปยังกลุ่มของหงเหลียนด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ไม่มีเมฆครึ้มใด ๆ มันเป็นสายฟ้าสีน้ำเงิน เสียงฟ้าร้องดังลั่นเต็มอากาศและเสียงดังกังวานที่ดังไปทั่วฟากฟ้า สายฟ้าเปล่งแสงสว่างจ้าบาดตา

ในเวลานั้น สายฟ้าดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งเดียวในโลก แสงที่สว่างจนทำให้แสงจากดวงอาทิตย์ต้องหมองลง

หงเหลียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า แสงวาบเข้ามาในสายตาของนาง ขณะที่พึมพำว่า ช่างเจ้าเล่ห์นัก แต่ก็ยังพอที่จะทำร้ายข้าได้อยู่ นางถูกสายฟ้าฟาดเข้าใส่ ดังนั้นนางจึงไม่อาจหลบเลี่ยงได้ สิ่งที่นางทำได้เพียงแค่ยืนรับมัน

เปลวเพลิงสีขาวลุกโชนรอบ ๆ พร้อมกับเสียง เปรี๊ยะ ปร๊ะ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนฟ้าจากปิ่นของหงเหลียน ทันใดนั้นมันก็เปลี่ยนเป็นแสงยาวหลายสิบเมตรจากขนาดเดิม แสงสีขาวพุ่งเข้าหาสายฟ้าเทพสวรรค์ ด้วยพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้

บูม !

พลังของปิ่นได้พุ่งเข้าชนและเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรวดเร็ว คลื่นเสียงที่สั่นไหวออกมาอย่างน่ากลัว เซียนราชาหลายคนยังต้องอุดหูของตัวเอง

แสงสายฟ้านั้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ สายฟ้าขนาดใหญ่ได้ถูกบดขยี้ทันที ประกายไฟขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนได้กระจายไปทั่วท้องฟ้าอันเกิดจากพลังของปิ่น มันดูราวกับดอกไม้ไฟที่สวยงามที่เบ่งบานอยู่ท้องฟ้า จริง ๆ แล้วมันค่อนข้างที่จะเป็นฉากที่น่าทึ่ง

อาวุธพลังงานดั้งเดิมช่างทรงพลังจริง ๆ มันได้ทำลายทักษะของนิกายเฉินเซียวอย่างหมดจด โดยไม่มีปัญหาใด ๆ…

เซียนราชาที่เห็นสิ่งนี้ต่างก็พึมพำออกมา หลายคนได้เห็นเปิดหูเปิดตา พวกเขาสนใจสิ่งประดิษฐ์พลังงานดั้งเดิมที่ทรงพลังนี้ หากพวกเขาได้รับมัน พวกเขาจะทรงพลังเทียบเท่าได้กับเซียนจักรพรรดิเป็นอย่างน้อย และพวกเขาก็มีความสามารถพอที่จะต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิเช่นกัน

สี่ผู้อาวุโสสูงสุดจากนิกายเฉินเซียวต่างก็มีใบหน้าที่ไม่น่ามอง บางคนใบหน้าซีดขาว พวกเขายังคงนิ่งเงียบพลางกัดฟันขณะที่เรียกสายฟ้ามาเพิ่มเติม

หงเหลียนไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาทำอย่างนั้น เปลวเพลิงได้ห่อหุ้มรอบ ๆ นาง ขณะที่นางได้ปล่อยพลังไปยังพวกผู้อาวุโสทั้งสี่ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า มันราวกับเป็นเพลิงของเทพธิดา

เซียนราชาที่คุ้มครองผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ก็ก้าวมาด้านหน้า พวกเขาจ้องมองหงเหลียนอย่างลึกซึ้งและฟาดฝ่ามือออกไปทันที ทันใดนั้นพลังงานก็พุ่งเข้าหาหงเหลียนอย่างรุนแรง

ปิ่นเทพเพลิงก็เข้าปะทะและปล่อยเพลิงสีขาวที่น่าสะพรึงกลัวในทันที เปลวเพลิงดูเหมือนว่าจะละลายทุกสิ่งในโลกนี้ได้และพลังงานที่ปล่อยออกมาจากเซียนราชากว่า 10 คนต่างก็ละลายหายไปกับเปลวเพลิง

เปลวเพลิงยังได้ลามไปยังเส้นใยพลังงานและลุกลามไปยังแขนของพวกเขา แขนของพวกเขาเริ่มไหม้ขณะที่เนื้อของเขากลายเป็นถ่าน

เซียนราชาทั้งหมดกัดฟัน พวกเขาไม่อาจดับเปลวเพลิงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด พวกเขาทุกคนตัดแขนตัวเองเพื่อหยุดยั้งการลุกลามของเปลวเพลิง

แขนที่ถูกตัดออกมาของพวกเขากลายเป็นขี้เถ้าทันที

ตอนนี้ไม่มีใครขวางหงเหลียน พวกเขาทุกคนกลัวเปลวเพลิงสีขาวที่จะมาโดยพวกเขา แม้กว่าเขาจะสูญเสียผิวหนังไปบางส่วนแต่พวกเขาก็ยังไม่ตาย

