ตอนที่ 1310 การทรยศของหลิง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

น้ำเสียงนี้เต็มไปด้วยความโกรธแค้นชิงชัง มู่เฉียนซีรู้ว่าเขาเป็นใคร

หัวหน้าวังอวิ๋น นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่จะยังมีชีวิตอยู่!

หัวหน้าวังอวิ๋นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงแม้ว่าจะทุ่มอย่างสุดกำลังแล้ว แต่ความเร็วของเขากลับเร็วไม่พอ และความเร็วของมู่เฉียนซีก็สามารถหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย

ทว่า ในตอนนี้ยาบัดซบนั่นมันเริ่มออกฤทธิ์แล้ว มู่เฉียนซีรู้สึกราวกับว่าสองขาของตนเองนั้นกำลังเดินอยู่บนปุยฝ้ายก็มิปาน และกำลังจะล้มลงไป

หนีไม่พ้น!

และในตอนนี้เอง ลำแสงสีชมพูก็พุ่งมา

ปัง!

อ๊า! หัวหน้าวังอวิ๋นส่งเสียงกรีดร้องขึ้น เพราะเขาโจมตีโดนหม้อยาที่แข็งมากหม้อหนึ่ง

“ชิ! นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าทำร้ายคนที่ข้าเลือกให้เป็นเจ้านาย เจ้ามันรนหาที่ตาย” เสี่ยวหยางหยางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะดีนัก

จากนั้นมันก็กล่าวด้วยความเบิกบานใจว่า “นายท่าน เสี่ยวหยางหยางยอดเยี่ยมไหมละ นายท่านยอมรับข้าเถอะนะ!”

นี่คิดจะทำความดีชดใช้ความผิดอย่างนั้นเหรอ มู่เฉียนซีไม่ใช่คนใจกว้างถึงเพียงนั้น

ในตอนนี้มู่เฉียนซีรู้สึกว่าร่างกายเหมือนจะหมดแรงลง สุดท้ายจึงกัดฟันอดทน จากนั้นก็ฉีดยาให้ตัวเองหลายเข็ม

ยับยั้ง…ต้องยับยั้งต่อไป…

เสี่ยวหยางหยางเองก็สังเกตเห็นแล้ว “นายท่าน นะ นี่…เหตุใดถึงทำเช่นนี้ ยับยั้งรุนแรงเกินไปแล้ว หากมันตีกลับขึ้นมาแล้วละก็…”

“หรือไม่ เสี่ยวหยางหยางจะจับชายรูปงามสักคนมาให้นายท่าน คนที่อยู่ในสระเย็นผู้นั้นนายท่านก็ไม่ชอบ งั้นก็เอาคนชุดเขียวนี่ก็แล้วกัน ด้วยสายตาของข้าแล้วเขาต้องเป็นของดีแน่นอน ฮี่ ๆ ๆ! หุ่นก็ดีมากซะด้วย! ข้าทำให้…”

ในที่สุดตอนนี้มู่เฉียนซีก็กลับมาเป็นปกติแล้ว

หัวหน้าวังอวิ๋นหลบหลีกหม้อหยินหยางสองขั้วและจะลงมือกับมู่เฉียนซีอีกครั้ง มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ หลบไปซะ!”

“ทักษะโยวหลัว!”

มู่เฉียนซีใช้ทักษะวิญญาณโจมตีไปที่หัวหน้าวังอวิ๋น กำลังอันเข้มแข็งเกรียงไกรของเขานั้นเสื่อมทรุดจนเป็นม้าตีนปลายแล้ว และเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เฉียนซีอีกต่อไป!

ตูม! หัวหน้าวังอวิ๋นถูกโจมตีจนร่างกระเด็นลอยออกไปพลางกระอักเลือดคำโตออกมา

แววตาของเขาเผยความโหดเหี้ยมขึ้น มู่เฉียนซี เจ้าต้องการให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีทางให้เจ้าได้อยู่ดีเป็นอันขาด

เขาตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสสูงสุด มู่หรงเฉียนเยี่ยความจริงแล้วเป็นผู้หญิง นางคือมู่เฉียนซี มู่เฉียนซีผู้ที่ครอบครองกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ นางโกหกหลวงลวงทุกคน”

ฉึก! กระบี่ยาวเล่มหนึ่งแทงทะลุหัวใจของเขา

คนอื่นต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “อะไรนะ ประมุขน้อยเป็นผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ”

“……”

“ว่ายังไงนะ นายท่านเป็นผู้หญิง!” เซียวเหยาเองก็ตกใจมาก

ผู้อาวุโสสูงสุดมองไปที่ชายชุดเขียวตรงหน้า เขากล่าว “คนผู้นี้ เป็นหุ่นเชิด!”

“ดูท่า เจ้าก็คือมู่เฉียนซีจริง ๆ!” แววตาของผู้อาวุโสสูงสุดเผยความโหดเหี้ยมออกมา

นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ เดิมทีคิดเพียงว่าจะได้หม้อเทพมาครอบครอง และฆ่ามู่หรงเฉียนเยี่ยทิ้งก็สามารถยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวแล้ว กลับนึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะมีเรื่องดีที่คาดไม่ถึงเช่นนี้อีก!

กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์!

ถึงแม้ว่าฝ่าบาทจะเคยตกลงกับองค์หญิงหลินหลางเอาไว้ แต่ไม่ว่าใครก็ตามคงไม่สามารถยับยั้งความดึงดูดใจของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เอาไว้ได้

“ฆ่ามู่หรงเฉียนเยี่ยซะ ไม่ใช่สิ ฆ่ามู่เฉียนซีซะ! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ต้องฆ่านางให้ได้”

หลังจากที่ผู้อาวุโสสูงสุดออกคำสั่งเช่นนี้แล้ว อู๋ตี้กับเสี่ยวหงก็ไม่จำเป็นต้องลงมืออย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ แล้ว ตอนนี้สถานการณ์นั้นแย่มาก

ครั้งก่อนอาถิงได้ใช้พลังอำนาจข่มขู่ตำหนักตงจี๋ ดูเหมือนจะเป็นเทพแห่งผู้กล้า และนั่นก็ทำให้เขาสูญเสียพลังไปจนหมดแล้ว จึงหลับใหลลงไปอีกครั้ง

เซียวเหยากลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซีและกล่าวว่า “นายท่าน เรารีบออกไปจากที่นี่เถอะ!”

ที่นี่คือตระกูลเซียว ถึงแม้ว่าจะเอาชนะพวกเขาไม่ได้ แต่การหนีออกไปอย่างปลอดภัยนั้นสามารถทำได้

มู่เฉียนซีกล่าวเสียงขรึมว่า “รอให้เสี่ยวไป๋ฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ผู้อาวุโสสูงสุดมีจิตใจทะเยอทะยานสูงมาก หากปล่อยเสี่ยวไป๋ที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้เอาไว้ที่นี่ก็ไม่อาจรับประกันได้เลยว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะไม่ทำอะไรเขา

“แต่กลัวว่าจะรับมือเอไว้ได้อีกไม่นานแล้ว!” เซียวเหยาก็ร้อนใจมาก

ชิงอิ่งก็ไม่พัวพันกับผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว เขากลับมาอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี

ชิงอิ่งกับเซียวเหยาคุ้มกันซ้ายขวามู่เฉียนซี

“จัดการหัวหน้ามันก่อน” มู่เฉียนซีให้ชิงอิ่งไปจับตัวผู้อาวุโสสูงสุดก่อน จับด้วยวิธีไหนก็ได้ขอแค่ไม่ให้ตายก็พอ

เดิมทีนางก็อยากหาโอกาสที่จะลงมือกับเจ้าเฒ่านี่เหมือนกัน ในเมื่อตอนนี้เขาลงมือแล้ว เช่นนั้นก็ปล่อยให้เลยตามเลยไปก็แล้วกัน

ตัวตนถูกเปิดเผยแล้ว มู่เฉียนซีก็ไม่จำเป็นต้องแอบซ่อนกระบี่มังกรเพลิงแล้ว

“มังกรเพลิงสังหาร!”

“บัวแดงพิฆาต!”

ลำแสงสีแดงฉานเปล่งประกายเจิดจรัสขึ้นหลังภูเขาตระกูลเซียว

ด้วยทักษะวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัว มู่เฉียนซีใช้กระบี่โจมตีศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ยอดฝีมือของตำหนักเป่ยหานก็ไม่ได้อ่อนแอเลย ในตอนนี้มู่เฉียนซีก็ยังคงยืนหยัดอยู่ต่อไป และในที่สุดชิงอิ่งก็ได้โอกาสจับตัวผู้อาวุโสสูงสุด

แต่ผู้อาวุโสสูงสุดโบกมือและคว้าร่างในชุดสีแดงเข้มที่อยู่ใกล้เขามากที่สุดเอาไว้

คนผู้นั้นก็คือหลิง!

เขาไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุดได้ ไม่อาจช่วยมู่เฉียนซีรับมือกับผู้อาวุโสสูงสุด เพราะนั่นเท่ากับเขารนหาที่ตาย

และสิ่งที่เขายิ่งไม่อยากทำก็คือการต่อสู้กับมู่เฉียนซี ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยืนอยู่ในที่ที่ใกล้กับผู้อาวุโสสูงสุดมากที่สุด

หากผู้อาวุโสสูงสุดต้องการจะลงมือกับมู่เฉียนซี เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อลอบโจมตีผู้อาวุโสสูงสุด

มู่เฉียนซีเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะลากอารองของนางมาเป็นโล่กำบัง นางร้อนอกร้อนใจมาก ในตอนนี้จึงถูกผู้อาวุโสท่านหนึ่งโจมตี!

ปัง! มู่เฉียนซีถูกโจมตีจนกระเด็นลอยออกไป

ชิงอิ่งรีบพุ่งไปข้างกายมู่เฉียนซี เขารู้ดีว่าเฉียนของเขานั้นเป็นห่วงคนผู้นี้มากเพียงใด

เพราะคนผู้นี้ คือญาติของนาง!

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคำว่า ‘ญาติ’ มันเป็นความสัมพันธ์แบบใด แต่เขารู้ว่ามันสำคัญมาก!

ดังนั้นเขาจึงจำต้องหยุด!

เดิมทีผู้อาวุโสสูงสุดต้องการใช้หลิงเป็นเกราะกำบังรับการโจมตีนี้แทนเขา อย่างไรเสียก็คงไม่ตายอย่างแน่นอน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผู้โหดร้ายผู้นี้จะหยุดชะงักไป

ตูม! เขาจึงฉวยโอกาสนี้ลงมือกับชิงอิ่ง ใช้พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งโจมตีจนชิงอิ่งกระเด็นลอยออกไป

ถึงแม้ว่าการโจมตีนี้จะไม่ได้ทำให้ชิงอิ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ก็ทำให้ชิงอิ่งกระเด็นลอยไปอยู่ไกลจากมู่เฉียนซีมาก!

จากนั้นผู้อาวุโสสูงสุดก็พรวดไปตรงหน้ามู่เฉียนซีที่กำลังบาดเจ็บและไม่มีคนคอยคุ้มกัน

“มู่เฉียนซี เจ้ายอมตายในเงื้อมมือของข้าซะโดยดีและเอากระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาให้ข้าได้แล้ว”

มือที่แห้งเหี่ยวคู่นั้นพุ่งตรงไปที่หัวใจของมู่เฉียนซี

และในตอนนี้เอง ด้านหลังของผู้อาวุโสสูงสุดก็มีลมพัดกระโชกแรงเข้ามา กระบี่ขนาดใหญ่แทงมาจากด้านหลังของเขา

“อย่า…” มู่เฉียนซีตะโกนขึ้น

แต่มันก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเห็นมู่เฉียนซีมีอันตรายเช่นนี้ ในหัวของหลิงก็ว่างเปล่า

เขาไม่อาจคิดมากได้ จึงลงมือไปทันที!

ผู้อาวุโสสูงสุดเองก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าคนที่เขาคิดว่าอยู่ในกำมือของเขามาโดยตลอดจะลงมือกับเขาเช่นนี้ได้

หากปลายกระบี่เล่มนี้แทงทะลุร่างเขาจริง ๆ เขาก็คงต้องตายโดยไม่ทันได้รู้สึกบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่แท้

ทว่า จู่ ๆ แสงสีทองก็เปล่งประกายขึ้นและห่อหุ้มร่างของผู้อาวุโสสูงสุดเอาไว้

นี่คืออาวุธวิญญาณป้องกันตัว!

ตูม! เสียงดังสนั่นขึ้น ภายใต้อาวุธวิญญาณป้องกันตัวนี้ กระบี่ของหลิงเกิดรอยแยกขึ้น แต่ผู้อาวุโสสูงสุดกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ร่างของมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวไปลากหลิงออกมาจากผู้อาวุโสสูงสุด และในตอนนี้เองชิงอิ่งก็กลับมาแล้ว

แสงสีทองได้จางหายไป ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องมองหลิงด้วยความขุ่นเคือง “หลิง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะทรยศข้าได้ มันทำให้ข้าแปลกใจยิ่งนัก”

ชั่วครู่หนึ่ง สีหน้าของหลิงพลันซีดเผือดขึ้น

มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่าพลังในร่างกายของหลิงเริ่มปั่นป่วน มู่เฉียนซีจับมือเขาเอาไว้

สำหรับสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ว่านางจะมั่นใจในฝีมือการปรุงยาของตัวเองมาก แต่นางก็ไม่กล้าวู่วามเลย

“เพื่อสาวน้อยคนนี้คนเดียว เจ้าถึงกับกล้าทรยศข้า” ผู้อาวุโสสูงสุดมองหลิงด้วยแววตาประหลาดใจ