หงเหลียนเดินเข้าไปหาผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ การแสดงของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาใช้ทักษะสุดยอดของนิกายเพื่อหนี

เพียงนางโบกมือ ปิ่นเทพเพลิงก็พุ่งเข้าแผดเผาทันที เพลิงสีขาวที่หนาขนาด 4 นิ้วก็พุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ด้วยความเร็วปานสายฟ้า หลังจากที่นางจัดการวิญญาณแค้น 2 ดวงที่ลอยอยู่รอบ ๆ ไปด้วยหลังจากที่ใช้พลังของปิ่นอีกครั้ง

ในบรรดาสี่ผู้อาวุโสสูงสุด มีคนหนึ่งใช้วิญญาณแค้นที่อยู่ข้าง ๆ เขามาป้องกันเปลวเพลิง อีกคนถูกโจมตีเข้าที่ขา ขณะที่อีกสองคนถูกโจมตีที่หน้าอก เปลวเพลิงสีขาวเริ่มลุกลามจากหน้าอกของเขาไปยังส่วนอื่น ๆ อย่างรวดเร็ว

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามต่างก็ร่ำร้องออกมาอย่างเจ็บปวด หนึ่งในนั้นตัดขาของตนอย่างไม่ลังเล ขณะที่อีกสองคนถูกระเบิดหัว พวกเขาทิ้งร่างและวิญญาณของเขาออกไป พวกเขามุ่งเข้าหาผู้อาวุโสสูงสุดอีกคนที่ยังไม่ได้รับบาดเจ็บอย่างรวดเร็วก่อนที่จะถูกดูดเข้าไปในน้ำเต้า

มีแรงกดดันที่หนักหน่วงมากมาจากบนฟ้า พวกเขาพยายามบดขยี้หงเหลียนอย่างไร้ความปราณี ราวกับว่ามีภูเขาที่มองไม่เห็นกำลังลงมา เซียนราชารอบ ๆ หลายคนต่างก็เริ่มใช้ทักษะต่อสู้ระดับเซียน โดยที่เป้าหมายของพวกเขาเป็นหงเหลียน บางคนที่มาจากตระกูลผู้พิทักษ์ ขณะที่บางคนมาจากตระกูลโบราณอื่นๆ

หงเหลียนส่งเสียงร้องราวกับนกฟินิกซ์ที่กู่ร้องขึ้นมากลางอากาศ เปลวเพลิงที่อยู่รอบ ๆ ตัวก็พุ่งสูงกว่า 10 เมตร เสาเพลิงที่หนาเท่ากับแขนคนได้ถูกยิงออกมาไปทุกทิศทางราวกับดอกไม้ไฟที่ระเบิดออก ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจะมุ่งเป้าไปที่นาง จากทักษะต่อสู้ระดับเซียนของเซียนราชาหลาย ๆ คน

หากสังเกตอย่างระมัดระวังก็ไม่ยากที่จะเห็นว่าภายในเสาเพลิงมีขนนกสีแดงยาว เปลวเพลิงทั้งหมดมาจากขนนกเหล่านี้

สถานการณ์ได้ก้าวไปสู่การต่อสู้ระหว่างสามฝ่ายอย่างสมบูรณ์ ด้านหนึ่งได้แก่ รุยจิน, เฮยยู่และหงเหลียน อีกด้านคือวิญญาณแค้นหลายร้อยดวงและด้านสุดท้ายคือเหล่าเซียนราชาทั้งหลาย

หงเหลียนรับการโจมตีจากเซียนราชาและวิญญาณแค้นทั้งหมดด้วยตัวนางเอง นางดึงดูดความสนใจของเซียนราชาทุกคน ผู้คนจำนวนมากจากตระกูลผู้พิทักษ์และตระกูลโบรราณก็เริ่มต่อสู้กับหงเหลียน พวกเขาหวาดกลัวเปลวเพลิงของนางเป็นอย่างมาก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลัวจริง ๆ

ผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลเจียงหยางเริ่มไม่มั่นใจ พวกเขารู้สึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจี้ยนเฉินและรุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงลังเลที่จะจัดการพวกเขาราวกับเป็นศัตรูดีหรือไม่

พวกเขาไม่ยอมให้คนภายนอกได้ผลไม้เซียนไป หากไม่ใช่มนุษย์

ในเวลานี้ รุยจินและเฮยยู่ก็ได้เข้าใกล้ผลไม้เซียนภายใต้วงล้อมของวิญญาณแค้นมากมาย สิ่งประดิษฐ์ระดับเซียนที่ซ่อนอยู่ในอกของรุยจินก็พุ่งเข้าหาทันทีและเกิดแสงสีทองออกมา เจี้ยนเฉินปรากฏตัวออกมาอย่างเงียบ ๆ เขาใช้แสงสว่างอำพรางและมาถึงด้านหน้าผลไม้เซียนด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว